ใครอยากเดินเที่ยวโอซาก้าบ้าง ยกมือขึ้นจ้า....
คนที่มาเที่ยวโอซาก้ารับรองจะต้องได้เดินผ่านห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi ) อย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่เคยแวะเข้าไป หรือไม่รู้ว่าห้างนี้มีอะไรให้ช็อปปิ้งกันบ้าง วันนี้เราจะพาทุกๆคนไปชมกันค่ะ
ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi )
ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi ) ห่างหรูคู่ถนนสายช็อปปิ้งชินไซบาชิเกือบ 300 ปี ห้างรวมสินค้านานาชนิดๆ ตั้งแต่แบรนด์เนมหรู ไปจนถึงของฝากท้องถิ่น และร้านอาหารอร่อยๆไว้มากมาย ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิมี 2 อาคาร คืออาคารหลัก ( Main Building ) และอาคารใต้ ( South Building )
การเดินทาง
เดินทางง่ายสุดๆ เพราะเราสามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานี ชินไซบาชิ ( Shinsaibashi station ) และใช้ทางออก ชื่อมต่อโดยตรงกับทางเข้าใต้ดินจากทางออก 4 ของประตูตรวจตั๋วทิศใต้ หรือถ้าใครลงที่สถานี นัมบะ ( Namba Station ) ก็ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
มาดูไฮไลท์กันบ้าง
โปเกม่อนเซ็นเตอร์ (Pokémon Center)
"Pokémon Center" เป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการของโปเกมอนที่ไม่เพียงมีแค่เกมโปเกมอนและเกมไพ่เท่านั้น แต่ยังมีสินค้า Originl ที่หลากหลาย รวมถึงบริการและแคมเปญที่น่าสนใจอีกด้วย ตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก
โปเกม่อนคาเฟ่ (Pokémon Cafe)
นอกจากนี้ บนชั้น 9 ของอาคารหลักยังมี Pokemon Café ที่คุณสามารถอร่อยกับอาหารและขนมหวานน่ารัก ๆ ที่ตกแต่งด้วยโปเกมอนและตัวละครอื่น ๆ สร้างพื้นที่สนุกสนานที่เต็มไปด้วยโปเกมอน หากคุณต้องการใช้บริการร้านกาแฟ จำเป็นต้องจองล่วงหน้าทางออนไลน์
© 2024 Pokémon. © 1995-2024 Nintendo/Creatures Inc. /GAME FREAK inc.
TM, ®, and character names are trademarks of Nintendo.
ทริคอาร์ท ( 3D Trick Art )
นอกจากจะเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งได้แล้ว ที่นี่ยังมีโซนทริคอาร์ท ( 3D Trick Art ) บนฝาผนังอยู่ที่บันไดชั้น 1 ไปจนถึงชั้นลอย ของอาคารใต้ ( South Buildong ) ให้เราสามารถมาถ่ายรูปเล่นกันได้อีกด้วย
Shinsaibashi Time Terrace
สวนเล็กๆบนชั้น 7 ของอาคารหลักที่ใครๆก็สามารถขึ้นมาชมวิวได้ จากสวนจะมีระเบียงแก้วที่เราสามารถมองเห็นวิวถนนมิโดซูจิซึ่งเป็นถนนสายหลักกลางโอซาก้า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะเห็นต้นแปะก๋วยสีเหลืองอร่าม ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็จะเห็นถนนที่ประดับไฟโรแมนติกมากๆ
ร้านแนะนำสำหรับสายช้อปปิ้ง
มินต์ ( Mint ) นี่คือร้านขายการ์ดที่มีหลากหลายรูปแบบ นอกจากการกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล และเบสบอลแล้ว ยังมีเกมไพ่อีกมากมาย นอกจากนี้เรายังมีสินค้าบางรายการทีไม่ได้หาได้ง่ายๆ อีกด้วย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก
ไดมารุ โกลด์ซารอน ( Daimaru Gold Salon )
ร้านทองที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคารหลักที่เหมาะสำหรับนักสะสม มีสินค้าทำมาจากทองคำแท้ 24K หรือ 18K ด้วยลวดลายวิจิตรบรรจงบ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ และยังมีเครื่องบูชาพุทธ เครื่องสาเก เครื่องชงชา รูปใหญ่และเล็ก เครื่องประดับ ฯลฯหลายแบบหลายสไตล์ ซื้อไปสะสมก็ดีหรือจะ ซื้อไปเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ก็ต้องถูกใจแน่นอน
อย่าพลาดช้อปปิ้งบริเวณร้านรองเท้าบนชั้น 5 ของอาคารหลัก ซึ่งมีแบรนด์ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างออน On ยังจำหน่ายรองเท้าผ้าใบผู้ชาย นอกจากนี้ที่นี่คนไม่พลุกพล่านจึงสามารถเลือกซื้อของได้ตามใจชอบ แถม Tax free ได้ด้วยนะ
บริการเสริมสุดว้าวของที่นี่ก็คือ เครื่องวัดเท้าแบบ 3D ที่เราสามารถขอใช้บริการได้ สำหรับคนที่ไม่แน่ใจไซส์รองเท้าตัวเอง พอวัดเสร็จเค้าก็จะมีกระดาษแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษให้เราด้วย
เสื้อผ้าสตรี
โซนสำหรับคุณผู้หญิงที่รักสไตล์การแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ 5 ของอาคารหลักเช่นกัน มีเสื้อผ้าหลากหลายแนวใส่ได้หลายโอกาสจากแบรนด์ต่างๆ มีตั้งแต่เสื้อผ้าวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่กันเลย
Jurgen Lehl + Babaghuri
ร้านเสื้อผ้าที่ไม่ได้มีแต่เสื้อผ้า เพราะร้านนี้เค้าเน้นการใช้ของจากธรรมชาติ 100 % เสื้อผ้าที่ใส่สบายเน้นไปทางสีเอิร์ธโทน นอกจากเสื้อผ้าแล้ว เรายังจำหน่ายของใช้ในครัวเรือนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 อาคารหลัก
เจ ดอท ( J. )
เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าผู้หญิงสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงานต้องร้านนี้เลย แบรนด์นี้ให้ความสำคัญกับวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดีและการตัดเย็บแบบสามมิติที่ทำให้รูปร่างของผู้หญิงดูน่าดึงดูด คุณสามารถใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ญี่ปุ่นไปทำงานหรือจะใส่ไปเดทก็ได้ ด้วยการ Mix & Matchไอเท็มแต่ละชิ้น คุณจะไม่เบื่อกับเสื้อผ้าเลย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 5 ของอาคารหลัก
เอ็กซ์เซีย (AXXZIA)
มาที่โซนเครื่องสำอางกันบ้าง แบรนด์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้เป็นเครื่องสำอางค์แบรนด์ญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างแบรนด์ เอ็กซ์เซีย ( AXXZIA ) ที่มีทั้งเครื่องดื่มบำรุงผิวพรรณ ครีมบำงรุงผิวต่างๆ แต่ที่ดังที่สุดของที่นี่คือมาร์คใต้ตาที่สามารถใช้ได้ทุกวัน
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
เอ โกลบอล (A. GLOBAL)
เอ โกลบอล (A. GLOBAL) แบรนด์อุปกรณ์เสริมความสุดหรูจากญี่ปุ่น ที่เหมือนยกคลีนิคเสริมความงามมาไว้ที่บ้าน ด้วยนวัตกรรมการใช้แสงและคลื่นความถี่ที่สามารถยกกระชับได้แบบเห็นผลจากการใช้ตั้งแต่ครั้งแรก ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
ของกินและของฝาก
551 โฮไร ( 551 Horai ) ร้านซาลาเปาเจ้าดังของโอซาก้า ตั้งอยู่ชั้น B1 อาคารหลัก ที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเองก็ต้องแวะมาซื้อเมื่อมาเยือน ซาลาเปาแป้งนุ่มไส้หมูแน่นๆขนมจีบก็อร่อย และยังมีเบนโตะอาหารจีนพร้อมที่นั่งทาน แถมไม่ต้องต่อแถวรอนานเหมือนร้านข้างนอกด้วย
ฮิจิริอัง ( Hijirian )
ร้านขนมปังที่มีคาเฟ่เล็กๆอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก ขนมปังของทางร้านจะใช้ยีสต์ธรรมชาติในการทำที่ดีต่อร่างกาย นอกจากขนมปังแล้วก็ยังมีเมนูแนะนำอย่างขนมปังไส้แกงกะหรี่หอมๆ และแซนวิซเนื้อด้วย
เบค (BAKE the SHOP)
ร้านชีสทาร์ตเจ้าอร่อยที่มีสาขาที่โอซาก้าแค่ที่ห้างนี้เท่านั้น ของขึ้นชื่อนอกจากชีสทาร์ตแล้วก็ยังมีพายแอปเปิ้ลและเพรสบัตเตอร์แซนวิชที่สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ด้วย หรือใครอยากลองทาร์ตรสชาติตามฤดูกาลที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็ไม่เบื่อ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
อันโกะ โนะ คะจิ ( Anko no Kachi )
ร้านนี้เป็นร้านขนมหวานที่ Collabs กับขนมตะวันตกและขนมญี่ปุ่นที่เรียกว่าถั่วแดงบด ด้วยการนำเทคนิคที่ใช้ทำขนมตะวันตกมาผสมผสานกับถั่วแดงบดของญี่ปุ่น เราจึงได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ถั่วแดงกวน ของฝากขึ้นชื่อของร้านนี้คือ ขนมมันหวานถั่วแดง ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
ร้านริกุโร่ โอจิซัง ( Rikuro Ojisan no Mise )
ร้านชีสเค้กที่ทุกคนรู้จัก ร้าน ริกุโร่ โอจิซัง ( Rikuro Ojisan no Mise) ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอร่อยแค่ไหน กับชีสเค้กนุ่มๆของร้านนี้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
ร้านอาหารแนะนำ
อากะซากะ ฟุกินุกิ ( Akasaka Fukinuki ) ร้านข้าวหน้าปลาไหลตำนาน 100 ปีที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคารหลัก ที่มีให้เลือกแบบข้าวหน้าปลาไหลเนื้อนุ่มแบบปกติทานง่ายหรือแบบ ฮิซึมาบุชิ ( Hitsumabushi ) ที่มีวิธีการทานทั้งหมด 3 แบบให้เลือกในเซ็ทเดียว กินคนเดียว อิ่มมากๆค่า
ซูชิมัง ( Sushiman ) ร้านซูชิเก่าแก่จากโอซาก้าที่การันตีความอร่อยด้วยร้านที่เปิดมากว่า 370 ปี สไตล์ร้านหรูหรากับซูชิที่มาแบบเซ็ทอลังการ ที่ไม่ใช่แค่เห็นอาหารปากแต่ยังเป็นอาหารตาด้วย ใครอยากชิมซูชิคุณภาพดีลองมาทานกันดู ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคารหลัก
คาเฟ่ โฟกรีนลีฟส์ ( Cafe Four Green Leaves )
จะเป็นสายหวานหรือสายเข้มก็ต้องถูกใจกับร้านนี้ คาเฟ่ที่มีเจลาโต้ชาเขียวคุณภาพจากแบรนด์อิโต้เอ็น ( Itoen ) แบรนด์ช้าชื่อดังของญี่ปุ่น ที่เราสามารถเลือกความเข้มข้นได้ หรือจะเลือกผสมกันระหว่างเข้มน้อยสุดกับเข้มมากสุดก็อร่อยลงตัว ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
ฟู๊ดคอร์ท ( Food Court )
สำหรับใครที่มากันหลายคนแล้วอยากทานอาหารไม่เหมือนกัน ทางห้างเค้าก็มีบริการฟู้ดคอร์ทอยู่ที่ชั้น B2 ของอาคารหลัก ที่โต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งค่อนข้างเยอะ ร้านอาหารก็มีทั้งราเมง, ซูชิ, เนื้อชุปแป้งทอดคุณยังสามารถซื้อ “เบนโตะซูชิ” ได้ที่ “ร้านขายปลาสดเฉพาะทาง” “Uokumi“ ที่อยู่ติดกัน และรับประทานภายในศูนย์อาหาร
บริการอื่นๆ
จุดบริการลูกค้าต่างชาติ ( Foreign Customer Service Center )ตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก ศูนย์แห่งนี้มีพนักงานที่พูดได้หลายภาษาและอยู่ติดกับห้องรับรองสำหรับลูกค้าต่างประเทศ ดังนั้นคุณจึงสามารถทำ Tax free ได้อย่างสะดวกสบาย เวลาทำการคือตั้งแต่ 10:00 น. - 20:00 น.
เลาจ์สำหรับลูกค้าต่างชาติ ( Foreign Customer Lounge )
เลานจ์ที่ให้บริการสำหรับลูกค้า VIP ชาวต่างชาติ ที่ใช้จ่ายซื้อสิ้นค้า 1,000,000 เยน (รวมภาษี) ขึ้นไป ภายในวันนั้น หรือเป้นสมาชิกแอพพลิเคชั่นที่ใช้จ่ายเกิน 2,000,000 เยน (ไม่รวมภาษี) ต่อปี แต่สำหรับใครที่เป็นสมาชิก The 1 Exclusive สามารถใช้เลานจ์ได้ฟรีถึง 31 พฤษภาคม 2024 ภายในเลาจ์มีบริการ เครื่องดื่ม, ของทานเล่น, เก้าอี้นวดและบริการฝากกระเป๋า
ต่อที่คอมเมนท์เลยจ้า
พาเดินเที่ยวห้างไดมารุ ชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi ) ห้างสรรพสินค้าที่สายช้อปปิ้งห้ามพลาดเมื่อมาโอซาก้า
คนที่มาเที่ยวโอซาก้ารับรองจะต้องได้เดินผ่านห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi ) อย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่เคยแวะเข้าไป หรือไม่รู้ว่าห้างนี้มีอะไรให้ช็อปปิ้งกันบ้าง วันนี้เราจะพาทุกๆคนไปชมกันค่ะ
ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi )
ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิ ( Daimaru Shinsaibashi ) ห่างหรูคู่ถนนสายช็อปปิ้งชินไซบาชิเกือบ 300 ปี ห้างรวมสินค้านานาชนิดๆ ตั้งแต่แบรนด์เนมหรู ไปจนถึงของฝากท้องถิ่น และร้านอาหารอร่อยๆไว้มากมาย ห้างไดมารุ สาขาชินไซบาชิมี 2 อาคาร คืออาคารหลัก ( Main Building ) และอาคารใต้ ( South Building )
การเดินทาง
เดินทางง่ายสุดๆ เพราะเราสามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานี ชินไซบาชิ ( Shinsaibashi station ) และใช้ทางออก ชื่อมต่อโดยตรงกับทางเข้าใต้ดินจากทางออก 4 ของประตูตรวจตั๋วทิศใต้ หรือถ้าใครลงที่สถานี นัมบะ ( Namba Station ) ก็ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
มาดูไฮไลท์กันบ้าง
โปเกม่อนเซ็นเตอร์ (Pokémon Center)
"Pokémon Center" เป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการของโปเกมอนที่ไม่เพียงมีแค่เกมโปเกมอนและเกมไพ่เท่านั้น แต่ยังมีสินค้า Originl ที่หลากหลาย รวมถึงบริการและแคมเปญที่น่าสนใจอีกด้วย ตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก
โปเกม่อนคาเฟ่ (Pokémon Cafe)
นอกจากนี้ บนชั้น 9 ของอาคารหลักยังมี Pokemon Café ที่คุณสามารถอร่อยกับอาหารและขนมหวานน่ารัก ๆ ที่ตกแต่งด้วยโปเกมอนและตัวละครอื่น ๆ สร้างพื้นที่สนุกสนานที่เต็มไปด้วยโปเกมอน หากคุณต้องการใช้บริการร้านกาแฟ จำเป็นต้องจองล่วงหน้าทางออนไลน์
© 2024 Pokémon. © 1995-2024 Nintendo/Creatures Inc. /GAME FREAK inc.
TM, ®, and character names are trademarks of Nintendo.
ทริคอาร์ท ( 3D Trick Art )
นอกจากจะเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งได้แล้ว ที่นี่ยังมีโซนทริคอาร์ท ( 3D Trick Art ) บนฝาผนังอยู่ที่บันไดชั้น 1 ไปจนถึงชั้นลอย ของอาคารใต้ ( South Buildong ) ให้เราสามารถมาถ่ายรูปเล่นกันได้อีกด้วย
Shinsaibashi Time Terrace
สวนเล็กๆบนชั้น 7 ของอาคารหลักที่ใครๆก็สามารถขึ้นมาชมวิวได้ จากสวนจะมีระเบียงแก้วที่เราสามารถมองเห็นวิวถนนมิโดซูจิซึ่งเป็นถนนสายหลักกลางโอซาก้า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะเห็นต้นแปะก๋วยสีเหลืองอร่าม ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็จะเห็นถนนที่ประดับไฟโรแมนติกมากๆ
ร้านแนะนำสำหรับสายช้อปปิ้ง
มินต์ ( Mint ) นี่คือร้านขายการ์ดที่มีหลากหลายรูปแบบ นอกจากการกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล และเบสบอลแล้ว ยังมีเกมไพ่อีกมากมาย นอกจากนี้เรายังมีสินค้าบางรายการทีไม่ได้หาได้ง่ายๆ อีกด้วย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก
ไดมารุ โกลด์ซารอน ( Daimaru Gold Salon )
ร้านทองที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคารหลักที่เหมาะสำหรับนักสะสม มีสินค้าทำมาจากทองคำแท้ 24K หรือ 18K ด้วยลวดลายวิจิตรบรรจงบ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ และยังมีเครื่องบูชาพุทธ เครื่องสาเก เครื่องชงชา รูปใหญ่และเล็ก เครื่องประดับ ฯลฯหลายแบบหลายสไตล์ ซื้อไปสะสมก็ดีหรือจะ ซื้อไปเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ก็ต้องถูกใจแน่นอน
อย่าพลาดช้อปปิ้งบริเวณร้านรองเท้าบนชั้น 5 ของอาคารหลัก ซึ่งมีแบรนด์ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างออน On ยังจำหน่ายรองเท้าผ้าใบผู้ชาย นอกจากนี้ที่นี่คนไม่พลุกพล่านจึงสามารถเลือกซื้อของได้ตามใจชอบ แถม Tax free ได้ด้วยนะ
บริการเสริมสุดว้าวของที่นี่ก็คือ เครื่องวัดเท้าแบบ 3D ที่เราสามารถขอใช้บริการได้ สำหรับคนที่ไม่แน่ใจไซส์รองเท้าตัวเอง พอวัดเสร็จเค้าก็จะมีกระดาษแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษให้เราด้วย
เสื้อผ้าสตรี
โซนสำหรับคุณผู้หญิงที่รักสไตล์การแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ 5 ของอาคารหลักเช่นกัน มีเสื้อผ้าหลากหลายแนวใส่ได้หลายโอกาสจากแบรนด์ต่างๆ มีตั้งแต่เสื้อผ้าวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่กันเลย
Jurgen Lehl + Babaghuri
ร้านเสื้อผ้าที่ไม่ได้มีแต่เสื้อผ้า เพราะร้านนี้เค้าเน้นการใช้ของจากธรรมชาติ 100 % เสื้อผ้าที่ใส่สบายเน้นไปทางสีเอิร์ธโทน นอกจากเสื้อผ้าแล้ว เรายังจำหน่ายของใช้ในครัวเรือนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 อาคารหลัก
เจ ดอท ( J. )
เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าผู้หญิงสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงานต้องร้านนี้เลย แบรนด์นี้ให้ความสำคัญกับวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดีและการตัดเย็บแบบสามมิติที่ทำให้รูปร่างของผู้หญิงดูน่าดึงดูด คุณสามารถใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ญี่ปุ่นไปทำงานหรือจะใส่ไปเดทก็ได้ ด้วยการ Mix & Matchไอเท็มแต่ละชิ้น คุณจะไม่เบื่อกับเสื้อผ้าเลย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 5 ของอาคารหลัก
เอ็กซ์เซีย (AXXZIA)
มาที่โซนเครื่องสำอางกันบ้าง แบรนด์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้เป็นเครื่องสำอางค์แบรนด์ญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างแบรนด์ เอ็กซ์เซีย ( AXXZIA ) ที่มีทั้งเครื่องดื่มบำรุงผิวพรรณ ครีมบำงรุงผิวต่างๆ แต่ที่ดังที่สุดของที่นี่คือมาร์คใต้ตาที่สามารถใช้ได้ทุกวัน
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
เอ โกลบอล (A. GLOBAL)
เอ โกลบอล (A. GLOBAL) แบรนด์อุปกรณ์เสริมความสุดหรูจากญี่ปุ่น ที่เหมือนยกคลีนิคเสริมความงามมาไว้ที่บ้าน ด้วยนวัตกรรมการใช้แสงและคลื่นความถี่ที่สามารถยกกระชับได้แบบเห็นผลจากการใช้ตั้งแต่ครั้งแรก ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
ของกินและของฝาก
551 โฮไร ( 551 Horai ) ร้านซาลาเปาเจ้าดังของโอซาก้า ตั้งอยู่ชั้น B1 อาคารหลัก ที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเองก็ต้องแวะมาซื้อเมื่อมาเยือน ซาลาเปาแป้งนุ่มไส้หมูแน่นๆขนมจีบก็อร่อย และยังมีเบนโตะอาหารจีนพร้อมที่นั่งทาน แถมไม่ต้องต่อแถวรอนานเหมือนร้านข้างนอกด้วย
ฮิจิริอัง ( Hijirian )
ร้านขนมปังที่มีคาเฟ่เล็กๆอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก ขนมปังของทางร้านจะใช้ยีสต์ธรรมชาติในการทำที่ดีต่อร่างกาย นอกจากขนมปังแล้วก็ยังมีเมนูแนะนำอย่างขนมปังไส้แกงกะหรี่หอมๆ และแซนวิซเนื้อด้วย
เบค (BAKE the SHOP)
ร้านชีสทาร์ตเจ้าอร่อยที่มีสาขาที่โอซาก้าแค่ที่ห้างนี้เท่านั้น ของขึ้นชื่อนอกจากชีสทาร์ตแล้วก็ยังมีพายแอปเปิ้ลและเพรสบัตเตอร์แซนวิชที่สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ด้วย หรือใครอยากลองทาร์ตรสชาติตามฤดูกาลที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็ไม่เบื่อ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
อันโกะ โนะ คะจิ ( Anko no Kachi )
ร้านนี้เป็นร้านขนมหวานที่ Collabs กับขนมตะวันตกและขนมญี่ปุ่นที่เรียกว่าถั่วแดงบด ด้วยการนำเทคนิคที่ใช้ทำขนมตะวันตกมาผสมผสานกับถั่วแดงบดของญี่ปุ่น เราจึงได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ถั่วแดงกวน ของฝากขึ้นชื่อของร้านนี้คือ ขนมมันหวานถั่วแดง ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
ร้านริกุโร่ โอจิซัง ( Rikuro Ojisan no Mise )
ร้านชีสเค้กที่ทุกคนรู้จัก ร้าน ริกุโร่ โอจิซัง ( Rikuro Ojisan no Mise) ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอร่อยแค่ไหน กับชีสเค้กนุ่มๆของร้านนี้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B1 อาคารหลัก
ร้านอาหารแนะนำ
อากะซากะ ฟุกินุกิ ( Akasaka Fukinuki ) ร้านข้าวหน้าปลาไหลตำนาน 100 ปีที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคารหลัก ที่มีให้เลือกแบบข้าวหน้าปลาไหลเนื้อนุ่มแบบปกติทานง่ายหรือแบบ ฮิซึมาบุชิ ( Hitsumabushi ) ที่มีวิธีการทานทั้งหมด 3 แบบให้เลือกในเซ็ทเดียว กินคนเดียว อิ่มมากๆค่า
ซูชิมัง ( Sushiman ) ร้านซูชิเก่าแก่จากโอซาก้าที่การันตีความอร่อยด้วยร้านที่เปิดมากว่า 370 ปี สไตล์ร้านหรูหรากับซูชิที่มาแบบเซ็ทอลังการ ที่ไม่ใช่แค่เห็นอาหารปากแต่ยังเป็นอาหารตาด้วย ใครอยากชิมซูชิคุณภาพดีลองมาทานกันดู ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคารหลัก
คาเฟ่ โฟกรีนลีฟส์ ( Cafe Four Green Leaves )
จะเป็นสายหวานหรือสายเข้มก็ต้องถูกใจกับร้านนี้ คาเฟ่ที่มีเจลาโต้ชาเขียวคุณภาพจากแบรนด์อิโต้เอ็น ( Itoen ) แบรนด์ช้าชื่อดังของญี่ปุ่น ที่เราสามารถเลือกความเข้มข้นได้ หรือจะเลือกผสมกันระหว่างเข้มน้อยสุดกับเข้มมากสุดก็อร่อยลงตัว ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารหลัก
ฟู๊ดคอร์ท ( Food Court )
สำหรับใครที่มากันหลายคนแล้วอยากทานอาหารไม่เหมือนกัน ทางห้างเค้าก็มีบริการฟู้ดคอร์ทอยู่ที่ชั้น B2 ของอาคารหลัก ที่โต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งค่อนข้างเยอะ ร้านอาหารก็มีทั้งราเมง, ซูชิ, เนื้อชุปแป้งทอดคุณยังสามารถซื้อ “เบนโตะซูชิ” ได้ที่ “ร้านขายปลาสดเฉพาะทาง” “Uokumi“ ที่อยู่ติดกัน และรับประทานภายในศูนย์อาหาร
บริการอื่นๆ
จุดบริการลูกค้าต่างชาติ ( Foreign Customer Service Center )ตั้งอยู่บนชั้น 9 ของอาคารหลัก ศูนย์แห่งนี้มีพนักงานที่พูดได้หลายภาษาและอยู่ติดกับห้องรับรองสำหรับลูกค้าต่างประเทศ ดังนั้นคุณจึงสามารถทำ Tax free ได้อย่างสะดวกสบาย เวลาทำการคือตั้งแต่ 10:00 น. - 20:00 น.
เลาจ์สำหรับลูกค้าต่างชาติ ( Foreign Customer Lounge )
เลานจ์ที่ให้บริการสำหรับลูกค้า VIP ชาวต่างชาติ ที่ใช้จ่ายซื้อสิ้นค้า 1,000,000 เยน (รวมภาษี) ขึ้นไป ภายในวันนั้น หรือเป้นสมาชิกแอพพลิเคชั่นที่ใช้จ่ายเกิน 2,000,000 เยน (ไม่รวมภาษี) ต่อปี แต่สำหรับใครที่เป็นสมาชิก The 1 Exclusive สามารถใช้เลานจ์ได้ฟรีถึง 31 พฤษภาคม 2024 ภายในเลาจ์มีบริการ เครื่องดื่ม, ของทานเล่น, เก้าอี้นวดและบริการฝากกระเป๋า
ต่อที่คอมเมนท์เลยจ้า