เด็กหนุ่มอาศัยอยู่กับคุณตาในป่าอันห่างไกล แต่แล้ววันนึงการมาของสาวน้อยก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล 
นั่นก็คือการรวบรวมบอลลูกเล็กๆ 7 ลูกให้ครบ เพื่อขอพรจากเทพเจ้ามังกรที่จะปรากฏออกมา สิ่งนั้นเรียกว่า ดราก้อนบอล...



เอาจริงๆนะครับ ตอนแรกผมไม่คิดเลยว่ามันจะดีเลยสักนิดด้วยความว่ามังงะหลายเรื่องเมื่อถูกนำมาเป็นภาพยนตร์
สุดท้ายแล้วมักจะเจ๊งไม่เป็นท่า ดราก้อนบอลนี่ก็ยับเยินมาแล้วในปี 2009 กับ Dragonball Evolution ซึ่งแย่จริงครับ
ของแบบนี้ไม่ควรไปแตะ อยู่เฉยๆดีที่สุด รวมถึงมังงะในตำนานอีกเรื่องอย่างเซนต์เซย่า
ที่เป็นหนังชื่อเรื่องว่า Knights of the Zodiac ก็ทำเอาแฟนๆ ส่ายหน้าเช่นกัน



แต่กับเรื่องนี้ Dragon Ball: The Magic Begins (เอาจริงๆควรตัดคำว่าดราก้อนบอลออกไป เพราะว่าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์) 
ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยครับ ถ้าคุณเคยดูดราก้อนบอลในช่วงเริ่มต้นในวัยเด็กของโกคู เจอบลูม่า ตามหาดราก้อนบอล 
พบกับอูรอน หยำฉา.. เผชิญหน้าปีลาฟ ผจญภัยท่ามกลางอุปสรรคต่างๆมากมาย นั่นคือความทรงจำที่ดี.. 
และหนังเรื่องนี้ก็นำเสนอช่วงเวลาเหล่านั้นออกมาได้ดีเท่าที่เค้าจะทำได้แล้วจริงๆ



แม้ว่าชื่อตัวละคร และคาแรคเตอร์ต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจนหมด 
ด้วยเหตุผลข้างต้นที่ผมเอ่ยไว้แล้วก็คือไม่ได้สิทธิ์ในการสร้าง 
ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นภาพยนตร์ Live-Action ของดราก้อนบอลแต่อย่างใด 
แต่ทว่าทางผู้สร้างก็เอาช่วงเวลาในจุดเริ่มต้นของการ์ตูนเอามาทำเป็นหนังได้สนุกใช้ได้เลยทีเดียว 



The Magic Begins  เป็นหนังสัญชาติไต้หวันกำกับโดยชุน-เหลียง เฉิน ถ่ายทำป่าหนานโถว ไต้หวัน ราว 10% 
ส่วนที่เหลืออีก 90% นั้นยกกองมาปักหลักที่เมืองไทยครับ!!! 
เราจะเห็นภาพที่คุ้นเคยสายตาเรากันดีอยู่แล้วทั้งวิวที่สะพานมอญ ที่สังขละบุรี 
ซึ่งใกล้ๆกันก็ยังมีอีก 2 สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ได้แก่ วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ (หลังใหม่) 
และหลังเก่าที่จมน้ำหรือที่เรียกกันว่าวัดใต้น้ำ ซึ่งตอนไปถ่ายเป็นช่วงน้ำลงพอดี



นอกจากนี้ยังมีฉากไปสู้กันที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยาอีกด้วยครับ เตะต่อยซะอิฐกระจาย 
แต่นั่นเป็นของใหม่ที่ทีมงานเซตไว้นะครับ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อตัวโบราณสถาน 
เพราะถ้าเป็นปัจจุบันคงไม่สามารถให้ไปถ่ายอะไรแบบนั้นได้อีกแล้ว ..



เรื่องโลเคชั่นอื่น ก็ถือว่าหาสถานที่ได้ดีเลยครับ อย่างเกาะเซียนเต่าทางทะเลใต้ 
ก็เหมือนในการ์ตูนยกเว้นบ้านเซียนเต่าที่แต่งซะไทยเลยทีเดียว ตัวเซียนเต่านี่ทะลึ่งได้ใจเหมือนต้นฉบับ
อารมณ์คล้ายๆบักจ่อยจากผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมินอยู่นะ 55 (ซึ่งคนพากย์ก็พากย์ได้ฮามากกกก)



ผู้เฒ่าเต่าเหมือนจริงๆ



ลามกเหมือนกันเป๊ะ คนเล่นเป็นบลูม่าน่ารักมาก แต่ชื่อในหนังเปลี่ยนเป็น Seetou



แถมยังมีคนเหล็กอีกตะหาก 55



พี่เป้ อารักษ์ สมัยเด็กๆ (ล้อเล่นนะครับ ^^)



อย่างที่บอกไว้ล่ะครับเนื้อเรื่องคือช่วงเริ่มต้นของดราก้อนบอล ตัวเอกเจอเพื่อนตามหาลูกแก้วปราบปีศาจช่วยคนอื่น 
สเตปไปตามนี้ ดูได้เพลินๆ ครับ อย่าไปคาดหวังเรื่องความเนียนของ CG อะไรให้มากมาย ด้วยความที่เป็นหนังเมื่อ 33 ปีที่แล้ว 
อีกอย่างก็ทำเพราะความชอบในการ์ตูนเรื่องนี้โดยแท้ของทางผู้กำกับ 
แม้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นภาพยนตร์ดราก้อนบอลที่ถูกต้องก็เถอะ แต่ผมก็ชอบนะ



อ่อ และหากเปรียบกับ Dragonball Evolution แล้วล่ะก็อันนั้นแย่กว่ามากครับ 
มากแบบอย่าไปเปรียบกันเลยดีกว่า ทุนก็สูงแต่ทำได้อย่าง..... 
ขนาดคนเขียนบท Ben Ramsey ยังออกมายอมรับหลังจากหนังฉายไปแล้ว 7 ปีว่า
เขาไม่เคยรู้จักดราก้อนบอลมาก่อน แล้วหนังมันจะดีได้ยังไง คิดดู!!



สุดท้ายขอร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของอาจารย์โทริยาม่า อากิระ 
ผู้ที่ให้กำเนิดมังงะยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องนึงของโลกใบนี้ Dragon Ball ที่เสียชีวิตลงด้วยวัย 68 ปี.. 
ถึงแม้อาจารย์จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับภาพยนตร์เรื่องนี้ 
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือดราก้อนบอลฉบับไต้หวันที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความเคารพรักในการ์ตูนเรื่องนี้เช่นกัน... 
สู่สัมปรายภพนะครับอาจารย์....

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===