นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยประเทศไทยคว้าอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย (Emerging and Developing : E&D) ที่น่าลงทุนที่สุด จากการประกาศผลดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก (Global Opportunity Index : GOI) ซึ่งจัดทำโดย Milken Institute ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเชื่อมั่นว่าการทำงานของรัฐบาล จะดึงดูดการลงทุนให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผลักดันให้ไทยอยู่ในเรดาห์น่าลงทุนในโลก
สำหรับดัชนี GOI จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั่วโลก ที่มองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ และให้ข้อมูลแก่ประเทศต่างๆ ที่ต้องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยดัชนีนี้อิงตามตัวชี้วัด 100 รายการ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่ ได้แก่ 1.การรับรู้ทางธุรกิจ 2.พื้นฐานทางเศรษฐกิจ 3.บริการทางการเงิน 4.โครงสร้างเชิงสถาบัน และ 5.มาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ
โดยอันดับ 1-5 กลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย ไทย จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะที่อันดับโลก ไทยอยู่ในอันดับ 37
ทั้งนี้ กลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย การรับรู้ทางธุรกิจ ไทยอยู่อันดับ 21, พื้นฐานทางเศรษฐกิจ ไทยอยู่อันดับ 22, บริการทางการเงินไทย อยู่อันดับ 29, โครงสร้างเชิงสถาบัน ไทยอยู่อันดับ 51 และมาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ ไทยอยู่อันดับ 68 สำหรับประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในโลก คือ เดนมาร์ก
ตามรายงานระบุว่า ประเทศในกลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย มีผลประกอบการที่ดีกว่าภูมิภาคอื่น ดึงดูดเงินทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (53.2%) ไหลเข้าสู่ประเทศ E&D ระหว่างปี 2561-2565 เพิ่มส่วนแบ่งใน E&D มากขึ้น 7.3% จาก 45.9% ระหว่างปี 2556-2560
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กำหนดนโยบายให้ทันสมัย สอดคล้องจูงใจนักลงทุน รวมทั้งพัฒนาและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน (Ease of doing Business) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไทยเป็นที่สนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และได้ออกไปรับฟังว่า สิ่งสำคัญที่นักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกต้องการคืออะไร เพื่อปรับกระบวนทัศน์ และยุทธศาสตร์ของไทยให้ตอบรับกับความต้องการของนักลงทุนรายใหญ่
พร้อมกันนี้ มีข้อความสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งต่ออย่างต่อเนื่อง คือ ประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมรองรับการลงทุน และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่จะลงทุนในประเทศไทย
https://www.infoquest.co.th/2024/384956
ซึ่งเมื่อพิจารณาตามอันดับ GOI ประจำปี 2567 พบว่า 10 ประเทศดังกล่าว มีอันดับดังนี้
มาเลเซีย มาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอยู่ในอันดับ 27 ของโลก
ไทยมาเป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอันดับ 37 ของโลก
จีน อันดับ 3 ในเอเชีย อันดับ 39 ของโลก
อินโดนีเซีย อันดับ 4 ในเอเชีย อันดับ 55 ของโลก
เวียดนาม อันดับ 5 ในเอเชีย อันดับ 65 ของโลก
อินเดีย อันดับ 6 ในเอเชีย อันดับ 72 ของโลก
มองโกเลีย อันดับ 7 ของเอเชีย อันดับ 78 ของโลก
ศรีลังกา อันดับ 8 ของเอเชีย อันดับ 82 ของโลก
ฟิลิปปินส์ อันดับ 9 ของเอเชีย อันดับ 91 ของโลก
และกัมพูชา อันดับ 10 ของเอเชีย อันดับ 93 ของโลก
ไทยคว้าอันดับ 2 น่าลงทุนสุดของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย
สำหรับดัชนี GOI จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั่วโลก ที่มองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ และให้ข้อมูลแก่ประเทศต่างๆ ที่ต้องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยดัชนีนี้อิงตามตัวชี้วัด 100 รายการ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่ ได้แก่ 1.การรับรู้ทางธุรกิจ 2.พื้นฐานทางเศรษฐกิจ 3.บริการทางการเงิน 4.โครงสร้างเชิงสถาบัน และ 5.มาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ
โดยอันดับ 1-5 กลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย ไทย จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะที่อันดับโลก ไทยอยู่ในอันดับ 37
ทั้งนี้ กลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย การรับรู้ทางธุรกิจ ไทยอยู่อันดับ 21, พื้นฐานทางเศรษฐกิจ ไทยอยู่อันดับ 22, บริการทางการเงินไทย อยู่อันดับ 29, โครงสร้างเชิงสถาบัน ไทยอยู่อันดับ 51 และมาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ ไทยอยู่อันดับ 68 สำหรับประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในโลก คือ เดนมาร์ก
ตามรายงานระบุว่า ประเทศในกลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย มีผลประกอบการที่ดีกว่าภูมิภาคอื่น ดึงดูดเงินทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (53.2%) ไหลเข้าสู่ประเทศ E&D ระหว่างปี 2561-2565 เพิ่มส่วนแบ่งใน E&D มากขึ้น 7.3% จาก 45.9% ระหว่างปี 2556-2560
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กำหนดนโยบายให้ทันสมัย สอดคล้องจูงใจนักลงทุน รวมทั้งพัฒนาและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน (Ease of doing Business) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไทยเป็นที่สนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และได้ออกไปรับฟังว่า สิ่งสำคัญที่นักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกต้องการคืออะไร เพื่อปรับกระบวนทัศน์ และยุทธศาสตร์ของไทยให้ตอบรับกับความต้องการของนักลงทุนรายใหญ่
พร้อมกันนี้ มีข้อความสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งต่ออย่างต่อเนื่อง คือ ประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมรองรับการลงทุน และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่จะลงทุนในประเทศไทย
https://www.infoquest.co.th/2024/384956
ซึ่งเมื่อพิจารณาตามอันดับ GOI ประจำปี 2567 พบว่า 10 ประเทศดังกล่าว มีอันดับดังนี้
มาเลเซีย มาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอยู่ในอันดับ 27 ของโลก
ไทยมาเป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอันดับ 37 ของโลก
จีน อันดับ 3 ในเอเชีย อันดับ 39 ของโลก
อินโดนีเซีย อันดับ 4 ในเอเชีย อันดับ 55 ของโลก
เวียดนาม อันดับ 5 ในเอเชีย อันดับ 65 ของโลก
อินเดีย อันดับ 6 ในเอเชีย อันดับ 72 ของโลก
มองโกเลีย อันดับ 7 ของเอเชีย อันดับ 78 ของโลก
ศรีลังกา อันดับ 8 ของเอเชีย อันดับ 82 ของโลก
ฟิลิปปินส์ อันดับ 9 ของเอเชีย อันดับ 91 ของโลก
และกัมพูชา อันดับ 10 ของเอเชีย อันดับ 93 ของโลก