หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
One day trip | นั่งรถไฟ ไปกาญฯ เถอะ | 24 มีนาคม 2024
กระทู้สนทนา
เที่ยวกาญจนบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
จังหวัดกาญจนบุรี
แผนการเดินทางและท่องเที่ยว
เที่ยวไทย
เสาร์ - อาทิตย์ เวียนมาถึงอีกแล้ว เรามาหาโอกาสท่องเที่ยวแบบประหยัดงบ เดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ ไปกับรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษกันดีกว่า มาลองดูว่าการหนีร้อนไปเจอร้อนกว่าจะสนุกแค่ไหน ไปกั๊นนนนน
24 มีนาคม 2024
04.30 น. นกที่ตื่นเช้า คือนกที่ยังไม่ได้นอน
05.30 น. เดินทางไปจุดนัดหมาย MRT บางยี่ขัน
06.00 น. MRT สถานีบางยี่ขัน - สถานีหัวลำโพง
06.25 น. ถึง MRT สถานีหัวลำโพง รีบวิ่งให้ไว
06.30 น. วิ่งขึ้นขบวนรถเที่ยวพิเศษ 909 ที่ชานชาลาที่ 7 รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะ
จากนั้นก็ตามนี้เลยจ้า
19.00 น. ลงสถานีชุมทางบางซื่อ และแยกย้ายกันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ตื่นเช้าอีกแล้วววว แต่อารมณ์ของการตื่นไปทำงานกับการตื่นไปเที่ยวนี่มันช่างต่างกันโจ๊นนนนน ฮ่าฮ่าฮ่า ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน คือเรา พี่ใหม่และแบงค์ เพื่อนของเขา พวกเรานัดเจอกันที่ MRT สถานีบางยี่ขัน 05.30 น. เพื่อนั่งไปยังสถานีหัวลำโพง แต่เจ้ากรรมรถขบวนแรกมาถึงบางยี่ขัน 06.00 น. นั่นแปลว่า เราจะถึงปลายทางแบบฉิวเฉียดพอดี บวกต้องวิ่งนิดหน่อย
แล้วก็เป็นไปตามคาด ถึงสถานีหัวลำโพงแบบต้องวิ่งออกเท่านั้นจึงจะไปทัน วิ่งดิคร้าบบบรออะไร ความหวังที่ว่าจะตั้งใจมาเก็บบรรยากาศเก่า ๆ ที่สถานีกรุงเทพฯ สลายหายไปในทันที พวกเราขึ้นทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ขึ้นปุ๊บ รถไฟก็ปู๊น ๆ ออกตัวทันที และเราจึงค่อย ๆ เดินไปยังโบกี้ที่เราจองที่นั่งไว้ (แบบยังหายใจหอบอยู่)
รถไฟขบวนนำเที่ยวที่เราขึ้นมานี้ มี 6 ตู้ มุ่งหน้าไปยังสถานีน้ำตก 3 ตู้ และ มุ่งหน้าไปยังสถานีสวนสนประดิพัทธ์ อีก 3 ตู้ จะไปแยกกันระหว่างทาง เมื่อพวกเราได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ออกจากกรุงเทพฯ ดี บรรยากาศบนขบวนเริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ขายผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาจำหน่ายสินค้ากันอยู่ตลอด สำหรับเรามื้อเช้านี้ ขอเทใจให้กับก๋วยเตี๋ยวแห้งในตำนาน ห่อละ 10 บาท จัดเบา ๆ คนละ 2 ห่อ อาโหร่ยยย เราชอบมาก
ถึงแล้วจ้า สถานีนครปฐม สถานีแรกที่จอดให้พวกเราเดินเล่นได้ 40 นาที
สถานีนี้ติดกับองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งคนไทยย่อมต้องรู้จักเพราะเป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะทุกวัน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 06.00 - 19.00 น. และ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 06.00 - 20.00 น.
ทางเดินไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ มีร้านค้าตั้งเรียงรายสองข้างทาง อารมณ์เหมือนกึ่ง ๆ ถนนคนเดิน แต่มีรถผ่านได้ตลอด ต้องคอยระมัดระวังกันหน่อย
จวนจะถึงเวลา พวกเราก็กลับมายืนรอรถไฟที่เดิม ไม่นานรถไฟก็เคลื่อนขบวนต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จะคอยให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกในการสั่งอาหารมื้อเย็น รวมถึงของฝากที่เป็นของดีของเด็ดระหว่างทางที่รถไฟเคลื่อนผ่าน ซึ่ง การหาของกินอร่อย ๆ ไปฝากคนที่เรารัก มันกลายเป็นสเน่ห์ของการเดินทางโดยรถไฟไปโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แม้กระทั่งตอนที่เราเขียนกระทู้นี้อยู่ เรารู้สึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวแห้งขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะหากินที่ไหนให้ได้รสชาติแบบนั้น นอกเสียจากว่า เราจะเดินทางด้วยรถไฟอีก
นั่งจอย ๆ มองข้างทางไปเพลิน ๆ รถไฟขบวนนี้ก็พาเรามาหยุดที่ สะพานข้ามแม้น้ำแคว ที่ถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในระหว่างสงครามสะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศโดยการทิ้งระเบิดอย่างหนักจนสะพานหักท่อนกลาง ซึ่งตอบคำถามลูกหลานไปได้เลย ถึงที่มาของการตั้งลูกระเบิดจำลองไว้บริเวณหัวสะพาน หากพวกเขาถามว่าทำไมต้องเอาระเบิดมาตั้งตรงนี้
ปู๊น ๆ กระฉึกกระฉัก กันอยู่สักพัก พลันรถไฟก็เริ่มเคลื่อนขบวนช้าลง ช้าลงเรื่อย ๆ ทำให้รู้ได้ทันทีว่า จวนจะถึงแล้ว ทางรถไฟสายมรณะ สถานีถ้ำกระแซ ด้านหนึ่งเป็นเหวลึก อีกด้านหนึ่งคือหน้าผาหินสูงชัน ด้านล่างคือแม่น้ำแคว รถไฟเคลื่อนบนรางไปอย่างช้า ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เราถ่ายวิวผ่านกระจกรถไฟตู้แอร์ ได้ภาพมานิดหน่อย
ระหว่างทางมีอะไรให้มองตลอด ไม่เบื่อเลย
อึดใจเดียว ก็ถึงสถานีปลายทางที่รอคอย สถานีน้ำตก แต่ไม่ใช่ปลายทางสุดท้าย ปลายสายสุดของรถไฟขบวนนี้ พาเรามาหยุดอยู่ที่
น้ำตกไทรโยคน้อย
จวนจะเที่ยงพอดี พวกเรากินข้าวผัดในร้านอาหารตามสั่งกันคนละจาน ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจสถานที่ ว่าเราจะปักหลักกันตรงไหนดีตลอดสามชั่วโมงนี้
บรรยากาศร่มรื่นดีมาก
น้ำค่อนข้างน้อย แต่น้ำเย็นมากพอให้ได้สดชื่นชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว
ต้นเฟิร์นแลดูสดชื่นมากเวอร์
ก่อนจะหมดเวลาสนุก ถ่ายรูปเล่นรอบ ๆ กันสักหน่อยดีกว่า
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนบ่ายสามได้เวลารวมพลขึ้นรถไฟอีกครั้ง รอบนี้เล็งไว้แล้วว่าจะวิ่งไปอยู่ตู้พัดลมเพื่อเก็บบรรยากาศนอกหน้าต่าง ตอนที่ผ่านเหว บริเวณถ้ำกระแซ หวาดเสียวน่าดู
สองข้างทางฝั่งตู้พัดลม ร้อนมากกกกกก แต่ถ่ายรูปสวยมากเช่นกัน
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีกาญจนบุรี รถขบวนนี้จะหยุดให้ผู้เดินทางไปเยี่ยมชม สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือสุสานสหประชาชาติ หรือชาวบ้านเรียกว่า ป่าช้าอังกฤษ ซึ่งจะจอดนาน 1 ชั่วโมง ต้องนั่งรถสองแถวหน้าสถานีไปแป๊ปปปปเดียว ไม่แนะนำให้เดิน เนื่องจากถนนใหญ่ ค่อนข้างอันตราย ใครใคร่ลงก็ลง ใครจะนอนเล่นอยู่บนรถก็แล้วแต่เพราะไม่ได้ปิดแอร์ เนื่องจากเพลียและร้อน เราเลือกนั่งเล่นดูรูปในรถสะดวกกว่า เมื่อถึงเวลานัดหมาย รถก็เคลื่อนขบวนออกตรงเวลา พระอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยลงต่ำ เป็นสัญญาณที่ดวงอาทิตย์ส่งต่อหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ดวงตะวัน ส่วนเรา ขอนั่งไปกินกินเตี๋ยวปลาแสนอร่อยไปจนกว่าจะถึงสถานีชุมทางบางซื่อเลยแล้วกัน สำหรับทริปนี้ ลาไปก่อน สวัสดีค่าาาา
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
One day trip | นั่งรถไฟ ไปกาญฯ เถอะ | 24 มีนาคม 2024
เสาร์ - อาทิตย์ เวียนมาถึงอีกแล้ว เรามาหาโอกาสท่องเที่ยวแบบประหยัดงบ เดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ ไปกับรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษกันดีกว่า มาลองดูว่าการหนีร้อนไปเจอร้อนกว่าจะสนุกแค่ไหน ไปกั๊นนนนน
24 มีนาคม 2024
04.30 น. นกที่ตื่นเช้า คือนกที่ยังไม่ได้นอน
05.30 น. เดินทางไปจุดนัดหมาย MRT บางยี่ขัน
06.00 น. MRT สถานีบางยี่ขัน - สถานีหัวลำโพง
06.25 น. ถึง MRT สถานีหัวลำโพง รีบวิ่งให้ไว
06.30 น. วิ่งขึ้นขบวนรถเที่ยวพิเศษ 909 ที่ชานชาลาที่ 7 รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะ
จากนั้นก็ตามนี้เลยจ้า
19.00 น. ลงสถานีชุมทางบางซื่อ และแยกย้ายกันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ตื่นเช้าอีกแล้วววว แต่อารมณ์ของการตื่นไปทำงานกับการตื่นไปเที่ยวนี่มันช่างต่างกันโจ๊นนนนน ฮ่าฮ่าฮ่า ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน คือเรา พี่ใหม่และแบงค์ เพื่อนของเขา พวกเรานัดเจอกันที่ MRT สถานีบางยี่ขัน 05.30 น. เพื่อนั่งไปยังสถานีหัวลำโพง แต่เจ้ากรรมรถขบวนแรกมาถึงบางยี่ขัน 06.00 น. นั่นแปลว่า เราจะถึงปลายทางแบบฉิวเฉียดพอดี บวกต้องวิ่งนิดหน่อย
แล้วก็เป็นไปตามคาด ถึงสถานีหัวลำโพงแบบต้องวิ่งออกเท่านั้นจึงจะไปทัน วิ่งดิคร้าบบบรออะไร ความหวังที่ว่าจะตั้งใจมาเก็บบรรยากาศเก่า ๆ ที่สถานีกรุงเทพฯ สลายหายไปในทันที พวกเราขึ้นทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ขึ้นปุ๊บ รถไฟก็ปู๊น ๆ ออกตัวทันที และเราจึงค่อย ๆ เดินไปยังโบกี้ที่เราจองที่นั่งไว้ (แบบยังหายใจหอบอยู่)
รถไฟขบวนนำเที่ยวที่เราขึ้นมานี้ มี 6 ตู้ มุ่งหน้าไปยังสถานีน้ำตก 3 ตู้ และ มุ่งหน้าไปยังสถานีสวนสนประดิพัทธ์ อีก 3 ตู้ จะไปแยกกันระหว่างทาง เมื่อพวกเราได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ออกจากกรุงเทพฯ ดี บรรยากาศบนขบวนเริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ขายผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาจำหน่ายสินค้ากันอยู่ตลอด สำหรับเรามื้อเช้านี้ ขอเทใจให้กับก๋วยเตี๋ยวแห้งในตำนาน ห่อละ 10 บาท จัดเบา ๆ คนละ 2 ห่อ อาโหร่ยยย เราชอบมาก
ถึงแล้วจ้า สถานีนครปฐม สถานีแรกที่จอดให้พวกเราเดินเล่นได้ 40 นาที
สถานีนี้ติดกับองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งคนไทยย่อมต้องรู้จักเพราะเป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะทุกวัน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 06.00 - 19.00 น. และ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 06.00 - 20.00 น.
ทางเดินไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ มีร้านค้าตั้งเรียงรายสองข้างทาง อารมณ์เหมือนกึ่ง ๆ ถนนคนเดิน แต่มีรถผ่านได้ตลอด ต้องคอยระมัดระวังกันหน่อย
จวนจะถึงเวลา พวกเราก็กลับมายืนรอรถไฟที่เดิม ไม่นานรถไฟก็เคลื่อนขบวนต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จะคอยให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกในการสั่งอาหารมื้อเย็น รวมถึงของฝากที่เป็นของดีของเด็ดระหว่างทางที่รถไฟเคลื่อนผ่าน ซึ่ง การหาของกินอร่อย ๆ ไปฝากคนที่เรารัก มันกลายเป็นสเน่ห์ของการเดินทางโดยรถไฟไปโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แม้กระทั่งตอนที่เราเขียนกระทู้นี้อยู่ เรารู้สึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวแห้งขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะหากินที่ไหนให้ได้รสชาติแบบนั้น นอกเสียจากว่า เราจะเดินทางด้วยรถไฟอีก
นั่งจอย ๆ มองข้างทางไปเพลิน ๆ รถไฟขบวนนี้ก็พาเรามาหยุดที่ สะพานข้ามแม้น้ำแคว ที่ถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในระหว่างสงครามสะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศโดยการทิ้งระเบิดอย่างหนักจนสะพานหักท่อนกลาง ซึ่งตอบคำถามลูกหลานไปได้เลย ถึงที่มาของการตั้งลูกระเบิดจำลองไว้บริเวณหัวสะพาน หากพวกเขาถามว่าทำไมต้องเอาระเบิดมาตั้งตรงนี้
ปู๊น ๆ กระฉึกกระฉัก กันอยู่สักพัก พลันรถไฟก็เริ่มเคลื่อนขบวนช้าลง ช้าลงเรื่อย ๆ ทำให้รู้ได้ทันทีว่า จวนจะถึงแล้ว ทางรถไฟสายมรณะ สถานีถ้ำกระแซ ด้านหนึ่งเป็นเหวลึก อีกด้านหนึ่งคือหน้าผาหินสูงชัน ด้านล่างคือแม่น้ำแคว รถไฟเคลื่อนบนรางไปอย่างช้า ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เราถ่ายวิวผ่านกระจกรถไฟตู้แอร์ ได้ภาพมานิดหน่อย
ระหว่างทางมีอะไรให้มองตลอด ไม่เบื่อเลย
อึดใจเดียว ก็ถึงสถานีปลายทางที่รอคอย สถานีน้ำตก แต่ไม่ใช่ปลายทางสุดท้าย ปลายสายสุดของรถไฟขบวนนี้ พาเรามาหยุดอยู่ที่ น้ำตกไทรโยคน้อย จวนจะเที่ยงพอดี พวกเรากินข้าวผัดในร้านอาหารตามสั่งกันคนละจาน ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจสถานที่ ว่าเราจะปักหลักกันตรงไหนดีตลอดสามชั่วโมงนี้
บรรยากาศร่มรื่นดีมาก
น้ำค่อนข้างน้อย แต่น้ำเย็นมากพอให้ได้สดชื่นชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว
ต้นเฟิร์นแลดูสดชื่นมากเวอร์
ก่อนจะหมดเวลาสนุก ถ่ายรูปเล่นรอบ ๆ กันสักหน่อยดีกว่า
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนบ่ายสามได้เวลารวมพลขึ้นรถไฟอีกครั้ง รอบนี้เล็งไว้แล้วว่าจะวิ่งไปอยู่ตู้พัดลมเพื่อเก็บบรรยากาศนอกหน้าต่าง ตอนที่ผ่านเหว บริเวณถ้ำกระแซ หวาดเสียวน่าดู
สองข้างทางฝั่งตู้พัดลม ร้อนมากกกกกก แต่ถ่ายรูปสวยมากเช่นกัน
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีกาญจนบุรี รถขบวนนี้จะหยุดให้ผู้เดินทางไปเยี่ยมชม สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือสุสานสหประชาชาติ หรือชาวบ้านเรียกว่า ป่าช้าอังกฤษ ซึ่งจะจอดนาน 1 ชั่วโมง ต้องนั่งรถสองแถวหน้าสถานีไปแป๊ปปปปเดียว ไม่แนะนำให้เดิน เนื่องจากถนนใหญ่ ค่อนข้างอันตราย ใครใคร่ลงก็ลง ใครจะนอนเล่นอยู่บนรถก็แล้วแต่เพราะไม่ได้ปิดแอร์ เนื่องจากเพลียและร้อน เราเลือกนั่งเล่นดูรูปในรถสะดวกกว่า เมื่อถึงเวลานัดหมาย รถก็เคลื่อนขบวนออกตรงเวลา พระอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยลงต่ำ เป็นสัญญาณที่ดวงอาทิตย์ส่งต่อหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ดวงตะวัน ส่วนเรา ขอนั่งไปกินกินเตี๋ยวปลาแสนอร่อยไปจนกว่าจะถึงสถานีชุมทางบางซื่อเลยแล้วกัน สำหรับทริปนี้ ลาไปก่อน สวัสดีค่าาาา