ใกล้จะถึงกำหนดให้ยื่นภาษีของปีภาษี 2566 แล้ว ซึ่งจขกท.เองก็ยังไม่ได้ยื่นค่ะ ผลัดวันมานานเพราะขี้เกียจรวบรวมเอกสารลดหย่อน
นั่งคิดว่าปีที่ผ่านมามีลดหย่อนอะไรบ้าง ก็นึกขึ้นได้ว่า ทำไมลดหย่อนส่วนตัว ถึงลิมิตที่ 60,000 บาทกันนะ
ตกเดือนละแค่ 5,000 บาท ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเรามันมากกว่านั้นหลายเท่าตัวอยู่แล้ว
จริงๆลดหย่อนส่วนตัว น่าจะมีการพิจารณาความเหมาะสม โดยปรับตามเงินเฟ้อหน่อยมั๊ยคะ?
ก็เข้าใจว่า ยิ่งเราเสียภาษี ประเทศก็มีรายได้เข้า แต่เหมือนจะเป็นสิ่งที่บังคับแค่เฉพาะกับคนที่ทำงานบริษัทเลยค่ะ
พ่อค้า แม่ค้า จะมีคนที่เสียภาษีจริงๆจังๆซักกี่คนเชียว
แล้วพอเวลารัฐบาลออกนโยบายให้เงินช่วยเหลือ ก็จะโฟกัสที่คนที่ไม่ได้เสียภาษี
แต่กับคนที่ต้องเสียภาษีอยู่เสมอ ก็เห็นจะมีแต่ชอปปิ้งต้นปี ที่เอาตามพฤติกรรมคนจับจ่าย คนเราจะซื้อของเยอะช่วงปลายปีมากกว่ามั๊ยคะ พวกเทศกาลไรงี้
เฮ้อ สุดท้ายก็ได้แต่ทำงาน แล้วเอาเงินไปซื้อ SSF RMF ESG ว่างๆก็นั่งกดเข้าไปดูว่ากำไรหรือขาดทุนนะ วนลูปแบบนี้ต่อไปค่ะ
ทำไมค่าลดหย่อนส่วนตัวถึงลิมิตที่ 60,000 บาทหรอคะ ทั้งๆที่ปัจจุบันค่าใช้จ่ายประจำวันมันสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ
นั่งคิดว่าปีที่ผ่านมามีลดหย่อนอะไรบ้าง ก็นึกขึ้นได้ว่า ทำไมลดหย่อนส่วนตัว ถึงลิมิตที่ 60,000 บาทกันนะ
ตกเดือนละแค่ 5,000 บาท ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเรามันมากกว่านั้นหลายเท่าตัวอยู่แล้ว
จริงๆลดหย่อนส่วนตัว น่าจะมีการพิจารณาความเหมาะสม โดยปรับตามเงินเฟ้อหน่อยมั๊ยคะ?
ก็เข้าใจว่า ยิ่งเราเสียภาษี ประเทศก็มีรายได้เข้า แต่เหมือนจะเป็นสิ่งที่บังคับแค่เฉพาะกับคนที่ทำงานบริษัทเลยค่ะ
พ่อค้า แม่ค้า จะมีคนที่เสียภาษีจริงๆจังๆซักกี่คนเชียว
แล้วพอเวลารัฐบาลออกนโยบายให้เงินช่วยเหลือ ก็จะโฟกัสที่คนที่ไม่ได้เสียภาษี
แต่กับคนที่ต้องเสียภาษีอยู่เสมอ ก็เห็นจะมีแต่ชอปปิ้งต้นปี ที่เอาตามพฤติกรรมคนจับจ่าย คนเราจะซื้อของเยอะช่วงปลายปีมากกว่ามั๊ยคะ พวกเทศกาลไรงี้
เฮ้อ สุดท้ายก็ได้แต่ทำงาน แล้วเอาเงินไปซื้อ SSF RMF ESG ว่างๆก็นั่งกดเข้าไปดูว่ากำไรหรือขาดทุนนะ วนลูปแบบนี้ต่อไปค่ะ