คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
สนับสนุนและเห็นด้วย
เอาเข้าจริงๆกระทู้นี้คล้ายๆกับกระทู้ที่ว่าคำสอนในศาสนา เช่น พุทธเป็นเรื่องจริงเปล่า
แต่จากที่อ่านมาคำตอบจะเหมือนกันทุกครั้งเลยคือ คนวิจารณ์ที่มาจากสายวิทย์ จะค่อนข้างแคลงใจกับสิ่งที่ศาสนา เช่น พุทธสอน ว่าจริงหรือไม่จริง
แต่ถามว่าคนวิทย์ผิดไหม ก้ไม่เชิงว่าผิด เพราะเขาถูก "ปลูกฝัง" ว่ากระบวนการพิสูจน์ทางวิทย์นั้นมีขั้นตอนอย่างไร โดยผ่านเครื่องอย่างไร ซึ่งแตกต่างกับความคิดของศาสนาพุทธที่มักจะรู้ได้เฉพาะตน ทำได้แค่แนะนำให้คนอื่นฝึกฝนตาม ซึ่งมันไม่การันตีว่าคนฝึกจะสามารถไปถึงระดับนันได้ทุกคน ต่างกับกระบวนการทางวิทย์ที่พึ่งเครื่องมือ ซึ่งถ้าอุปกรณ์พร้อม ทุกคนก็สามารถเห็นผลลัพย์เหมือนเดิมได้ในทุกครั้ง
มาที่กระทู้ ผมอยากให้ทำครับ อยากให้จริงจัง แต่ขออย่างเดียวคือ หากสามารถเข้าถึงศาสตร์นี้ได้จริง ว่าเป็นของจริง แต่การจะให้คนอื่นเชื่อมันยาก ก็ไม่ต่างอะไรกับที่ผมบอกว่าจะให้คนสายวิทย์เชื่อในคำสอนพุทธก็คงจะยาก เพราะมันรู้เฉพาะตน
ดังนั้นถ้าเจ้าของกระทู้เชื่อมั่นจริง พิสูจน์และรุ้เฉพาะตนจริง ผมอยากให้หาวิธีพิสูจน์ในแนวทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันด้วย ถ้าแบบนั้นก็จะกลายเป็นการหลอมรวมทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสร์เข้าด้วยกัน เช่นสร้างเครื่องมือหรือวิธีการที่สามารถให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะตนครับ
ถามว่าประโยชน์มีไหม มีสิครับ เอาง่ายๆ ถ้าสามารถสร้างเครื่องมือให้สามารถสื่อกับวิญญาณได้จริงๆ ไม่ใช่เครื่องมือหลอกลวงที่ใช้กันตามรายการทีวี
ง่ายๆเลยนะ เราสามารถสอบถามถึงวิญญาณคนตายได้เลยว่า ใครฆ่า ฆาตรกรคือใคร อันนี้ก็ช่วยได้ในทางราชการแล้ว หรือ
ในการค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย วิญญาณนั้นไม่มีข้อจำกัดด้านกายภาพ เราสามารถสอบถามและให้ชี้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือได้โดยตรง หรือ
ในเรื่องการอ่านใจ เราสามารถใช้ในทางศาลได้เลยว่าคนไหนโกหก คนไหนพูดจริง
เอาเข้าจริงๆสามารถทำประโยชน์ได้มากมายเลยนะ ถ้าหากไสยศาสตร์เป็นเรื่องจริงพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ถูกมองว่างมงาย
ผมว่ามันน่าสนใจนะ ไม่แน่อาจจะมีศาสตร์ใหม่ๆที่ตีคู่กับวิทยาศาสตร์เกิดมาในโลกเลยก็ได้ เพราะเรื่องนี้มันชอบถูกวางตำแหน่งให้เป็นเรื่องดำมืด เข้าใจยาก พิสูจน์ไม่ได้ กลายเป็นว่าคนมองว่างมงายไป เจ้าของกระทู้ก็ให้มันกลายเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ผมว่าน่าจะเป็นบิดาแห่งไสยศาสตร์ของโลกเลยซะด้วยซ้ำครับ
แต่ถ้าไสยศาสตร์คือสิ่งงมงาย แปลว่าเจ้าของกระทู้ก็เสียเวลาในชีวิตไปฟรีๆ อันนี้มันก็ต้องลองล่ะครับ 555+
เอาเข้าจริงๆกระทู้นี้คล้ายๆกับกระทู้ที่ว่าคำสอนในศาสนา เช่น พุทธเป็นเรื่องจริงเปล่า
แต่จากที่อ่านมาคำตอบจะเหมือนกันทุกครั้งเลยคือ คนวิจารณ์ที่มาจากสายวิทย์ จะค่อนข้างแคลงใจกับสิ่งที่ศาสนา เช่น พุทธสอน ว่าจริงหรือไม่จริง
แต่ถามว่าคนวิทย์ผิดไหม ก้ไม่เชิงว่าผิด เพราะเขาถูก "ปลูกฝัง" ว่ากระบวนการพิสูจน์ทางวิทย์นั้นมีขั้นตอนอย่างไร โดยผ่านเครื่องอย่างไร ซึ่งแตกต่างกับความคิดของศาสนาพุทธที่มักจะรู้ได้เฉพาะตน ทำได้แค่แนะนำให้คนอื่นฝึกฝนตาม ซึ่งมันไม่การันตีว่าคนฝึกจะสามารถไปถึงระดับนันได้ทุกคน ต่างกับกระบวนการทางวิทย์ที่พึ่งเครื่องมือ ซึ่งถ้าอุปกรณ์พร้อม ทุกคนก็สามารถเห็นผลลัพย์เหมือนเดิมได้ในทุกครั้ง
มาที่กระทู้ ผมอยากให้ทำครับ อยากให้จริงจัง แต่ขออย่างเดียวคือ หากสามารถเข้าถึงศาสตร์นี้ได้จริง ว่าเป็นของจริง แต่การจะให้คนอื่นเชื่อมันยาก ก็ไม่ต่างอะไรกับที่ผมบอกว่าจะให้คนสายวิทย์เชื่อในคำสอนพุทธก็คงจะยาก เพราะมันรู้เฉพาะตน
ดังนั้นถ้าเจ้าของกระทู้เชื่อมั่นจริง พิสูจน์และรุ้เฉพาะตนจริง ผมอยากให้หาวิธีพิสูจน์ในแนวทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันด้วย ถ้าแบบนั้นก็จะกลายเป็นการหลอมรวมทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสร์เข้าด้วยกัน เช่นสร้างเครื่องมือหรือวิธีการที่สามารถให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะตนครับ
ถามว่าประโยชน์มีไหม มีสิครับ เอาง่ายๆ ถ้าสามารถสร้างเครื่องมือให้สามารถสื่อกับวิญญาณได้จริงๆ ไม่ใช่เครื่องมือหลอกลวงที่ใช้กันตามรายการทีวี
ง่ายๆเลยนะ เราสามารถสอบถามถึงวิญญาณคนตายได้เลยว่า ใครฆ่า ฆาตรกรคือใคร อันนี้ก็ช่วยได้ในทางราชการแล้ว หรือ
ในการค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย วิญญาณนั้นไม่มีข้อจำกัดด้านกายภาพ เราสามารถสอบถามและให้ชี้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือได้โดยตรง หรือ
ในเรื่องการอ่านใจ เราสามารถใช้ในทางศาลได้เลยว่าคนไหนโกหก คนไหนพูดจริง
เอาเข้าจริงๆสามารถทำประโยชน์ได้มากมายเลยนะ ถ้าหากไสยศาสตร์เป็นเรื่องจริงพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ถูกมองว่างมงาย
ผมว่ามันน่าสนใจนะ ไม่แน่อาจจะมีศาสตร์ใหม่ๆที่ตีคู่กับวิทยาศาสตร์เกิดมาในโลกเลยก็ได้ เพราะเรื่องนี้มันชอบถูกวางตำแหน่งให้เป็นเรื่องดำมืด เข้าใจยาก พิสูจน์ไม่ได้ กลายเป็นว่าคนมองว่างมงายไป เจ้าของกระทู้ก็ให้มันกลายเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ผมว่าน่าจะเป็นบิดาแห่งไสยศาสตร์ของโลกเลยซะด้วยซ้ำครับ
แต่ถ้าไสยศาสตร์คือสิ่งงมงาย แปลว่าเจ้าของกระทู้ก็เสียเวลาในชีวิตไปฟรีๆ อันนี้มันก็ต้องลองล่ะครับ 555+
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โรงเรียน
ความเชื่อส่วนบุคคล
ถ้าผมจะก่อตั้งโรงเรียน และมหาวิทยาลัย"ไสยศาสตร์"โดยเฉพาะ
เพราะ คหสต. สำหรับผม โลกหลังความตายหรือโลกวิญญาณยังมีเรื่องแปลกใหม่ที่ทำให้เราอยากศึกษาอยู่อีกมาก
แต่ก็ดูเหมือนว่า......จะมีข้อจำกัดหลายอย่างบนโลกมนุษย์ และวิทยาศาสตร์ที่เข้ามีบทบาทมากกว่า ขณะที่ไสยศาสตร์จะถูก
คนส่วนมากมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อแทน เนื่องด้วยไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากนักเลย
ความเป็นไปได้......จึงมีอยู่น้อยนิดมากต่อมุมมองของพวกเค้าเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม....ผมก็ยังเชื่อในความเป็นได้อันน้อยนิดนี้ และอยากศึกษาอย่างไตร่ตรองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากความเห็นของทุกๆคนครับ