สวัสดีครับทุกคน อันนี้เป็นกระทู้รีวิวที่สองของผมแล้วนะครับ (รอบก่อนเป็นไกด์อาสาพาเที่ยวโฮมสเตย์อ่างทอง อิอิ)

วันนี้เจอเรื่องราวดีๆมาเยอะแยะมากมาย เลยอยากแบ่งปันความสุขให้กับสมาชิกพันทิปทุกท่านครับ

ขอย้อนกลับไปที่เดือนก่อน ผมได้เห็นคลิป Tiktok เกี่ยวกับหนูแกสบี้ ซึ่งน่าสนใจมาก ผมเองยังไม่มีความรู้เท่าไหร่เพราะที่บ้านมีแค่สุนัขกับแมว รู้เพียงแค่ว่าแกสบี้ ชินชิล่า กระต่าย แฮมสเตอร์ ชูการ์ อะไรพวกนี้กำลังเป็นกระแสที่คนนิยมเลี้ยงแค่อย่างเดียว พอเห็นว่าตัวร้านตั้งอยู่ที่ตลาดจตุจักรพอดี ผมเองเวลาเดินทางไปหาครอบครัวที่นนท์ก็มักจะนั่ง MRT ผ่านสถานีกำแพงเพชรอยู่แล้ว เลยลองเดินแวะไปดูสักหน่อยละกันครับ 



เดินไปเรื่อยๆจนเจอหน้าร้าน ซึ่งมีขนม/อาหารวางขายอยู่บางส่วน พอผมเห็นว่าไฟเปิดอยู่ ก็เลี้ยวเข้าไปเลยสิครับ



พอเข้ามาในร้านก็จะพบว่ามีหนูแกสบี้น่ารักๆอยู่เต็มเลย โดยจะมีแบ่งเป็นทั้งโซนเดี่ยว โซนรวม หลากหลายมาก จากที่ผมนั่งคุยกับเจ้าของ เขาเล่าว่าต้องแยกกรงตามเพศไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มันผสมพันธุ์ก่อนวัยอันควร ถึงแม้ว่าสัญชาตญาณจะเริ่มตอนอายุ 5-6 เดือน แต่บางตัว 3-4 เดือนก็อาจเริ่มมีปฎิกิริยาในด้านดังกล่าวแล้ว เลยแยกไว้ดังรูปด้านล่างครับ ให้ฟิลหอชายกับหอหญิงติดกัน อารมณ์ประมาณโรงเรียนชายล้วนหญิงล้วนประจำจังหวัดที่มักจะตั้งตรงข้ามกัน


ด้วยความที่จขกท.เป็นคนรักสัตว์มาก เจอแบบนี้ก็ตายไปเลยสิครับ อะไรกันครับเนี่ย ยืนยิ้มคนเดียวไม่หุบ ยืนมองน้องๆไปเรื่อยๆอยู่นานก็คุยกับเจ้าของฟาร์มไปเรื่อยๆ เขาเล่าว่าแกสบี้เป็นสัตว์ที่ไม่ดุเลย น้องๆก็แทบไม่มีสกิลในการป้องกันตัว อาจจะมีทะเลาะกันเองเล็กน้อยบ้าง (โดยเฉพาะระหว่างตัวผู้ ก็เพศชายเลือดมันแรงอ่ะเนอะ ฟิลโฟร์คิง) แต่ก็ไม่กัดพวกเรา สามารถลองอุ้มได้... อ่ะ ผมก็เลยลองอุ้มดูครับ อุ้มไปอุ้มมา ถูกชะตาต้องใจ จองไปตัวนึงแล้วครับ -..-" (ที่ยังไม่รับมาเลยเพราะระหว่างนี้ผมขอเตรียมอุปกรณ์ สต็อคอาหาร รวมถึงสร้างบ้านสำหรับน้องให้พร้อมและสวยที่สุดก่อนครับ สัปดาห์หน้าเจอกันนนนน) (ส่วนราคาน้องๆไม่แรงเท่าไหร่นะครับ เริ่มต้นไม่กี่พันบาทก็มี เว้นแต่จะเป็นน้องๆที่มีคาแรคเตอร์พรีเมี่ยมถึงจะราคาเป็นหมื่นครับ)

ทีนี้ผมก็เลยสงสัยว่าเจ้าของร้านเขาเริ่มต้นฟาร์มแกสบี้เพราะว่ามันเป็นกระแสหรือว่าอย่างไร? เขาบอกว่าป่าว เขาเริ่มต้นมานานแล้ว เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าของฟาร์มกับแฟนเขาเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ และมักจะไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ (แต่ก็เป็นคนที่รักสัตว์มากๆทั้งคู่) ทำให้สัตว์เลี้ยงบางสายพันธุ์ที่ต้องการการเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดตุยบ้าง ไม่ก็ไม่ค่อยเชื่องบ้าง จะมีก็แต่สัตว์เลี้ยงเพียงสองตัว คือหนูแกสบี้ตัวผู้สองตัวแรกของเจ้าของร้าน ชื่อว่า "Churros" กับ "Boba" ที่ยังคงแข็งแรงและก็เชื่องกับเจ้าของมากๆ ทำให้เขาหันมาสนใจหนูแกสบี้กันมากขึ้น ตั้งใจเลี้ยงและศึกษากันเป็นอย่างดี (ภายหลังสองตัวนี้มีอายุถึง 7 ปีกว่าเลยล่ะครับ ซึ่งอายุขัยหนูแกสบี้จะอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปีเท่านั้น) [ยกเว้นตัวที่ได้รับสถิติโลกที่อายุยืนสุดคือ 14 ปี ครับ] โดยอันนี้จะเป็นรูปของเจ้า "Churros" และ "Boba" ครับผม



ต่อมาเจ้าของร้านพบว่า ปัญหาที่พบหลักๆระหว่างการเลี้ยงของเขาคือ ไม่สามารถหาวัสดุรองกรง (Bedding) ที่ถูกใจได้ซักที ก็เลยศึกษาและคิดค้นร่วมกันกับแฟนขึ้นมาจนถูกใจในที่สุด ต่อมาคนรอบตัวก็อยากได้บ้าง เลยเริ่มต้นจากการแบ่งให้ ไปๆมาๆก็กลายเป็นปากต่อปาก เลยเป็นสินค้าสำหรับจำหน่ายขึ้นมาในที่สุด แถมยังเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของร้านยันทุกวันนี้ ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มต้นธุรกิจก่อตั้งฟาร์มแกสบี้ที่เพาะพันธุ์และดูแลเองทุกขั้นตอนขึ้นมาครับ


และสำหรับใครที่ไม่สะดวกจะรับน้องไปเลี้ยง อาจจะเพราะว่าที่บ้านไม่อนุญาต หรือติดเรื่องข้อจำกัดสถานที่ที่พักอาศัย

ภายในร้านก็มีกิจกรรมสนุกๆให้เล่นกับน้องๆหรือว่าให้อาหารได้ด้วยครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเข้าไปเล่นกับน้องๆหรือแวะไปชม/ถ่ายรูปเล่นเฉยๆ



และก็อันนี้จะเป็นรูปน้องๆที่ผมถ่ายมาฝากเพื่อนๆพันทิปทุกท่านครับ






ระหว่างที่ผมอยู่ในร้านก็มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาภายในร้านเยอะมากกกก ส่วนใหญ่แวะมาซื้ออาหารสัตว์กับอุปกรณ์ต่างๆ ผมก็พึ่งรู้ว่าหนูแกสบี้เป็นที่นิยมขนาดนี้ก็วันนี้นี่แหละครับ

สำหรับใครที่สนใจ สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมน้องๆได้ที่จตุจักรพลาซ่า ตลาดสัตว์เลี้ยง โซน D ซอย 9 ห้อง D75-76 ครับ เปิดทุกวันช่วง 11.00-18.00 นะครับ :")

หากท่านใดชอบก็กดโหวต กดให้คะแนน หรือ คอมเม้นท์ให้กำลังใจผมได้นะครับ ผมจะได้มีแรงมารีวิวอีก สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับชมนะครับ สวัสดีครับ