[CR] ทัศนศึกษาที่ Rio de Janeiro, Brazil เรียนรู้เมืองนี้ผ่านแง่มุมต่างๆ ฉบับปี 2024!

สวัสดีทุกคนคร้าบ ห่างหายไปนานกับกระทู้ทัศนศึกษา 555 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น Spring break ของผมที่อเมริกา เลยวางแผนเที่ยวพักผ่อนกับหนีหนาวไปที่นคร Rio de Janeiro วันนี้ผมเลยจะมาเล่าให้ฟังว่าทริปริโอที่ผ่านมานี้ ผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง และมีประสบการณ์อะไรที่จะมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง โดยที่ผมเลือกไปริโอก็เพราะว่าเคยได้ยินชื่อเสียงของเมืองนี้มาตั้งแต่สมัยปี 2016 ที่ได้จัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิค ชื่อการ์ตูนนกเงือก(รึป่าว) และจากแหล่งอื่นๆ เลยทำให้อยากรู้ว่า Rio de Janeiro จริงๆแล้วจะเป็นยังไงกันนะ อีกอย่างเมืองนี้อยู่ไกลถึงทวีปอเมริกาใต้ ไกลจากไทยมาก ไม่ใช่จะมาง่ายๆ ไหนๆก็อยู่ที่อเมริกาแล้ว ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งหนึ่งของจากไทย เลยเอาวะ ไปมันตอนนี้แหละ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วเรามาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลยคร้าบ 
1. เงินตรา 
- ที่บราซิลจะใช้เงินสกุล รีอัล (Real, BRL) โดย 5 รีอัล จะเท่ากับ 1 ยูเอสดี หรือ 1 รีอัลจะประมาณ 7 บาท 
- การใช้จ่ายแทบไม่ต้องใช้เงินสด ทุกร้านมีเครื่องรูดบัตรหมด แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าข้างทาง สมัครบัตรเดินทางใบเดียวเอาอยู่ แต่ก็กดเงินออกมาไว้สัก 200-300 ก็ได้ แต่ผมเล่นกดมา 900! เกือบหาทางใช้ไม่หมด 5555

2. ค่าครองชีพ 
- ค่าครองชีพที่นี่กลางๆ ไม่ถูก ไม่แพง ที่พัก อาหาร มีให้เลือกตั้งแต่ถูกถึงแพง อาหารราคาถูกจะเป็นพวกเบเกอรี่ พร้อมเครื่องดื่มชุดละประมาณ 20 brl อาหารราคากลางจะเป็นพวกสเต๊ก เสริฟพร้อมข้าว สลัด เฟรนช์ฟราย ชุดละ 30-50 รีอัล ขึ้นกับชนิดของเนื้อ ส่วนน้ำขวดเล็กประมาณ 3 รีอัล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 15-20 รีอัล ถ้าเป็นอาหารราคาแพงจะเป็นพวกบุฟเฟต์สเต๊ก แบบที่เสียบเหล็กแล้วมาหั่นให้เราที่โต๊ะ จะประมาณ 140-150 รีอัล 
- ที่บราซิลไม่มีวัฒนธรรมการให้ทิป เย้ๆ ไม่เหมือนอเมริกาหรือแคนาดาที่ต้องมาวัดใจว่าจะให้เท่าไหร่ หรือไม่ต้องคิดมากที่ต้องทิป ตัดปัญหาการหมองใจกันระหว่างคนซื้อกับคนขาย แต่เหมือนหลายร้านจะมีการบวกเพิ่ม 10% เป็นค่าอะไรสักอย่าง ภาษีหรือค่าบริการก็ไม่รู้ มากสุดคือร้านหรู ผมกิน 139 แต่บวกไปบวกมาจ่ายไป 169 งงมาก แต่เอาเถอะ เพราะทั้งทริปก็กินหรูแค่ 1 มื้อ 5555

3. อาหาร
- อาหารส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลจากเจ้าอาณานิคม เป็นเนื้อ ข้าว มันฝรั่งทอด กับซุปถั่ว ตามภาพด้านบน กับขนมปังชนิดต่างๆ รวมไปถึงขนมทอด เช่น ชีสทอด
- อาหารไม่ได้มีให้เลือกหลากหลายเท่าไรนัก มีแต่อาหารท้องถิ่นกับอาหารญี่ปุ่น(ที่รสชาติน่าผิดหวัง) ไม่มีอาหารเวียดนามหรืออาหารไทยเลย ผมนี่หิวพริกกับอาหารเผ็ดๆมาก แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะมันไกลจากเอเชีย ไม่ค่อยมีคนไปอาศัยอยู่ หรือนักท่องเที่ยวจากเอเชียก็มีน้อย 
- ไม่มี Starbuck หรือชานมไข่มุกเลย! แปลกมาก เพราะทุกที่มักจะมีชานมไข่มุก ผมก็หิวชาเขียวสตาบักส์กับชานมไข่มุกไปอีกตามระเบียบ 5555 
- น้ำดื่มที่นี่ขวดเล็กจะเป็นขนาด 510ml และจะมีทั้งแบบอัดลมกับไม่อัดลม ถ้าเป็นแบบอัดลมจะเขียนว่า com gas ถ้าเป็นแบบธรรมดาไม่อัดลมจะเขียนว่า sem gas ผมเคยซื้อผิดเป็นขวดใหญ่แบบอัดลม เศร้าเลย 
4. การเดินทาง
- ที่ริโอมีทุกพาหนะเดินทางเท่าที่เราจะนึกออก รถไฟฟ้า รถแทรม รถเมล์ มอเตอไซต์ เรือ จักรยาน ขนส่งสาธารณะที่นี่ราคาไม่แพงมาก รถเมล์เที่ยวละ 4.3 รีอัล รถไฟฟ้าเที่ยวละ 6.7 รีอัล ที่สำคัญบัตรเดียวขึ้นได้ทุกอย่าง! ถ้าเปลี่ยนสายภายในหนึ่งชั่วโมงเหมือนจะนับแค่รอบเดียวด้วย สะดวกมากๆ 
- แต่ว่าการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองจะไม่ค่อยสะดวก เพราะสนามบินอยู่ไกล และไม่มีรถไฟฟ้าเข้าเมืองเหมือนกรุงเทพ 
- สามารถพบเจอกับรถติดได้ทั่วไป ติดมาก เหมือนแยกลาดพร้าวเลย ขากลับผมเกือบไปสนามบินไม่ทัน  
- รถเมล์ที่นี่มีที่กั้น! คือต้องแตะบัตรถึงจะสามารถเดินผ่านที่กั้นเข้าไปได้ ผมอึ้งมาก แบบเอางี้เลยหรอ รถเมล์วิ่งถี่อยู่ ตรงเวลาด้วย สามารถใช้ google map นำทางได้ คนที่นี่ก็ใช้ดูรถกัน 
5. ผู้คน 
- คนบราซิลใจดี เป็นมิตร แต่จะนิ่งๆ ไม่หัวเราะมาก ไม่ขี้เล่น บางคนก็รู้จักเมืองไทย วัฒนธรรมไทย เช่น มวยไทย 
- ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว แน่นอนว่าหน้าแบบเรามองก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่นี่ แม้ว่าจะเป็นคนเอเชียแค่ไม่กี่คนในเมือง แต่ก็ไม่มีใครจ้องมองเราจนเขิน ไม่เหมือนที่คิวบาที่ทั้งมอง ทั้งทักทายไปเรื่อย เช่น หนีห่าว โคนิจิวะ 55555 ทั้งทริปนี้ผมโดนหนีห่าวใส่แค่ครั้งเดียว ก็ถือว่าโอเค ไม่แย่ 5555 
- นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อาร์เจนติน่า เปรู โบลิเวีย มีมาจากยุโรปอีกนิดหน่อย จากเอเชียก็มีบ้าง ส่วนใหญ่จะมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ เช่นทัวร์จีน ทัวร์เกาหลี

6. ภาษา
- คนบราซิลพูดภาษาโปรตุเกส เพราะเคยเป็นเมืองขึ้น มันจะมีความยากนำหน้าภาษาสเปนไปอีกขั้น เพราะผมคุ้นเคยกับภาษาสเปนมากกว่า ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ทำให้มันเป็นเรื่องท้าทายมาก 5555 ผมก็ชี้ๆ พูดเป็นคำๆ เอา เช่น A conta, por favor (bill, please), quento (how much?) obrigado (thank you) แต่เอาจริงพวกนางก็ฟังอังกฤษพอรู้เรื่อง เพียงแต่พูดไม่ได้กัน ก็จะตอบเรามาเป็นโปรตุเกส ผมก็พูดอังกฤษกลับไป ซึ่งก็ตลกดี 

7. สภาพอากาศ 
- ร้อนชื้นคล้ายเมืองไทย แดดก็แรงอยู่ แต่ช่วงที่ผมไปฝนตกเกือบทั้งอาทิตย์ ตกๆหยุดๆ เราก็ไม่หวั่น คีบแตะแล้วเดินเที่ยวไปเลย รองเท้าก็กัด! ไม่รู้ว่าจะเป็นหวัด ฉี่หนู หรือน้ำกัดเท้าก่อนกัน 5555 ซึ่งที่แปลกคือนักท่องเที่ยวที่นี่สปิริตแรงมาก ฝนตกแค่ไหนก็ออกมาเที่ยว ใส่ผ้าใบก็ออกมาเที่ยว! คือแบบเฮ้ย มันจะไม่แห้งเอานะ มันจะเหม็นเด้อ 
8. ร้านค้า 
- ร้านสะดวกซื้อจะเป็นร้านท้องถิ่น ไม่มี 7-11 พบได้ทั่วไป แต่ร้านจะเล็กหน่อย
- supermarket ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดกลาง ไม่ค่อยมีร้านใหญ่เหมือนบิ๊กซี โลตัส บ้านเรา ส่วนใหญ่จะขนาดประมาณ 2-3 คูหา ของก็มีครบ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่ม ของใช้ 
- ร้านค้าจะแบ่งประเภทชัดเจน เช่น supermarket ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ดังนั้นของจะต่างกัน เราก็เลือกเข้าตามวัตถุประสงค์ 
- เหมือนจะแจกถุงหิ้วฟรี ไม่มีค่าถุง แต่เราก็พยายามพกถุงไปเอง 

9. อื่นๆ 
- พระเยซูคือกับดักนักท่องเที่ยว! ข้างบนคนเป็นล้าน ไม่มีทางจะได้ภาพสวยๆแบบไม่มีเพื่อนร่วมเฟรมนอกจากจะไปวันฝนตก พูดตามจริงคือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้น่าจะเพราะกรรมการที่โหวตเป็นชาวคริสต์เกินครึ่งมั้ง มันไม่ได้มีความว้าวหรือสตอรี่หรือความโบราณแบบที่อื่นขนาดนั้น ดีอย่างเดียวคือไปค่อนข้างง่ายกับค่าเข้าราคาไม่แพง 
- ที่นี่มีที่ฉีดก้น! แต่ไม่ได้มีทุกที่ มีบางที่ เช่น ที่พักบางที่ หรือร้านอาหารบางร้าน 
- คนไร้บ้านเยอะมากที่สุด เยอะกว่าทุกเมืองที่ไปมา สามารถใช้คำว่าเกลื่อนเมืองได้เลย เพราะพบเจอได้ทุกมุมถนน อยู่กันไปทั่ว ไม่ได้อยู่กันเป็นแหล่งๆ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คุกคามอะไร น่าสงสารมากกว่า ต้องนอนทนหนาว นอนเปียกละอองฝนอยู่ตามข้างทาง 
- ริโอเป็นเมืองที่เห็นความเหลื่อมล้ำชัดเจนมาก เพราะมองไปก็สามารถเห็นชุมชนแออัด (คนที่นี่เรียก favela) ได้ทั่วไป เนื่องจากมันกระจายอยู่ทั่วเมือง มีการจัดทำแผนที่ชุมชนแออัดชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นขนส่งสาธารณะก็ยังเข้าถึง ให้พวกเขาใช้บริการได้ 
- ริโอมีความปลอดภัยในระดับนึง ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น คือไม่ได้เงียบสงัด ผู้คนไม่ได้มีท่าทีคุกคาม ไม่ได้มีการเสนอขายบริการอย่างโจ่งแจ้ง ขอแค่อย่าไปในที่ที่ไม่ควรไป ภาษาสมัยใหม่คืออย่าล้อเล่นกับระบบ 5555 
- อาคารที่เป็นที่อยู่อาศัยจะมีการติดตั้งระบบรั้ว นึกภาพตึกแถวในกรุงเทพ แต่เดินออกจากประตูมาจะมีรั้วกันระหว่างตึกกับทางเท้า จะมีแค่พวกร้านค้า ร้านอาหารที่เป็นประตูทั่วไป 
- มีตำรวจประจำอยู่ทั่วทั้งเมืองในจุดสำคัญ คอยตรวจตราต่างๆ บางจุดตำรวจขี่ม้าด้วย ก็ผูกม้าไว้แถวนั้น 5555 
- อินเตอเน็ตคือดีเลย เร็ว แรง ผมใช้บริการโรมมิ่งคือให้ชนะเลิศ เชื่อมต่อเร็ว Wifi ก็เร็ว เสถียร

เรื่องราวที่น่าสนใจและที่ผมสังเกตได้ของ Rio de Janeiro ก็มีประมาณนี้ ริโอเป็นเมืองที่สวยเลยทีเดียว มีครบทั้งเมืองเก่า เมืองใหม่ ทะเล ภูเขา กิจกรรมก็มีให้ทำเยอะ ทั้งกลางวันยันกลางคืน แต่มันก็เป็นเมืองท่องเที่ยว และบราซิลก็เป็นประเทศใหญ่ ยังมีอีกหลายเมืองที่น่าไปเยือน เช่น Sao Paolo, Recife, Grande Rio, Salvador กับแถบแม้น้ำแอมะซอน ดังนั้นริโออาจไม่ใช่เมืองที่ทำให้เห็นบราซิลได้ครบทุกมุมมองขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่ครบเครื่องที่สุด ทุกอย่างได้มารวมอยู่ที่ริโออย่างละนิดละหน่อยแล้ว หากทุกอย่างอำนวยให้เรามาเยือนบราซิลได้แค่เมืองเดียว ผมก็เชื่อว่าริโอน่าจะเป็นตัวเลือกแรกของใครหลายๆคน ผมก็ขอจบกระทู้ไว้เพียงเท่านี้ หากเพื่อนๆสงสัยอะไรก็สามารถถามเข้ามาได้เลยนะครับ หรือถ้ามีตรงไหนอยากเพิ่มเติมก็ยินดี ไปแล้วนะคร้าบบ 


ชื่อสินค้า:   rio de janeiro, brazil
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่