เทรนการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี เท่าที่จำได้ว่าเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2016-17 ทั้งสไตล์การแต่งหน้าแบบผิวฉ่ำวาว ดอลลี่อาย คิ้วทรงตรงสีอ่อน ดอลลี่อาย สีปากแบบระเรื่อๆ ไล่ระดับ ทรงผมผู้หญิงที่ไม่ว่าจะผมยาวผมสั้น ก็นิยมหน้าม้าซีทรูที่ไม่ได้ดูเป็นหน้าม้าจ๋าๆ จะปล่อยเป็นหน้าม้าตรงๆ ปัดซ้ายขวาหรือแสกกลาง หรืออาจจะเลี้ยงหน้าม้าให้ยาวลงมาอีกนิดนึงจนกลายเป็นปอยหวานรับกับรูปหน้า หรือจะเป็นทรงผมผู้ชายที่จะนิยมเซ็ตผมแบบไม่ได้เปิดหน้าไปทั้งหมด มีผมบางส่วนย้อยลงมาปิดหน้าบ้าง และผู้ชายส่วนใหญ่จะนิยมตัดผมทรง comma หรือ undercut จะมีบางคนที่ไว้ยาวลงมาหน่อยเป็นทรง mullet แต่ไม่ได้ยาวมากเท่าสมัยก่อน ซึ่งสไตล์นี้เป็นที่นิยมมาเกือบ 10 ปี ถือว่ากินระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ ถ้าเทียบกับสไตล์ jpop เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ที่จะเน้นผมซอยแบบรากไทร ทั้งชายทั้งหญิง ถ้าจะลองยกตัวอย่างหลายๆคนก็น่าจะนึกถึงกามิกาเซ่ยุคแรกๆ หรือไม่ก็กอล์ฟไมค์ช่วงพีคๆ แต่ความนิยมของเทรนนี้ก็เริ่มจะสร่างซาลงไปภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปีจนเริ่มๆจะหายไปเมื่อเข้าสู่ยุค 2010 ตัดภาพมาที่สไตล์เกาหลีที่คนไทยสมัยนี้กำลังนิยมกัน ที่นับวันเทรนแบบนี้จะขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ที่มองว่าสไตล์แบบนี้กลายเป็น beauty standard ไปเลย ยิ่งเด็กกรุงเทพหรือในเมืองหลักๆ ซึ่งสีผิวจะขาวกว่าคนกลุ่มอื่นๆ อาจจะเพราะมีเชื้อสายจีนที่เข้มข้นกว่า ค่านิยมเรื่อง beauty standard แบบนี้จะยิ่งเข้มข้นเป็นพิเศษ หลายๆ คน (ไม่ได้เหมารวมทุกคนนะคะ) มองว่า คนรูปลักษณ์ไม่ตรงตามที่นิยม = ไม่สวย ไม่หล่อ จนบางครั้งก็กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุในการบูลลี่ จนทำให้เด็กวัยรุ่นบางคนที่ถูกบูลลี่ต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นไปตาม beauty standard ให้ได้มากที่สุด จากนั้น (บางคน) ก็ไปบูลลี่คนอื่นที่ไม่ได้มีความงามตามบรรทัดฐานต่อ ทั้งๆที่บางคนที่เปลี่ยนสไตล์แบบที่วัยรุ่นนิยมแล้ว ก็ไม่ได้ดูเข้ากับเจ้าตัวซักนิด แต่กลับไปบูลลี่เค้า เกิดเป็นวงจรแบบนี้วกวนไปมาไม่รู้จบ อลหม่านยิ่งกว่าเหมือนสายใยอาหาร ซึ่งเราก็เจอกับตัวมาแล้ว ด้วยความที่เราเป็นคนสีผิวดำแดง หน้าตาขี้ริ้ว ก็มักจะถูกล้อเลียนจากคนในสังคม ไม่เว้นแม้แต่ญาติพี่น้อง เราเคยพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ดูมีความเกาหลีตามสไตล์ที่วัยรุ่นนิยมกันแล้วรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง เราเลยเปลี่ยนแนวไปแต่งคมเข้มตามสไตล์นางงามละตินแทนซึ่งดูเป็นตัวเองกว่ามาก บอกลาคำว่า beauty standard ไปเลย แต่นับวัน สไตล์ความเป็นเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมและได้รับอิทธิพลอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้างในประเทศไทยเป็นอย่างมากในทุกๆวงการ นอกจากสไตล์การแต่งตัวก็ยังมีสไตล์เพลงที่ได้รับอิทธิพลมาจาก kpop เต็มๆ จนเราไม่รู้เลยว่ากระแสเกาหลีนิยมในไทยจะไปสิ้นสุดตรงไหน เพราะเราค่อนข้างที่จะเอียนพอสมควร เพราะบางคนก็ไม่ได้ดูเข้ากับความเป็นเกาหลีเลย (แต่ถ้าใจเค้ารักจริงเราก็ไม่บูลลี่นะคะ เรายอมรับในการตัดสินใจของเค้าถ้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราขอยกเว้นอาหารเกาหลีไว้อย่างนึงนะคะ เป็นสิ่งที่เราชอบมากที่สุดของความเป็นเกาหลีเลย เพราะสำหรับเราอาหารเกาหลีอร่อยมาก ยิ่งกว่าอาหารไทยบางอย่างด้วยซ้ำ