สื่อจีนชี้ ทร.เปลี่ยนสัญญา ทำ บ.ต่อเรือดำน้ำเสียหาย เหตุงานคืบหน้าไป 50% แต่ไม่ได้เงิน
https://www.isranews.org/article/isranews-news/127441-isranews-Torrottt.html
สื่อจีนชี้เหตุ ทร.ไทยเปลี่ยนสัญญาจากเรือดำน้ำเป็นเรือผิวน้ำ ส่อทำเอกชนต่อเรือดำน้ำจีนเสียหายหนัก เพราะต่อเรือไปแล้ว 50%
แต่ไม่ได้รับเงินที่เหลือ เผยในอนาคตควรรับเงินเต็มก่อนเริ่มทำงาน
**********************************************************************
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือรบของกองทัพเรือไทยที่ถูกนำเสนอในสื่อจีน โดยเว็บไซต์ 163 รายงานข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการจัดหาเรือดำน้ำเป็นเรือผิวน้ำว่าทางประเทศไทยยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือผิวน้ำแทน ในทางกลับกันประเทศไทยมีความเชื่อว่าเรือรบมีความเร่งด่วนและใช้งานได้จริงมากกว่าเรือดำน้ำ
อย่างไรก็ตาม การละเมิดสัญญาของประเทศไทยนำปัญหาบางอย่างกลับมายังประเทศจีน โดยในสัญญาที่จัดทำร่วมกันของสองประเทศระบุว่ากองทัพเรือไทยจะจ่ายเงินแบบผ่อนชำระนาน 6 ปี รวมทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยไม่เต็มใจจะใช้แผนการชำระเงินดังกล่าว เมื่อวางแผนจะเปลี่ยนสัญญา
ขณะนี้บริษัทจีนชื่อว่า China Shipbuilding Industry Corporation (CSOC) เป็นฝ่ายที่จะต้องกังวลที่สุด เพราะบริษัทแห่งนี้ได้ลงนามในสัญญาสร้างเรือดําน้ำภายใต้ข้อตกลงระหว่างสองประเทศ ตามรายงานพบว่าเรือดำน้ำเสร็จสมบูรณ์ 50% แล้วหากไม่มีการลงเงินเพิ่มเติม การก่อสร้างเรือดำชั้นหยวน S26T ลำแรกของไทยก็จะถูกบังคับให้หยุดหรือปล่อยทิ้งไว้ไม่เสร็จแบบนั้น ซึ่งนี่จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่มากสำหรับบริษัทจีน โดยเฉพาะหากเงินที่บริษัทจีนได้รับมาไม่พอที่จะชดเชยความเร็วในการก่อสร้าง นี่จะทำให้บริษัทขาดทุน
ในระยะสั้นนี้การดำเนินงานของประเทศไทยทำให้จีนเห็นถึงความเสี่ยงด้านตลาดการค้าอาวุธ แม้ว่าไทยจะยังคงรักษาการค้าทางการทหารกับจีนไว้อยู่ แต่ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนสัญญาตามอำเภอใจเพราะปัญหาภายในของประเทศไทยเองคือสิ่งที่จีนต้องให้ความสนใจอย่างแน่นอน
ในอนาคต ถ้าหากยังคงมีการค้าทางทหารกันต่อไป ทางจีนเองก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจีน ในแง่ของทั้งการทำตามสัญญาการส่งออกอาวุธและต้นทุนต่างๆ จีนต้องไม่ปล่อยให้บริษัทแบกรับความเสี่ยงจากการผิดสัญญาของอีกฝ่าย หรือพูดโดยสรุปก็คือมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ถ้าหากการทำงานควรจะเริ่มขึ้นหลักจากที่ได้รับเงินมาเรียบร้อยแล้ว
เรียบเรียงจาก:
https://m.163.com/dy/article/IUE9ERVV05562BTO.html
* บทความนี้มาจากเว็บไซต์ 163.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของบริษัท NetEase, Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของจีนที่ให้บริการคอนเทนท์ออนไลน์ โดยเนื้อหาบนเว็บไซต์จะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศจีน
“ชัยธวัช” รับ “ก้าวไกล” เตรียมแถลงใหญ่ สู้คดียุบพรรคหลังหยุดยาวสงกรานต์
https://www.thairath.co.th/news/politic/2774657
“ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เชื่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคก้าวไกล คาดหลัง เม.ย.รับมีแผนเตรียมแถลงข่าวใหญ่สู้คดี หลังหยุดสงกรานต์ ปัด บอก ชื่อพรรคใหม่ หากถูกยุบพรรคก้าวไกลจริง
วันที่ 30 มี.ค. 2567 นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ว่า กรณียุบพรรคก้าวไกล พรรคยังคงจับตาพุธ 3 เม.ย.นี้ ว่าจะมีคำสั่งอะไรออกมาเช่นไร แต่ถึงอย่างไร พรรคก้าวไกลยังคงยืนยันคำเดิมเห็นควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อสู้คดี ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่ควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวันตัดสินในทันที ดังนั้นจึงต้องจับตาในวันพุธที่ 3 เม.ย.นี้ว่า ศาลจะมีคำสั่งออกมาเป็นเช่นไร
นาย
ชัยธวัช ยังกล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อ ศาลรัฐธรรมนูญอาจยังไม่ตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลเร็วนัก อาจเลยช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ไป หรืออาจเลยไปเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าพรรคก้าวไกล มีแผน เตรียมแถลงข่าวต่อสู้คดียุบพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีรายละเอียดมาก ช่วงปลายเดือน เม.ย. หลังผ่านวันหยุดยาวสงกรานต์ไป
ส่วนกรณีมีชื่อพรรคใหม่ หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ เป็นชื่อที่สื่อมวลชนนำเสนอใช่หรือไม่ นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า ยังขอไม่บอกชื่อพรรคใหม่ ที่จัดตั้งไว้ในเวลานี้ เพราะหากบอกออกไปก่อน เห็นว่า อาจเกิดความยุ่งยากได้
อากาศร้อนจัด มะนาว แพงรับสงกรานต์ พุ่งลูกละ 10 บาท ทะยานกิโลฯ ละ 150 บาท
https://www.matichon.co.th/region/news_4500659
อากาศร้อนจัด มะนาว แพงรับสงกรานต์ พุ่งลูกละ 10 บาท ทะยานกิโลฯ ละ 150 บาท
สำรวจตลาดนัดราคาพืชผลทางการเกษตรช่วงหน้าแล้ง พบราคามะนาวพุ่งโดยมะนาวเบอร์ 3 ใหญ่สุด กก.ละ 150 บาท ประมาณ 15-16 ลูก หรือตกราคาลูกละ 10 บาท แม่ค้าหาตัวเลือกให้ลูกค้า นำมะนาวพิจิตร กก.ละ 80 บาทมาเป็นตัวเลือก แต่น้ำน้อย เหตุผลพวงจากสภาพอากาศช่วงหน้าแล้ง
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาพืชผลทางการเกษตรในช่วงหน้าแล้งที่พืช ผัก แพงทุกปี โดยเฉพาะมะนาว ที่ตลาดนัดหน้าดับเพลิง เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา พบว่าขณะนี้ราคาปรับขึ้นสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 150 บาทแล้ว โดยเฉพาะมะนาวแป้นรำไพ ซึ่งเป็นมะนาวเกรดที่ดีที่สุด มีลักษณะเปลือกบาง น้ำดี กลิ่นหอม ขนาดเบอร์ 3 ซึ่งเป็นเบอร์ใหญ่สุด 15-16 ลูกต่อกิโลกรัม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท หรือตกราคาลูกละประมาณ 10 บาท จากเมื่อ 2 วันก่อนที่ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท
แม่ค้าขายผักในตลาดนัดหน้าดับเพลิง เปิดเผยว่า
ช่วงหน้าแล้งของทุกปี มะนาวจะแพงมาก เพราะส่งมาจากภาคกลาง ช่วงนี้มะนาวมีน้อย เพราะหน้าแล้งไม่ใช่ฤดูมะนาว สั่งมาขายวันละ 50 กิโลกรัมเท่านั้น เพื่อให้พอมีขาย ขณะเดียวกันก็ได้หามะนาวพิจิตร มาทดแทนมะนาวลำไพที่มีราคาแพงถึง กก.ละ 150 บาท หรือลูกละ 10 บาท ขณะเดียวกันมะนาวพิจิตร กก.ละ 80 บาท ตกลูกละ 5-6 บาท แต่มีน้ำน้อยกว่ามะนาวลำไพ แต่ก็ทดแทนได้ ในช่วงนี้มะนาวมีผลผลิตน้อย และราคาปรับขึ้นแบบรายวันทุกวัน” แม่ค้าขายผัก กล่าว
JJNY : สื่อจีนชี้ทำ บ.ต่อเรือดำน้ำเสียหาย│“ก้าวไกล”เตรียมแถลงใหญ่│มะนาวพุ่งลูกละ 10 บ.│โปแลนด์เตือนยุโรป ต้องเตรียมพร้อม
https://www.isranews.org/article/isranews-news/127441-isranews-Torrottt.html
แต่ไม่ได้รับเงินที่เหลือ เผยในอนาคตควรรับเงินเต็มก่อนเริ่มทำงาน
อย่างไรก็ตาม การละเมิดสัญญาของประเทศไทยนำปัญหาบางอย่างกลับมายังประเทศจีน โดยในสัญญาที่จัดทำร่วมกันของสองประเทศระบุว่ากองทัพเรือไทยจะจ่ายเงินแบบผ่อนชำระนาน 6 ปี รวมทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยไม่เต็มใจจะใช้แผนการชำระเงินดังกล่าว เมื่อวางแผนจะเปลี่ยนสัญญา
ขณะนี้บริษัทจีนชื่อว่า China Shipbuilding Industry Corporation (CSOC) เป็นฝ่ายที่จะต้องกังวลที่สุด เพราะบริษัทแห่งนี้ได้ลงนามในสัญญาสร้างเรือดําน้ำภายใต้ข้อตกลงระหว่างสองประเทศ ตามรายงานพบว่าเรือดำน้ำเสร็จสมบูรณ์ 50% แล้วหากไม่มีการลงเงินเพิ่มเติม การก่อสร้างเรือดำชั้นหยวน S26T ลำแรกของไทยก็จะถูกบังคับให้หยุดหรือปล่อยทิ้งไว้ไม่เสร็จแบบนั้น ซึ่งนี่จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่มากสำหรับบริษัทจีน โดยเฉพาะหากเงินที่บริษัทจีนได้รับมาไม่พอที่จะชดเชยความเร็วในการก่อสร้าง นี่จะทำให้บริษัทขาดทุน
ในระยะสั้นนี้การดำเนินงานของประเทศไทยทำให้จีนเห็นถึงความเสี่ยงด้านตลาดการค้าอาวุธ แม้ว่าไทยจะยังคงรักษาการค้าทางการทหารกับจีนไว้อยู่ แต่ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนสัญญาตามอำเภอใจเพราะปัญหาภายในของประเทศไทยเองคือสิ่งที่จีนต้องให้ความสนใจอย่างแน่นอน
ในอนาคต ถ้าหากยังคงมีการค้าทางทหารกันต่อไป ทางจีนเองก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจีน ในแง่ของทั้งการทำตามสัญญาการส่งออกอาวุธและต้นทุนต่างๆ จีนต้องไม่ปล่อยให้บริษัทแบกรับความเสี่ยงจากการผิดสัญญาของอีกฝ่าย หรือพูดโดยสรุปก็คือมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ถ้าหากการทำงานควรจะเริ่มขึ้นหลักจากที่ได้รับเงินมาเรียบร้อยแล้ว
เรียบเรียงจาก:https://m.163.com/dy/article/IUE9ERVV05562BTO.html
* บทความนี้มาจากเว็บไซต์ 163.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของบริษัท NetEase, Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของจีนที่ให้บริการคอนเทนท์ออนไลน์ โดยเนื้อหาบนเว็บไซต์จะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศจีน
“ชัยธวัช” รับ “ก้าวไกล” เตรียมแถลงใหญ่ สู้คดียุบพรรคหลังหยุดยาวสงกรานต์
https://www.thairath.co.th/news/politic/2774657
“ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เชื่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคก้าวไกล คาดหลัง เม.ย.รับมีแผนเตรียมแถลงข่าวใหญ่สู้คดี หลังหยุดสงกรานต์ ปัด บอก ชื่อพรรคใหม่ หากถูกยุบพรรคก้าวไกลจริง
วันที่ 30 มี.ค. 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ว่า กรณียุบพรรคก้าวไกล พรรคยังคงจับตาพุธ 3 เม.ย.นี้ ว่าจะมีคำสั่งอะไรออกมาเช่นไร แต่ถึงอย่างไร พรรคก้าวไกลยังคงยืนยันคำเดิมเห็นควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อสู้คดี ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่ควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวันตัดสินในทันที ดังนั้นจึงต้องจับตาในวันพุธที่ 3 เม.ย.นี้ว่า ศาลจะมีคำสั่งออกมาเป็นเช่นไร
นายชัยธวัช ยังกล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อ ศาลรัฐธรรมนูญอาจยังไม่ตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลเร็วนัก อาจเลยช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ไป หรืออาจเลยไปเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าพรรคก้าวไกล มีแผน เตรียมแถลงข่าวต่อสู้คดียุบพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีรายละเอียดมาก ช่วงปลายเดือน เม.ย. หลังผ่านวันหยุดยาวสงกรานต์ไป
ส่วนกรณีมีชื่อพรรคใหม่ หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ เป็นชื่อที่สื่อมวลชนนำเสนอใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังขอไม่บอกชื่อพรรคใหม่ ที่จัดตั้งไว้ในเวลานี้ เพราะหากบอกออกไปก่อน เห็นว่า อาจเกิดความยุ่งยากได้
อากาศร้อนจัด มะนาว แพงรับสงกรานต์ พุ่งลูกละ 10 บาท ทะยานกิโลฯ ละ 150 บาท
https://www.matichon.co.th/region/news_4500659
อากาศร้อนจัด มะนาว แพงรับสงกรานต์ พุ่งลูกละ 10 บาท ทะยานกิโลฯ ละ 150 บาท
สำรวจตลาดนัดราคาพืชผลทางการเกษตรช่วงหน้าแล้ง พบราคามะนาวพุ่งโดยมะนาวเบอร์ 3 ใหญ่สุด กก.ละ 150 บาท ประมาณ 15-16 ลูก หรือตกราคาลูกละ 10 บาท แม่ค้าหาตัวเลือกให้ลูกค้า นำมะนาวพิจิตร กก.ละ 80 บาทมาเป็นตัวเลือก แต่น้ำน้อย เหตุผลพวงจากสภาพอากาศช่วงหน้าแล้ง
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาพืชผลทางการเกษตรในช่วงหน้าแล้งที่พืช ผัก แพงทุกปี โดยเฉพาะมะนาว ที่ตลาดนัดหน้าดับเพลิง เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา พบว่าขณะนี้ราคาปรับขึ้นสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 150 บาทแล้ว โดยเฉพาะมะนาวแป้นรำไพ ซึ่งเป็นมะนาวเกรดที่ดีที่สุด มีลักษณะเปลือกบาง น้ำดี กลิ่นหอม ขนาดเบอร์ 3 ซึ่งเป็นเบอร์ใหญ่สุด 15-16 ลูกต่อกิโลกรัม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท หรือตกราคาลูกละประมาณ 10 บาท จากเมื่อ 2 วันก่อนที่ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท
แม่ค้าขายผักในตลาดนัดหน้าดับเพลิง เปิดเผยว่า ช่วงหน้าแล้งของทุกปี มะนาวจะแพงมาก เพราะส่งมาจากภาคกลาง ช่วงนี้มะนาวมีน้อย เพราะหน้าแล้งไม่ใช่ฤดูมะนาว สั่งมาขายวันละ 50 กิโลกรัมเท่านั้น เพื่อให้พอมีขาย ขณะเดียวกันก็ได้หามะนาวพิจิตร มาทดแทนมะนาวลำไพที่มีราคาแพงถึง กก.ละ 150 บาท หรือลูกละ 10 บาท ขณะเดียวกันมะนาวพิจิตร กก.ละ 80 บาท ตกลูกละ 5-6 บาท แต่มีน้ำน้อยกว่ามะนาวลำไพ แต่ก็ทดแทนได้ ในช่วงนี้มะนาวมีผลผลิตน้อย และราคาปรับขึ้นแบบรายวันทุกวัน” แม่ค้าขายผัก กล่าว