ทำไมคนที่โดนโทษ ม.112 เขาถึงเลือก อดอาหาร อดน้ำ เขาทำไปเพื่ออะไรครับ คนที่บีบแตรบนทางด่วนแล้วไม่เข้าใจ ความหมาย

อย่าโยงการเมืองหรือสถาบัน ผมอยากเข้าใจวิธีคิดของผู้คน
ทำไมคนที่โดนโทษ ม.112 เขาถึงเลือก อดอาหาร อดน้ำ เขาทำไปเพื่ออะไรครับ คนที่บีบแตรบนทางด่วนแล้วไม่เข้าใจ ความหมาย

การอดอาหารมันสื่อถึงอะไร สื่อถึงรูปแบบไหน
ทำไมเขาถึงเลือกจิบน้ำทีละนิดๆ (เหมือนว่าประคองให้ตัวเองอยู่ได้อีกหน่อยนึง)

เห็นว่ามีหมอคอยดูอาการ แต่ก็ปฎิเสธการรักษาอยู่เรื่อยๆ เหมือนว่าเขาเลือกที่จะยอมตาย 
แต่มีการจิบน้ำเพื่ออะไร

เท่าที่ผมรู้คือ มนุษย์ขาดน้ำได้ 3 วัน ขาดอาหารได้ 7 วัน 
ถ้าเขายอมตายทำไมไม่เลือกขาดน้ำ 3 วัน ทำไมถึงได้เลือกจิบน้ำทีละนิด 

อย่าโยงการเมืองหรือสถาบัน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 51
มันคือการฆ่าตัวตายเพื่อให้สังคมสนใจและคาดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เค้าคิดว่ามันไม่ถูกต้อง
ซึ่งคนที่ฆ่าตัวตายอาจจะเคยพยายามเรียกร้องความสนใจจากสังคมผ่านวิธีอื่นมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ
ซึ่งนอกจากการอดอาหาร บางคนก็อาจจะจุดไฟเผาตัวเอง ใช้ปืนยิงตัวตาย ฯลฯ ตามที่คิดว่าจะทำให้ได้รับความสนใจได้

ตอบแบบไม่อิงการเมืองก็จะถอดประเด็นที่ว่าสิ่งที่น้องทำหรือสิ่งที่น้องเรียกร้องถูกต้องหรือไม่ออกไป

ส่วนที่ถามว่าแล้วจิบน้ำทำไม อันนี้ผมก็ไม่ทราบความคิดของน้องได้
อาจจะมีใครมาเกลี้ยกล่อมให้หยุด
หรือ อาจจะอยู่ๆ กลัวตายขึ้นมา
หรือ ไม่ได้มีอุดมการณ์แต่แรกอยู่แล้วแต่เรียกร้องเพื่อหวังผลอื่น เลยไม่ยอมจบชีวิตตัวเอง
หรือ หวังแค่ให้ร่างกายอ่อนแอเพื่อจะเลี่ยงคุกไปอยู่ รพ แทน
ฯลฯ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ทำเพื่ออะไร   ทำเพื่อจะได้ประกันตัวและออกมาก่อเรื่องอีกไง

ถ้าอดอาหารจริงไม่กินดื่มอะไร 3 วันก็ลงโลงแล้ว   ดังนั้นการจะสร้างภาพเรียกร้องความสนใจให้คนสงสารปลุกกระแสจึงต้องยื้อเอาไ้ไม่ให้ตาย   ต้องแอบกินนู่นนี่เป็นระยะเพื่อให้รอดชีวิตไปเรื่อยๆไม่ตายจริง   ตายจริงก็จบแค่นั้นแต่ไม่ได้อยากตายจริงไง
ความคิดเห็นที่ 17
เป็นวิธีการต่อสู้แบบของเค้าค่ะ เค้าเชื่อว่ากระบวนการมันไม่ยุติธรรม และต้องการเรียกร้อง
     ที่เค้าบีบแตรตอนนั้น ก็คงเพราะหงุดหงิด รำคาญที่ต้องเสียเวลาที่โดนปิดถนน เหมือนการโวยวายเวลาโดนแซงคิวนั่นแหละ พูดจากใจ เราว่าหลายๆคนก็หงุดหงิด แต่แทบทุกคนอดทน ไม่แสดงออก
     เราเองบางครั้งก็สงสัยว่า ขบวนรถที่ผ่าน อาจจะเป็นแค่นักการเมืองที่มีอำนาจ ไม่อยากทนรถติดรึเปล่า เนื่องจากมันไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้ชัดเจนเลยว่าเป็นขบวนรถของใคร

    ซึ่งเรามองว่าเคสบีบแตร มันก็ดูไม่ยุติธรรมจริงๆ  (จากการดูคลิปที่บีบแตร) ใช่ มันดูไม่เหมาะสม ดูก้าวร้าว แต่ไม่ได้อยู่ในระดับของการขู่ฆ่า หรือทำร้ายร่างกายใครเลย มันผิดถึงขั้นต้องติดคุกเลยเหรอ เราเห็นคนที่ขู่ฆ่าคนอื่น หรือแม้แต่คนที่ลงมือทำร้ายร่างกาย, ข่มขืนคนอื่น ไม่เห็นโดนโทษอะไรหนักหนาแบบนี้

      ที่จิบน้ำบางครั้ง อาจเพราะมีพ่อแม่ คนที่รักเกลี้ยกล่อมมั้งคะ คนเรา เวลาทรมานมากๆ มันก็อาจจะไม่ได้มีสติที่จะทำอะไรอย่างที่ตั้งใจก็ได้มั้ง
      อดอาหาร อดน้ำ ในสภาพปกติ อยู่ได้ไม่นาน ในกรณีที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของหมอ
      แต่ที่อยู่ได้นาน ไม่ตายซักที ก็คงเป็นเพราะอยู่โรงพยาบาล หมอไม่ยอมให้ตาย น่าจะมีการให้น้ำเกลือ หรือให้อะไรทางเส้นเลือดมั้งคะ (ไม่แน่ใจ ไม่ได้ตามข่าว แต่คิดว่าโดยปกติ หมอก็ต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว)
     
    แต่สุดท้าย เราคิดว่าเค้าอาจจะตายจริงนะ แต่คงไม่เร็วแบบวันสองวันนี้ ดูพวกคนที่เป็นโรคอะนอเร็กเซีย ผอมเหลือแต่กระดูก แต่อยู่ในความดูแลของแพทย์ ก็มีที่อยู่ได้เป็นเดือน เป็นปี

     ส่วนตัวมองว่า พวกนี้สู้ไปก็ตายเปล่า ไม่ได้อะไรเลย
     คนที่ต่อสู้ทางการเมือง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตายฟรีเยอะแยะ นักศึกษาในธรรมศาสตร์ตอน 6 ตุลา ตายฟรีไปกี่คน จนทุกวันนี้ยังหาศพไม่เจออีกกี่คน

     ไม่โยงสถาบันทำได้ เพราะกรณีปิดถนน คนที่โดนปิดถนน ไม่สามารถรู้ได้จริงๆ ว่าขบวนรถที่ผ่าน เป็นใคร

     แต่ไม่โยงการเมือง ทำไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง เรามองว่า การปิดถนน เจ้าหน้าที่รัฐสามารถทำได้ดีกว่านี้ ใครที่บอกว่าปิดครั้งนึงมันแป้บเดียว ใช่ค่ะ บางครั้งมันแป้บเดียว แต่ที่ปิดนานๆมันก็มีปะ เราเองก็เคยเจอมาแล้ว
ความคิดเห็นที่ 13
ขำ กฏหมายไม่เป็นธรรม ความเป็นธรรมคือกรูอยากด่าใครก็ได้
ความคิดเห็นที่ 12
ก็เห็นว่าประท้วงความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมของการบังคับใช้กฎหมาย
  เราน่ามาวิเคราะห์แบบวิทย์ ว่าถูกต้องสมควรรึป่าว แบบว่าเอาปะทะกัน วิทย์ vs รัฐศาสตร์ vs กฎหมายแล้วหาความเหมาะสมน่ะ

  อะแฮ่ม ขอเริ่มก่อน...
ถ้าแบบวิทย์ก็เป็นเรื่อง เหตุ >> ผล เหตุไปหาผล
  การบีบแตร ไม่มีความเสียหายต่อใครในเชิงวัตถุ (คงแล้วแต่ความดัง) ผลจึงไม่น่าจะมีความผิดอะไร ไม่ควรมีโทษ
ถ้าแบบรัฐศาสตร์ เหตุ ~ ผล เหตุไม่เท่ากับผล หมายถึงความยืดหยุ่ยต่อเหตุการณ์ เหตุไม่แรงผลอาจจะแรงได้ หรือเหตุรุนแรง แต่ผลอาจไม่แรงก็ได้
  การบีบแตร เหตุไม่รุนแรง แต่ว่าผลต่อเหตุการณ์อาจก่อความเสียหายตามมาได้อีก โทษจึงอาจแรงขึ้นได้
  ถ้าแบบกฎหมาย เหตุ = ผล เหตุเท่าไหร่ผลเท่านั้น  การบีบแตร เหตุไม่รุนแรง แต่ก็ยังมีความผิดของกฎหมาย แค่ว่า ผลน่าจะให้เท่ากับเหตุ ความผิดจึงไม่น่ามากมาย
ความคิดเห็นที่ 20
เป็นแสดงออกเชิงอารยขัดขืนนั่นแหละครับ

มันก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือประท้วงและแสดงออกไม่กี่อย่างที่ประขาชนที่ไม่มีรถถังจะทำได้

ไม่อิงการเมือง การอดข้าวไม่ผลให้เกิดแรงทางฟิสิกส์ที่จะไปล้มล้างการปกครองหรือทำลายประเทศได้ แต่มีผลในเชิงเคมีต่อสมองของผู้ที่รับรู้ครับ แล้วเผอิญมนุษย์เราก็ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน ไม่ใช่หุ่นยนต์ พอเรารับรู้การแสดงออกทางสัญลักษณ์ บางครั้ง บางคน ก็จะฉุกคิด ครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่