เปิดตัว มาสด้า บีที-50 รุ่นปรับโฉมเพิ่มความดุดัน เพิ่มสีเทาร็อกเกรย์ใหม่ ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ Stop & Go และ Sport Paddle Shift เพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเทอร์โบ 190 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่าย 752,000 - 1,272,000 บาท
ราคาทางการ มาสด้า บีที-50 โฉมใหม่ ทั้ง 6 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น FSC 1.9 C Hi-Racer ราคา 752,000 บาท รุ่น FSC 3.0 S Hi-Racer ราคา 862,000 บาท รุ่น DBL 1.9 S Hi-Racer ราคา 922,000 บาท รุ่น DBL 3.0 S Hi-Racer 6AT ราคา 992,000 บาท รุ่น DBL 3.0 SP Hi-Racer 6AT ราคา 1,172,000 บาท และรุ่น DBL 4x4 3.0 SP 6AT ราคา 1,272,000 บาท
จุดเด่นสำคัญสำหรับ New Mazda BT-50 คือการออกแบบอันสง่างามของ “โคโดะ ดีไซน์” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มุ่งเน้นให้เกิดความเรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX Series เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า โดยผนวกรวมจุดเด่นทั้งหมดของมาสด้าและความต้องการของลูกค้าที่อยากจะเห็นจากรถปิกอัพในปัจจุบัน คือการออกแบบที่สง่างามสไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูงเท่านั้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย อุปกรณ์ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับรถเอสยูวีในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นปิกอัพที่มีความอเนกประสงค์ขับขี่ได้ทุกโอกาส ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
ภายนอกของ มาสด้า บีที-50 ใหม่ เสริมดีไซน์ด้วยกระจังหน้าและ Signature Wing สีดำเงาในทุกรุ่นย่อย เพิ่มทางเลือกด้วยตัวถังสีเทาร็อกเกรย์ใหม่ พร้อมชุดแต่งพิเศษ Black Thunder สีดำเงา ประกอบด้วย ชุดแต่งกันชนหน้า, สปอร์ตบาร์, กระจกมองข้าง, คิ้วตกแต่งซุ้มล่อ, มือเปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีทูโทนสีน้ำตาล-ดำ พร้อมอัปเกรดอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
มาสด้า บีที-50 ใหม่ ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงเต็มรูปแบบเพิ่มเติมเข้ามา ประกอบด้วย ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ Stop & Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนLDW (Lane Departure Warning, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning), ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาดPMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด, ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว MSL (Manual Speed Limiter) และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beam)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ เช่น ถุงลมนิรภัยสูงสุด 6 ตำแหน่ง, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง, กล้องมองหลัง (ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับน้ำมัน B20 และผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับ EURO 5 โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกติดตั้งระบบ Rough Terrain Mode และระบบ Electronic Diff-Lock ที่เฟืองท้าย
มาสด้า บีที-50 รุ่น Freestyle Cab Hi-Racer ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น Double Cab Hi-Racer ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังมีการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรเป็นครั้งแรก พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) เป็นมาตรฐาน
มาสด้า บีที-50 โฉมใหม่ มาพร้อมโปรโมชันดอกเบี้ย 0.99% (เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน) และฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี
ที่มาภาพ/ข่าว
https://mgronline.com/motoring/detail/9670000024918
"มาสด้า บีที-50" ใหม่ เน้นจุดขายเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาเริ่ม 752,000 บาท
ราคาทางการ มาสด้า บีที-50 โฉมใหม่ ทั้ง 6 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น FSC 1.9 C Hi-Racer ราคา 752,000 บาท รุ่น FSC 3.0 S Hi-Racer ราคา 862,000 บาท รุ่น DBL 1.9 S Hi-Racer ราคา 922,000 บาท รุ่น DBL 3.0 S Hi-Racer 6AT ราคา 992,000 บาท รุ่น DBL 3.0 SP Hi-Racer 6AT ราคา 1,172,000 บาท และรุ่น DBL 4x4 3.0 SP 6AT ราคา 1,272,000 บาท
จุดเด่นสำคัญสำหรับ New Mazda BT-50 คือการออกแบบอันสง่างามของ “โคโดะ ดีไซน์” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มุ่งเน้นให้เกิดความเรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX Series เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า โดยผนวกรวมจุดเด่นทั้งหมดของมาสด้าและความต้องการของลูกค้าที่อยากจะเห็นจากรถปิกอัพในปัจจุบัน คือการออกแบบที่สง่างามสไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูงเท่านั้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย อุปกรณ์ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับรถเอสยูวีในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นปิกอัพที่มีความอเนกประสงค์ขับขี่ได้ทุกโอกาส ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
ภายนอกของ มาสด้า บีที-50 ใหม่ เสริมดีไซน์ด้วยกระจังหน้าและ Signature Wing สีดำเงาในทุกรุ่นย่อย เพิ่มทางเลือกด้วยตัวถังสีเทาร็อกเกรย์ใหม่ พร้อมชุดแต่งพิเศษ Black Thunder สีดำเงา ประกอบด้วย ชุดแต่งกันชนหน้า, สปอร์ตบาร์, กระจกมองข้าง, คิ้วตกแต่งซุ้มล่อ, มือเปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีทูโทนสีน้ำตาล-ดำ พร้อมอัปเกรดอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
มาสด้า บีที-50 ใหม่ ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงเต็มรูปแบบเพิ่มเติมเข้ามา ประกอบด้วย ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ Stop & Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนLDW (Lane Departure Warning, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning), ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาดPMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด, ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว MSL (Manual Speed Limiter) และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beam)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ เช่น ถุงลมนิรภัยสูงสุด 6 ตำแหน่ง, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง, กล้องมองหลัง (ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับน้ำมัน B20 และผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับ EURO 5 โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกติดตั้งระบบ Rough Terrain Mode และระบบ Electronic Diff-Lock ที่เฟืองท้าย
มาสด้า บีที-50 รุ่น Freestyle Cab Hi-Racer ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น Double Cab Hi-Racer ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังมีการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรเป็นครั้งแรก พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) เป็นมาตรฐาน
มาสด้า บีที-50 โฉมใหม่ มาพร้อมโปรโมชันดอกเบี้ย 0.99% (เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน) และฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี
ที่มาภาพ/ข่าว https://mgronline.com/motoring/detail/9670000024918