ไม่กล้ามีความฝัน กลัวอนาคต ไม่กล้าเผชิญกับโลกใบใหญ่ ไม่มั่นใจในตัวเอง

สวัสดีครับ ผมอายุ 17 ปี ตอนนี้กำลังจะอายุ 18 หรือกำลังขึ้นมอ 6 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเลย
ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มั่นใจและไม่อยากสู้เหมือนไม่กล้ามีความฝันกลัวกดดันตัวเองจนไม่มีความสุขกับการเดินตามฝันครับ

ผมขอท้าวความครับว่า ในช่วงประถมปลาย ผมไม่ใช่เด็กเรียนออกไปทางไม่เอาไหนเลยด้วยซ้ำ โดดเรียน แกล้งครูมาตั้งแต่เล็ก ๆ เลย แต่พอเข้าสู่ ช่วงปิดเทอมขึ้นมอต้น ผมเล่นเกมติดเกมหนักมาก จนมาถึงช่วงเวลาหนึ่งที่จู่กลับมีความคิดเข้ามาในหัวที่ว่า “ ทำไมวันนี้กูยังเล่นเกมอยู่วะ แล้วโตไปกูจะเอาที่ไหนกิน? จะเกาะแม่ไปตลอดเลยหรอ? ตอนนี้เองแม่ก็ยังไม่ได้สบายภาระยังเยอะมากๆ “ ทำให้ผมที่ไม่เอาไหนเลย รู้สึกแค่ว่าต้องตั้งใจเรียน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะตั้งใจเรียนไปเพื่ออะไร รู้แค่ว่าต้องเริ่มจากตั้งใจเรียน จนทำให้ผมพยายามหาวิธีเรียน ลองผิดลองถูกมาจนตั้งหลักเรียนได้ ช่วงนั้นอ่านหนังสือสนุกมากกกกกก วันละ6-8ชมได้เลย รู้สึกว่าทุกวัน ทุกการตื่นนอนมันมีความหมายมันอยากตื่น จนเข้าสู่ช่วง ม.3 ที่ตัวผมได้รู้จักกับโรงเรียนดังโรงเรียนนึง ที่เน้นการเรียนมากก ผมหาข้อมูลเพื่อมาประกอบการตัดสินใจอยู่นานและจำได้ว่าก่อนหน้านี้แม่เองก็อยากให้ผมมาเรียนอยู่นี้ แต่ด้วยการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนั้นผมเองผมก็มีโรงเรียนในใจ(ที่ไม่ต่อที่เดิมเพราะผมเรียนโรงเรียนประถมที่มีแค่ม.3นะครับ) ผมเลยกะว่าจะสอบที่ที่อยากเข้าและสมัครสอบที่นี่เผื่อ ผลคือช่วง2เดือนก่อนสอบผมกลับหมดไฟไม่อยากอ่าน ผสมกับช่วงมอ 3 ที่งานเยอะมาก จนเวลาอ่านหนังสือน้อยมาก ๆ และใช่ครับผมไม่ติดที่ที่อยากเข้าแต่มาติดที่นี่แทน(นอยไปพักใหญ่เลย) ซึ่งหากมองในภาพรวม ก็ยังนับว่าเป็นโรงเรียนที่เขาว่าดีมาก ๆ ในด้านการเรียน ผมเลยตัดสินใจมาเข้าที่นี้และเทอีกหลาย ๆ ที่ที่สอบติด

พอหลังจากที่เข้ามาได้ในเทอมแรกผมที่ชอบทำกิจกรรมและรู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนสังคมใหม่โรงเรียนใหม่และการใช้ชีวิตใหม่ ๆ (โรงเรียนประจำ) ทำให้ตัวผมทำกิจกรรมค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว ในตอนแรกผมเข้ามาเรียนพร้อมกับไฟในตัวที่สูงมากกกกกก ความอยากเรียนอยากรู้และความตั้งใจเยอะมากกกกก และสังเกตได้ว่าการแข่งขันในโรงเรียนสูงมากจริง ๆ และมีความฝันที่ตัวของผมเองอยากเป็นหมอและค่อนข้างมั่นใจมากๆในความฝันนี้ ตอนอยู่ม4ผมอ่านเอาหนังมากจริงๆ บางวันโต้รุ่งเลยก็เคยครับ ด้วยความที่ตัวของผมไม่ได้มีพื้นฐานดีมากและก็ไม่ได้เก่งหรือเรียนรู้ใว้มากในบางวิชาเหมือนคนอื่น ๆ
       แต่พอผ่านมาเทอมที่ 2 ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวของผมเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ บอกกับตัวเองว่าอยากเป็นหมอ สอบเข้าโรงเรียนดังได้ แต่ยังชอบทำกิจกรรมจนบางครั้งก็แทบจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไหร่ เกรดที่ได้เลยออกมาไม่ได้แย่มากสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้ดีเลยสำหรับการอยู่ในโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ๆ อย่างนี้
       พอเข้ามาเทอมที่ 3 หรือม5 เป็นปีที่มีกิจกรรมเยอะมาก ๆ บวกกับการที่ผมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้จัดงานต่าง ๆ ภายในโรงเรียนทำให้กิจกรรมของผมมันเยอะเข้าไปอีก ผมเองในช่วงนั้นแทบไม่ได้จับหนังสือเลย เว้นแต่ช่วงสอบเก็บคะแนนหรือสอบครั้งใหญ่อย่างกลางภาคหรือปลายภาค และแน่นอนว่าคะแนนออกมาไม่ดีเลย ผมยอมรับเลยครับว่าในปีนี้ผมเองอ่านหนังสือน้อยกว่าตอนม4มาก ในขณะเดียวกันเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนในการจัดกิจกรรมมีเวลาอ่านหนังสือเยอะมาก ทำให้บางคนการเรียนถือได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลย แต่ตัวผมหยุดอยู่กับที่  และช่วงนั้นจากการทำกิจกรรมที่ผมเคยมองว่าสนุกตอนนี้ก็กลับไม่สนุก เพราะงานเยอะมากบวกกับการที่ต้องทำงานกับคนอีโก้สูง ๆ ทำงานร่วมกับคนTocix ผมเองโดนด่าเยอะมาก จากการที่ทำงานไม่ถูกใจ บางครั้งก็โดนรับแทนคนอื่น ต้องทำงานร่วมกับคน Toxic ในขณะเดียวกันที่การเรียนอาจารย์หรือครูก็กดดันมากพอสมควร
       ทำให้ตัวของผมในตอนนั้นดูแย่มาก ๆ สภาพจิตใจไม่โอเคเลย ช่วยกิจกรรมเสร็จก็ต้องกลับมาเรียนหนังสือ เรียนได้ไม่เท่าไหร่ก็สอบ สอบเสร็จก็ไปทำกิจกรรม แล้วกลับมาอ่านหนังสือเตรียมสอบในวันถัดๆไป ตัวผมเหมือนกำลังจะแตก ช่วงนั้นพูดเลยว่าร้องให้บ่อยมาก ๆ การรับอะไรมามากมายทำให้ตัวของผมช่วงนั้นผมได้อยู่กับตัวเอง และถามกับตัวเองใหม่ว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “เรากำลังทำอะไรอยู่และต้องการอะไรกันแน่?”

อย่างที่บอกไปว่าตัวของผมในตอนนั้นสภาพใชจิตใจแย่มาก เลยถอยออกมาจากโลกที่กำลังต่อสู้อยู่ จนได้พบว่า ตัวเองกำลังอยู่กับความ Toxic (ขอไม่อธิบายมากนะครับแต่ภาพรวมเลยคือ สังคมที่Toxic ทั้งทั่งคนที่คำพูดและการกระทำ คนพูดคุยกับเข้าหากันด้วยผลประโยชน์เยอะมากจนน่ากลัวจากการแข่งขันที่สูง เด็กเหมือนโรบอทบางคำพูดบางคำออกมาเหมือนไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้ฟังเลย การแข่งขันสูง ๆ และการกดดันมันทำให้ผู้คนทำอะไรก็ได้เพื่อได้มาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผมพูดได้เลยว่าสำหรับผมแล้วมันน่ากลัวมาก)

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกว่าจากแต่ก่อนที่การเรียนมันสนุกมากๆๆๆๆๆ แต่พอมาตอนนี้ต้องต่อสู้กับสังคมที่Toxic การแข่งขันสูง ๆ ความกดดันมาก ๆ จนความรู้สึกต่อการเรียนไม่ได้สนุกและอยากทำมากเหมือนเมื่อก่อนยิ่งกำลังจะขึ้นม6 ทุกคนเริ่มพูดถึงมหาลัยการสอบหนักขึ้น การกดดันทั้งจากเพื่อนและครู ทำให้ตัวของผมอดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่ได้ว่า แค่เด็กในโรงเรียนเรายังสู้ไม่ได้เลยหัวกลางๆแค่นี้จะไปสู้งเด็กข้างนอกที่อยากเป็นหมอเหมือนกันได้อย่างไง แล้วหมอมันเหมาะกับเราแล้วจริง ๆ หรอ สอบก็ใช่ว่าจะออกมาดี ไม่ใช่แค่เพียงแต่การเปรียบเทียบครั้งนี้แต่ด้วยสภาพแวดล้อมและการกดดันที่ผ่าน ๆ มาบวกกับที่เคยพลาดมาหลายครั้งทำให้ตัวของรู้สึกไม่กล้าฝันที่จะเป็นหมอแล้ว ไม่อยากกลับไปมีไฟอ่านหนังสือเพราะอ่านแล้วก็สอบสู้คนอื่นไม่ได้ ไม่อยากสอบ ไม่อยากสู้ ไม่อยากเข้าไปอยู่กับการแข่งขันอีกแล้ว แม้ว่าผู้คนจะบอกว่าเราไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบหรือแข่งขันกับใครแต่ถ้ามองในความเป็นจริงมันก็คงต้องมีบ้างหรืออดไม่ได้ ตอนนี้ผมล่องลอยมากครับ เหมือนตัวเองไม่มีจุดหมาย พอจะเริ่มกลับมาตั้งตัวใหม่เหมือนรางกายและควมคิดลึก ๆ มันกีดกันให้ผมไปไม่ทำมัน ถึงแม้จะลองฝืนแต่ก็เหมือนที่พยายามอ่านไม่มีอะไรเข้าหัวเลย การเรียนแทบจะไม่สนุกอีกแล้วสำหรับผม ผมเองในตอนนี้มีเวลาอีกแค่ 10เดือนแต่ตัวเองยังหาเป้าหมายจับทางไม่ถูก กลัวไปหมดเลยครับ ไม่กล้าลุกขึ้นสู้อีก กลัวการแข่งขัน กลัวเพื่อน(กลัวเราจะตั้งความฝันไว้สูงแล้วเขาจะเปรียบเทียบเราหรือมองว่าเราเป็นหมามองเครื่องบิน รู้สึกได้เลยว่าพวกบางคนใช้คำพูดกดเราให้จมลงจนตัวเขาดูสูงขึ้น สายตาพวกเขามันบงบอกมาก ๆ ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรกับเราบางครั้งพูดให้ผมได้ยินเลยก็มี)

ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าต้องทำไงแล้วให้ตัวเองกล้ากลับมาเป็นคนเดิมที่มีไฟ ที่ชอบอ่านหนังสือ ไม่รู้จะทำอย่างไงให้ตัวเองกล้าที่จะฝัน กล้าที่จะสู้เพื่อตัวเอง เพื่อแม่ เพื่อนอนาคตข้างหน้า ไม่รู้จะทำอย่างไงแล้วให้ตัวเองกล้าที่จะเชื่อมั่นใจตัวเองอีกครั้ง กล้าต่อสู้กับสังคมและผู้คนที่Toxic กลัวไปหมด กลัวอนาคตไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ ผมเป็นคนคิดมากยอมรับเลยจริงๆครับ ตอนนี้ผมควรต้องทำอะไงดีครับ

ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ ปล.อย่าพึ่งว่าผมนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่