ขอแชร์ประสบการณ์ก่อนนะคะ
เราเป็นคนๆนึงที่ไม่ได้เก่งอะไรนอกจากเรื่องเรียนเลยค่ะเราสอบได้มหาลัยนึงเป็นคณะทางสายวิทย์สุขภาพ
อันที่จริงเราไม่มีเงินเรียนด้วยซ้ำ แต่กู้กยศเอาค่ะ ได้จ่ายค่าเทอม แล้วก็ยังได้เป็นรายเดือน เดือนละ 3,500 บาท
มันไม่พอหรอกค่ะ แต่ยังดีที่พ่อยังช่วยส่งเดือนละ 3000 บาท รวมๆก็มี 6,500 ต่อเดือน อันนี้รวมค่าน้ำค่าไฟหอที่ต้องจ่ายด้วยนะคะกินใช้ทุกอย่างรวมในนี้
มันก็พอมีเหลือเก็บบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่แม่เราชอบมาขอที่เราค่ะ เราไม่มีรายได้อย่างอื่นเลยนอกจากทุนการศึกษา เราบอกว่ามันคือทุนเรียนเรานะ แต่แม่ก็ยังเอาค่ะ แม่ชอบพูดประโยคเดิมๆว่าเอาให้แม่ก่อน แม่จำเป็นต้องใช้ เดี๋ยวแม่คืน เดี๋ยวแม่ก็รวยแล้ว แต่แม่ไม่เคยคืนเลยค่ะ บางทีก็ขึ้นเสียงใส่เราด้วยซ้ำพอเราพูดเรื่องนี้ คือเราเจ็บมากค่ะ ทำไมเงินทุนที่เราได้มาเอง แล้วแม่เป็นคนขอ ทำไมเราถึงเหมือนเป็นคนผิดว่าพูดอะไรเยอะแยะ ดึงดราม่าทำไม เดี๋ยวคืนเอง ไม่ดูเวลาเสียบ้างว่าตอนนี้มันจำเป็น ประมาณว่าเราเหมือนเด็ก ไม่เข้าใจอะไรเลย
อยู่มาวันหนึ่งมีหมายศาลมาที่พ่อว่าจะฟ้องพ่อ เพราะพ่อเป็นผู้ค้าประกันหนี้ให้แม่ แต่ตอนนี้พ่อกับแม่เลิกกันแล้ว เราไม่เคยได้ใช้เงินก้อนนั้นสักบาท แต่เราต้องหามาจ่ายค่ะ พ่อก็มาเค้นเอากับเราเพราะพ่อไม่คุยกับแม่ ส่วนแม่ก็พูดแค่เดี๋ยวแม่จ่ายเอง แต่แม่ไม่มีจ่ายหรอกค่ะ เราเลยต้องรับเอง ต้องเอาเงินทุนการศึกษาที่ขอกับคณะจ่ายไปก่อน
เราเจ็บมามากหลายรอบ เคยคุยกับแม่จนทะเลาะ เราเลยไม่คุยกับแม่ แม่บอก "แม่ขอโทษที่แม่มันจน เลยเป็นแม่ของลูกไม่ได้" มันทำให้เรารู้สึกอกตัญญูมากค่ะ แต่เราเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ นอกจากมีเรื่องหนี้แล้ว ก็ยังมีเรื่องชีวิตประจำวันแม่อีก เช่น พรุ่งนี้ไม่มีจ่ายค่าไฟขอเราก่อน ออกมาข้างนอกน้ำมันหมดเกลี้ยงโอนไปให้หน่อย แม่ไม่สบายไม่ได้ทำงานมาแล้วสามวัน ไม่มีเงินติดตัวเลย โอนมาให้หน่อย เป็นต้น เราถามตัวเองตลอดว่าทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เราจำความได้ กระปุกออมสินกระปุกแรกตอนอนุบาลเราก็เอาให้แม่ค่ะ ทำไมชีวิตแม่ไม่ดีขึ้นเลย ทำไมถึงอยู่อย่างลำบากตลอด ทั้งแม่ก็มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคร้าย ไม่ได้เกษียณ มีอาชีพ มีวิชาติดตัว บางวันทำงานได้วันเป็นพัน ถึงจะไม่ใช่ทุกวัน แต่ทำไมยังมีวันที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาทเลย
แล้วก็ถามตัวเองอีกว่าชีวิตเราที่เรียนอยู่ไม่มีรายได้อะไรเลยนี้ มันจะต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ คำตอบคือ ใช่ค่ะ เราตัดสินใจรับทุนรพ.รัฐ แล้วใช้ทุน 4 ปีทีหลัง เพื่อให้ได้เอาทุนตรงนั้นมาทำให้ เรา ครอบครัว ได้หายใจออกก่อน แต่ตอนนี้เราเหมือนติดคุกที่ไม่มีกรงขัง เราไปไหนไม่ได้ โอกาสทำงานเอกชนที่ครอบคลุมที่เรียนกว่า เงินเดือนมากกว่า มันทำไม่ได้ เราไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ติดกับกับคำว่างานราชการชีวิตมั่นคง มีสวัสดิการรักษาพยาบาลให้พ่อแม่ อย่างน้อยถ้าน้องๆล้มก็ยังมีเราที่ค้ำครอบครัวอยู่ น้องไม่ต้องมาห่วงเรื่องพ่อกับแม่ ทุกวันนี้เราเงินเดือนน้อยมาก เอาไปจ่ายหนี้ให้แม่ทุกเดือน ยังมีหนี้กยศด้วย แม่ก็มาขอยิบย่อยด้วย
แม่พูดตลอดเดี๋ยวแม่คืน เดี๋ยวแม่ชีวิตดีขึ้น เดี๋ยวแม่รวยแล้ว แต่แม่โกหกเราค่ะ เราไม่หวังอีกแล้ว เราเหนื่อยมากแล้ว แต่มันก็คงเป็นหน้าที่ของเราตั้งแต่เกิดมาแล้วก็ได้ เหมือนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เราเลยอยากถามพ่อแม่ท่านอื่นว่า ถ้าเกิดลูกมา อยากให้ลูกเลี้ยงเราตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ?
ขอถามพ่อแม่ค่ะ เกิดลูกมาแล้ว อยากให้ลูกเลี้ยงเราตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ?
เราเป็นคนๆนึงที่ไม่ได้เก่งอะไรนอกจากเรื่องเรียนเลยค่ะเราสอบได้มหาลัยนึงเป็นคณะทางสายวิทย์สุขภาพ
อันที่จริงเราไม่มีเงินเรียนด้วยซ้ำ แต่กู้กยศเอาค่ะ ได้จ่ายค่าเทอม แล้วก็ยังได้เป็นรายเดือน เดือนละ 3,500 บาท
มันไม่พอหรอกค่ะ แต่ยังดีที่พ่อยังช่วยส่งเดือนละ 3000 บาท รวมๆก็มี 6,500 ต่อเดือน อันนี้รวมค่าน้ำค่าไฟหอที่ต้องจ่ายด้วยนะคะกินใช้ทุกอย่างรวมในนี้
มันก็พอมีเหลือเก็บบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่แม่เราชอบมาขอที่เราค่ะ เราไม่มีรายได้อย่างอื่นเลยนอกจากทุนการศึกษา เราบอกว่ามันคือทุนเรียนเรานะ แต่แม่ก็ยังเอาค่ะ แม่ชอบพูดประโยคเดิมๆว่าเอาให้แม่ก่อน แม่จำเป็นต้องใช้ เดี๋ยวแม่คืน เดี๋ยวแม่ก็รวยแล้ว แต่แม่ไม่เคยคืนเลยค่ะ บางทีก็ขึ้นเสียงใส่เราด้วยซ้ำพอเราพูดเรื่องนี้ คือเราเจ็บมากค่ะ ทำไมเงินทุนที่เราได้มาเอง แล้วแม่เป็นคนขอ ทำไมเราถึงเหมือนเป็นคนผิดว่าพูดอะไรเยอะแยะ ดึงดราม่าทำไม เดี๋ยวคืนเอง ไม่ดูเวลาเสียบ้างว่าตอนนี้มันจำเป็น ประมาณว่าเราเหมือนเด็ก ไม่เข้าใจอะไรเลย
อยู่มาวันหนึ่งมีหมายศาลมาที่พ่อว่าจะฟ้องพ่อ เพราะพ่อเป็นผู้ค้าประกันหนี้ให้แม่ แต่ตอนนี้พ่อกับแม่เลิกกันแล้ว เราไม่เคยได้ใช้เงินก้อนนั้นสักบาท แต่เราต้องหามาจ่ายค่ะ พ่อก็มาเค้นเอากับเราเพราะพ่อไม่คุยกับแม่ ส่วนแม่ก็พูดแค่เดี๋ยวแม่จ่ายเอง แต่แม่ไม่มีจ่ายหรอกค่ะ เราเลยต้องรับเอง ต้องเอาเงินทุนการศึกษาที่ขอกับคณะจ่ายไปก่อน
เราเจ็บมามากหลายรอบ เคยคุยกับแม่จนทะเลาะ เราเลยไม่คุยกับแม่ แม่บอก "แม่ขอโทษที่แม่มันจน เลยเป็นแม่ของลูกไม่ได้" มันทำให้เรารู้สึกอกตัญญูมากค่ะ แต่เราเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ นอกจากมีเรื่องหนี้แล้ว ก็ยังมีเรื่องชีวิตประจำวันแม่อีก เช่น พรุ่งนี้ไม่มีจ่ายค่าไฟขอเราก่อน ออกมาข้างนอกน้ำมันหมดเกลี้ยงโอนไปให้หน่อย แม่ไม่สบายไม่ได้ทำงานมาแล้วสามวัน ไม่มีเงินติดตัวเลย โอนมาให้หน่อย เป็นต้น เราถามตัวเองตลอดว่าทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เราจำความได้ กระปุกออมสินกระปุกแรกตอนอนุบาลเราก็เอาให้แม่ค่ะ ทำไมชีวิตแม่ไม่ดีขึ้นเลย ทำไมถึงอยู่อย่างลำบากตลอด ทั้งแม่ก็มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคร้าย ไม่ได้เกษียณ มีอาชีพ มีวิชาติดตัว บางวันทำงานได้วันเป็นพัน ถึงจะไม่ใช่ทุกวัน แต่ทำไมยังมีวันที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาทเลย
แล้วก็ถามตัวเองอีกว่าชีวิตเราที่เรียนอยู่ไม่มีรายได้อะไรเลยนี้ มันจะต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ คำตอบคือ ใช่ค่ะ เราตัดสินใจรับทุนรพ.รัฐ แล้วใช้ทุน 4 ปีทีหลัง เพื่อให้ได้เอาทุนตรงนั้นมาทำให้ เรา ครอบครัว ได้หายใจออกก่อน แต่ตอนนี้เราเหมือนติดคุกที่ไม่มีกรงขัง เราไปไหนไม่ได้ โอกาสทำงานเอกชนที่ครอบคลุมที่เรียนกว่า เงินเดือนมากกว่า มันทำไม่ได้ เราไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ติดกับกับคำว่างานราชการชีวิตมั่นคง มีสวัสดิการรักษาพยาบาลให้พ่อแม่ อย่างน้อยถ้าน้องๆล้มก็ยังมีเราที่ค้ำครอบครัวอยู่ น้องไม่ต้องมาห่วงเรื่องพ่อกับแม่ ทุกวันนี้เราเงินเดือนน้อยมาก เอาไปจ่ายหนี้ให้แม่ทุกเดือน ยังมีหนี้กยศด้วย แม่ก็มาขอยิบย่อยด้วย
แม่พูดตลอดเดี๋ยวแม่คืน เดี๋ยวแม่ชีวิตดีขึ้น เดี๋ยวแม่รวยแล้ว แต่แม่โกหกเราค่ะ เราไม่หวังอีกแล้ว เราเหนื่อยมากแล้ว แต่มันก็คงเป็นหน้าที่ของเราตั้งแต่เกิดมาแล้วก็ได้ เหมือนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เราเลยอยากถามพ่อแม่ท่านอื่นว่า ถ้าเกิดลูกมา อยากให้ลูกเลี้ยงเราตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ?