จากเพ็จเขวี้ยงรีโมท สู่บทเรียนในความมั่นของสามเศียรให้ปรับปรุง ดาบเจ็ดสีทำเรตติ้งแย่และตกต่ำที่สุดในละครจักรวงศ์ที่เคยมี

“ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง” เป็นละครพื้นบ้านที่ได้เรตติ้งน้อยที่สุด (ไม่รู้ในรอบกี่ปี) ทำได้ดีที่สุดคืออีพีแรก
.
ใครที่เคยโตมากับละครพื้นบ้านเรื่อง “ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง” สมัยก่อนน่าจะจดจำเรื่องราวตอนตื่นมาดูตอนเช้าช่อง 7 ได้เป็นอย่างดี นอกจากจะปังทุกมิติทั้งเรื่องราว นักแสดง แสงสีเสียงแล้ว ยังกลายเป็นเรื่องสนุกที่เอาไปเล่ากันตอนสมัยเด็กๆ กันอยู่ด้วย
.
แต่การกลับมารีเมคใหม่ในปี 2566 ออนแอร์ข้ามมาในปี 2567 ดูเหมือนว่า ผลการตอบรับในด้านของเรตติ้งหดหายลงไปเยอะ เอาแค่เทียบกับละครพื้นบ้านเรื่องก่อนๆ แค่ 2 เรื่อง อย่าง “ลูกผู้ชายชื่อไกรทอง” ที่ยังพอมีเรตติ้งเลข 3 มาฝากไว้ในหลายๆ อีพี กับ “โกมินทร์ผู้กล้า” ที่ฝากเลข 2 เอาไว้สวยๆ ในช่วงท้ายๆ ครึ่งเรื่อง แต่สำหรับ “ดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง” ทำเรตติ้งได้ดีที่สุดคือ อีพีแรกเท่านั้น ได้ไป 2.045 และทำเรตติ้งร่วงลงมาต่ำ 2 มาทั้งหมดจนถึงตอนจบ ทำเรตติ้งหล่นในช่วงกลางเรื่องต่ำสุดที่ 1.043 และตอนจบปิดเลขไปที่ 1.846 ถือว่าเป็นละครพื้นบ้านในรอบไม่รู้กี่ปีของ “สามเศียร” ที่ได้เรตติ้งน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้
.
อะไรคือสาเหตุสำคัญของ “ดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง” ที่ทำให้เรตติ้งสู้ละครพื้นบ้านเรื่องอื่นไม่ได้ ตรงนี้ต้องให้คนติดตามเป็นคนออกความเห็น หรือจะเป็นเพราะคนรุ่นใหม่ไม่ชอบเรื่องนี้ โปรดักชันยังไม่ทัชใจมากพอ หรือเรื่องราวที่ค่อนข้างจะโฟกัสไม่ได้ เพราะมีตัวเอกหลายคน แต่ถ้ามองภาพกว้างๆ ต่อให้ เรตติ้งต่ำไปถึง 1.043 ที่ได้ต่ำสุด ก็ยังมากกว่าช่องอื่นที่ช่วงเวลาเดียวกันอยู่ดี เรตติ้งต่ำขนาดนี้ก็ยัง “ยืนหนึ่ง” สู้รีโมทได้แบบชัดเจน
.
“สามเศียร” ถือว่าเป็นค่ายละครพื้นบ้านเบอร์หนึ่งของวงการทีวีไทยใน ณ ปัจจุบันที่ยังเลือกจับตลาดนี้อยู่ด้วยความถนัดแนวนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งที่เป็นการบ้านต่อไปในอนาคตก็คือ จำนวนปี พ.ศ. ที่เพิ่มมาขึ้น การผลัดเปลี่ยนความนิยมกระแสคนดูเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ถ้ายังจับตลาดนี้อยู่จะต้องวางเกมแบบไหน โดยเฉพาะเรื่องราวที่จะนำมาเสนอต่อ อย่าลืมว่า 1 เรื่องที่ออนแอร์ ลากยาวไปเกือบจะครึ่งปี ถ้าปูเรตติ้งมาไม่ดี มันก็จะเสียยกแพคยาวๆ เลยทันที
.
สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ แล้วเนื้อเรื่องอะไรที่คนจะสนใจ เพราะนั่งนับนิ้วดู ก็มีไม่กี่เรื่องที่คนสนใจ ต่อให้รีเมกร้อยรอบคนก็ยังดูอยู่ดี และที่มากไปกว่านั้น ขอบเขตของเรื่องที่จะนำมาทำ จะขยายออกไปมากแค่ไหน เพราะเคยมีคนดูเป็นจริงเป็นจัง ว่า บางเรื่องออกทะเลไปไกลมากจนหาทางกลับมามาไม่ได้แล้วจริงๆ นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ “สามเศียร” ไม่ใช่แค่งัดฝีมือออกมาสู้ ยังต้องมีกลยุทธเด็ดๆ ออกมาเซอร์ไพรส์ให้เกิดไวรัลด้วย
.
ส่วนเรื่องต่อไปที่รันกันยาวๆ คือ “ลักษณวงศ์” ที่จะออนแอร์ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตอนแรกเริ่มวันเสาร์ที่ 30 มีนาคมนี้ เวลา 8 โมงเช้า ทางช่อง 7HD มาลุ้นกันว่า เรื่องนี้จะสร้างเรตติ้งสวยๆ เป็นคะแนนสะสมให้ทั้ง “สามเศียร” และสถานี ได้มีเรตติ้งเป็นอันดับหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ได้เช่นเดิมหรือไม่ และยังคงรักษาความเป็นหนึ่งในช่วงหลังเคารพธงชาติตอนเช้าให้อยู่กับที่ หรือจะมีใครมาแซงทางโค้ง ต้องลุ้นกันต่อไปจ้า
.
#เขวี้ยงรีโมท #ทีวีดิจิทัล #ช่อง7HD #Ch7HD


ลักษณวงศ์ ขอให้เรทติ้งขึ้น ทำได้ดีขึ้นนะ และที่คนลุ้นคือ พระ - นาง  ตัวสำคัญของเรื่อง  แต่ก่อนสามเศียร ดีด้า ออกแนวไม่แคร์เวิล์ด คราวนี้ต้องแคร์แล้วมั้ง เจอผลกระทบแบบนี้  เพราะเคยคิดว่าจะทำอะไรยังไงไม่แคร์คำตำหนิ คนดู
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่