เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4504063
ทนายเดชา ตอบข้อกฎหมาย ยาย 74 ป่วยอัลไซเมอร์ เข้าบ้านผิด ถูกสุนัขขย้ำเสียชีวิตสลด
จากกรณี นางประไพพิศ อายุ 74 ปี ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ มักมีอาการหลงๆ ลืมๆ เข้าบ้านผิดหลัง จนถูกสุนัข พันธุ์ไทย อายุ 2 ปี สีน้ำตาล ชื่อเพิ่ม อยู่ภายในบ้าน กัดจนเสียชีวิตนั้น
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ โพสต์คลิปให้ความรู้ข้อกฎหมายในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ในความเห็นทางกฎหมายนั้น กรณีของยายป่วยอัลไซเมอร์ เข้าบ้านผิดโดนสุนัขกัดตาย หลายคนถามมาว่า เจ้าของบ้านต้องรับผิดหรือไม่
ในหลักกฎหมายนั้น เคหะสถานถือเป็นที่ อยู่ส่วนบุคคล รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ ดังนั้น ใครบุกรุกเข้ามาในเคหะสถาน และโดนสุนัขกัดตายแบบกรณีนี้ คนที่บุกรุกเข้ามาไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหาย หรือจะให้เจ้าของบ้านรับผิดได้ เพราะถือว่า เป็นการบุกรุกเข้ามาละเมิดในบ้านของบุคคลอื่น
นี่เป็นหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการป้องกัน ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ คุ้มครองเกี่ยวกับสิทธิเคหะสถาน คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่คุณยายป่วยเป็นอัลไซเมอร์ จำบ้านผิด เข้าบ้านผิด และคนเลี้ยงสุนัข ต้องเลี้ยงด้วยความระมัดระวัง คดีนี้ถือว่า เจ้าของบ้านได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว เนื่องจากสุนัขอยู่ในเคหะสถานของตนเอง
ครอบครัวทำใจไม่ได้ แต่เข้าใจเป็นอุบัติเหตุ ไม่ติดใจหมาขย้ำยาย 74 เสียชีวิต
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4504128
คืบหน้า หญิงชราวัย 74 โดนหมาขย้ำเสียชีวิต ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ แต่เข้าใจเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางประไพพิศ อายุ 74 ปี ป่วยอัลไซเมอร์ มักมีอาการหลงๆ ลืมๆ ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ รพ.ราชพิพัฒน์ พักอยู่กับลูกสะใภ้และครอบครัว บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ โดนสุนัขพันธุ์ไทย อายุ 2 ปี ชื่อเพิ่ม ขย้ำจนถึงแก่ชีวิต โดยร่างนางประไพพิศมีบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกของแหลมเจาะลึกที่ใต้กกหูซ้ายใกล้ลำคอและที่ศีรษะ เหตุเกิดค่ำวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด นางสุทธินันทน์ อายุ 50 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ เผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนอยู่ที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 19.09 น. เพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า “แม่ถูกหมากัด เป็นลมสลบ” ด้วยความตกใจจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงพบว่าแม่นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกของมีคมลึกใต้กกหูซ้ายใกล้ลำคอ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในบ้าน ตั้งแต่หลังเกิดเหตุยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเจ้าของบ้านแต่อย่างใด
นางสุทธินันทน์กล่าวว่า แม่เข้าบ้านผิดหลายครั้ง เพราะเป็นอัลไซเมอร์ได้ประมาณ 1 ปี ผ่านมาตนดูแลอย่างใกล้ชิด เวลาไปไหนมาไหนมักจะพาแม่ไปด้วยกันทุกครั้ง ซึ่งระยะหลังๆ แม่มีอาการดีขึ้น เพราะกินยาตามแพทย์ตลอดเวลา แต่วันเกิดเหตุบังเอิญไม่ได้พาไปแม่ไป รพ.ด้วย จึงเป็นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นางสุทธินันทน์กล่าวต่อว่า สำหรับบ้านที่เกิดเหตุนั้น ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยหลงเข้าไปเลย เพราะบ้านหลังดังกล่าวล็อกประตูไว้ตลอด ประกอบกับมีสุนัขพันธุ์ไทยคอยเฝ้าบ้านตลอดเวลา แต่ไม่เคยเห็นกัดใคร คาดว่าวันเกิดเหตุคงลืมล็อกประตู ทำให้แม่เดินเข้าไปได้ ทั้งนี้ ไม่ติดใจการเสียชีวิตของแม่แต่อย่างใด เพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวตอนนี้ค่อนข้างย่ำแย่ ยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวนำร่างนางประไพพิศตั้งบำเพ็ญกุศลวัดศาลาแดง ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา บางแค กรุงเทพมหานคร สวดพระอภิธรรมถึงวันที่ 3 เมษายน และประชุมเพลิงวันที่ 4 เมษายน เวลา 16.00 น.
ทนายเดชา ตอบข้อกฎหมาย ยาย 74 ป่วยอัลไซเมอร์ เข้าบ้านผิด ถูกสุนัขขย้ำเสียชีวิตสลด
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4504063
ทนายเดชา ตอบข้อกฎหมาย ยาย 74 ป่วยอัลไซเมอร์ เข้าบ้านผิด ถูกสุนัขขย้ำเสียชีวิตสลด
จากกรณี นางประไพพิศ อายุ 74 ปี ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ มักมีอาการหลงๆ ลืมๆ เข้าบ้านผิดหลัง จนถูกสุนัข พันธุ์ไทย อายุ 2 ปี สีน้ำตาล ชื่อเพิ่ม อยู่ภายในบ้าน กัดจนเสียชีวิตนั้น
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ โพสต์คลิปให้ความรู้ข้อกฎหมายในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ในความเห็นทางกฎหมายนั้น กรณีของยายป่วยอัลไซเมอร์ เข้าบ้านผิดโดนสุนัขกัดตาย หลายคนถามมาว่า เจ้าของบ้านต้องรับผิดหรือไม่
ในหลักกฎหมายนั้น เคหะสถานถือเป็นที่ อยู่ส่วนบุคคล รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ ดังนั้น ใครบุกรุกเข้ามาในเคหะสถาน และโดนสุนัขกัดตายแบบกรณีนี้ คนที่บุกรุกเข้ามาไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหาย หรือจะให้เจ้าของบ้านรับผิดได้ เพราะถือว่า เป็นการบุกรุกเข้ามาละเมิดในบ้านของบุคคลอื่น
นี่เป็นหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการป้องกัน ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ คุ้มครองเกี่ยวกับสิทธิเคหะสถาน คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่คุณยายป่วยเป็นอัลไซเมอร์ จำบ้านผิด เข้าบ้านผิด และคนเลี้ยงสุนัข ต้องเลี้ยงด้วยความระมัดระวัง คดีนี้ถือว่า เจ้าของบ้านได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว เนื่องจากสุนัขอยู่ในเคหะสถานของตนเอง
ครอบครัวทำใจไม่ได้ แต่เข้าใจเป็นอุบัติเหตุ ไม่ติดใจหมาขย้ำยาย 74 เสียชีวิต
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4504128
คืบหน้า หญิงชราวัย 74 โดนหมาขย้ำเสียชีวิต ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ แต่เข้าใจเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางประไพพิศ อายุ 74 ปี ป่วยอัลไซเมอร์ มักมีอาการหลงๆ ลืมๆ ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ รพ.ราชพิพัฒน์ พักอยู่กับลูกสะใภ้และครอบครัว บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ โดนสุนัขพันธุ์ไทย อายุ 2 ปี ชื่อเพิ่ม ขย้ำจนถึงแก่ชีวิต โดยร่างนางประไพพิศมีบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกของแหลมเจาะลึกที่ใต้กกหูซ้ายใกล้ลำคอและที่ศีรษะ เหตุเกิดค่ำวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด นางสุทธินันทน์ อายุ 50 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ เผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนอยู่ที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 19.09 น. เพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า “แม่ถูกหมากัด เป็นลมสลบ” ด้วยความตกใจจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงพบว่าแม่นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกของมีคมลึกใต้กกหูซ้ายใกล้ลำคอ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในบ้าน ตั้งแต่หลังเกิดเหตุยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเจ้าของบ้านแต่อย่างใด
นางสุทธินันทน์กล่าวว่า แม่เข้าบ้านผิดหลายครั้ง เพราะเป็นอัลไซเมอร์ได้ประมาณ 1 ปี ผ่านมาตนดูแลอย่างใกล้ชิด เวลาไปไหนมาไหนมักจะพาแม่ไปด้วยกันทุกครั้ง ซึ่งระยะหลังๆ แม่มีอาการดีขึ้น เพราะกินยาตามแพทย์ตลอดเวลา แต่วันเกิดเหตุบังเอิญไม่ได้พาไปแม่ไป รพ.ด้วย จึงเป็นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นางสุทธินันทน์กล่าวต่อว่า สำหรับบ้านที่เกิดเหตุนั้น ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยหลงเข้าไปเลย เพราะบ้านหลังดังกล่าวล็อกประตูไว้ตลอด ประกอบกับมีสุนัขพันธุ์ไทยคอยเฝ้าบ้านตลอดเวลา แต่ไม่เคยเห็นกัดใคร คาดว่าวันเกิดเหตุคงลืมล็อกประตู ทำให้แม่เดินเข้าไปได้ ทั้งนี้ ไม่ติดใจการเสียชีวิตของแม่แต่อย่างใด เพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวตอนนี้ค่อนข้างย่ำแย่ ยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวนำร่างนางประไพพิศตั้งบำเพ็ญกุศลวัดศาลาแดง ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา บางแค กรุงเทพมหานคร สวดพระอภิธรรมถึงวันที่ 3 เมษายน และประชุมเพลิงวันที่ 4 เมษายน เวลา 16.00 น.