เก่งแต่ขี้เกียจ vs ขยันแต่โง่ สองประโยคที่มีมานาน และคนมักจะเลือกตัวเลือกแรกมากกว่า แต่ผมทำไมคิดต่างกันนะ

เก่งแต่ขี้เกียจ vs ขยันแต่โง่ คือคำที่อยู่คู่กับเรามาช้านาน และพอเป็นแบบนั้นผู้คนกลับมักจะเลือกคำตอบคือ เก่งแต่ขี้เกียจ แต่ผมอาจจะมองมุมกลับกันในเรื่องดังกล่าวมากๆเลย เริ่มต้นจาก

เก่งแต่ขี้เกียจ
แน่นอนว่าเป็นคนเก่งมีความสามารถย่อมเป็นที่ต้องการแต่มันพ่วงมาด้วยคำว่าขี้เกียจ ดูเผินๆมันก็แค่อารมณ์ๆหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ในความหมายตามคำนี้น่าจะหมายถึงนิสัยที่ติดตัวมาอย่างช้านานจนเป็น กมลสันดาน ซึ่งผมมองว่าการทำตัวขี้เกียจ แล้วมีคนบอกว่าถ้าพลักดันเขาสักหน่อยก็คงจะทำงาน และทำได้ดี เขาเก่งแต่ขี้เกียจเท่านั้นเอง แต่ คหสต.ของผมกลับมองว่าคนที่มีนิสัยแบบนี้ คือขี้เกียจจนติดเป็นนิสัยอยู่ๆเขาจะลุกมาทำอะไรมากมายขนาดนั้นอะครับ ก็เพราะเขาขี้เกียจนี่นา ขี้เกียจซะจนชั้นไม่อยากจะทำ แล้วอาจจะพาลไปใช้งานคนอื่นด้วยความฉลาดและเก่งของเขา ผมมองว่าสิ่งนี้มันมีปัญหามากกว่า ขยันแต่ขี้เกียจ ซะอีกเพราะนอกจากจะเอาเปรียบเพื่อนไม่ทำอะไรเลยในบริษัท ต้องคอยตามงอนง้อให้ทำงาน แถมไปใช้งานเพื่อนๆเพราะความขี้เกียจอาจจะก่อให้เกิดปัญหากับเพื่อนร่วมงานซะด้วย
และมีหลายคนบอกว่าเก่งแต่ขี้เกียจ  ไม่เหมือนขยันแต่โง่ ที่ทำแต่เรื่องผิดพลาดแบบโง่ๆ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ผิดพลาดครับ มนุษย์ทุกคนไม่มีใครในโลกสมบูรณ์แบบ ขนาดเครื่องจักร ยังมีผิดพลาดคนเก่งๆจะไม่มีวันพลาดเหรอครับ ไม่น่าจะเป็นไปได้ และอย่างที่บอกไปว่าเราต้องคอยตามงอนง้อเขาในการทำงานทุกอย่าง บริษัทจะไม่แย่เหรอครับ หากวันใดวันนึงคนเก่งคนนั้นรู้สึกได้ถึงอำนาจเหนือกว่าและมีอีโก้ขึ้นมากๆ อาจจะต่อรองอะไรที่ส่งผลเสียต่อบริษัทได้ เพราะเขาเริ่มเล็งเห็นว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่นๆในบริษัทและมีอำนาจต่อรอง

- ขยันแต่โง่
การที่บอกว่าเขาขยันแต่ชอบทำผิดพลาดแบบโง่ๆ คหสต.ผมกลับมองว่าคนเป็นหัวหน้าบริหารจัดการลูกน้องไม่ดีเองหรือเปล่า ถ้าเป็นหัวหน้าที่ดีและเก่ง เขาก็จะจัดการให้พนักงานที่มีความสามารถแตกต่างกันไปทำงานในด้านถนัดของตัวเองได้ แม้จะมีรสนิยมหรือนิสัยต่างกันก็ตาม หัวหน้าก็ต้องดึงจุดเด่นของแต่ละคนมาใช้ให้ตรงจุด และถ้าเขาผิดพลาดตรงเดิมซ้ำๆทำไมยังให้ไปทำงานตรงนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าละ ถ้ารู้ว่าเขาไม่ถนัด จุดเด่นของเขาคือขยัน ก็ให้งานเหมาะเเก่ความขยันของเขาก็ได้ การที่เขาโง่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ฉลาดขึ้น หรือพัฒนาตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าเขายังคงโง่จริงๆก็มีงานที่เหมาะกับความขยันของเขาอยู่ ในความเป็นจริงหัวหน้าในบางบริษัทอาจจะโง่กว่าพนักงานที่ขยันแต่โง่ก็ได้ใครจะรู้ได้ ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าหัวหน้าจะมาโง่กว่าลูกน้องได้ไง แต่มันมีจริงๆนะครับกับวัฒนธรรมบ้านเราเรื่องของ connection อย่างเวลามีคนเก่งมีความสามารถดีแถมขยันด้วย ใครๆก็ว่านี่แหละคือหัวหน้าคนถัดไป แต่หากไม่มีคนพลักดัน เสนอชื่อ หรือสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวเก่งอย่างเดียวก็ขึ้นตำแหน่งไม่ได้หรอก มันเลยอาจจะได้หัวหน้าที่โง่กว่าเขามาก็ได้ คนหลายคนก็มองภาพรวมว่าหัวหน้าคนนี้ต้องเก่งแน่ๆ แต่บางคำถามเขาก็ยังตอบไม่ได้เท่าคนขยันแต่โง่เลย แล้วผมกลับมองว่าคนขยันแต่โง่ แม้เขาจะโง่แต่เขาก็พร้อมที่จะทำงานให้กับบริษัทอย่างเต็มที่ไม่บ่ายเบี่ยงหรือมีเงื่อนไขเยอะแยะเหมือนคนเก่งแต่ขี้เกียจ พร้อมที่จะทำงานกับคนอื่นแบบไม่เกี่ยงงานลำบาก หรือเอาเปรียบคนอื่นโดยการโบ้ยงานตัวเองให้คนอื่นทำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่