ว่าด้วยเรื่องการเขียนคอนเทนต์ที่บางคนก็ว่าเขียนง่าย บางคนก็ว่าเขียนยาก อันนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ สิ่งเดียวที่ผมว่าการจะเขียนเก่งขึ้นได้ก็ต้องหมั่นฝึกฝนนั้นเหลาะ ไม่มีวิธีลัดอย่างอื่นหรอก
แต่นอกจากนี้อาจจะมีเคล็ดลับบางประการที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์ได้ สิ่งเหล่านั้นก็อาจจะอยู่ในหนังสือเล่มนี้กระมัง
บทความต้นฉบับ:
https://www.blockdit.com/posts/65ed184627d7a48d855635bc
ส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักการตลาดมากกว่านักเขียน (ฮา) ส่วนใหญ่จะสอนเกี่ยวกับคอนเทนต์ด้านการตลาดแต่ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้นะ
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงการเขียนบทความสำหรับกระตุ้นคนที่เข้ามาดูมีทั้งหมด 45 กระบานท่า
แต่ไม่ต้องใช้ทุกกระบวนท่าก็ได้นะหนังสือจะแนะนำแหล่งที่มาเช่นการใช้ Google trends
หรือการใช้ Google analysis เป็นต้น รวมถึงการคนหาคอนเทนต์ที่คบส่วนใหญ่สนใจ
ตามเว็บไซต์ต่างๆ
การคุยกับคนการค้นหาความต้องการจากการสำรวจหรือหา research จากการสัมภาษณ์เป็นต้น
บางที่แหล่งข้อมูลพวกนี้ก็อาจจะต้องเสียค่าบริการด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะมีแบบฟรีๆ ก็ตาม
แต่ ออปชั่นมันก็จะน้อยตามไปด้วยเขาแนะนำว่าหากเราคิดคอนเท้นต์ไม่ค่อยออกให้ลองไปหาอ่านจากเวิบไซต์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับของเราเผื่อจะได้อะไรดีๆ (เอาเป็นแนวทางนะไม่ใช้ไปลอกของคนอื่นเค้ามา)
แม้ตอนนี้พวกเราจะมีอินเตอร์เนตแต่ก็อย่าลืมเดินออกมาจากห้องไปท่องโลกแห่งความจริงกันบ้าง เพราะโลกแห่งความจริงคือแหล่งข้อมูลที่แท้ทรู ไม่มีการแต่งเติม เพิ่มจากแนวคิดของใครนั่นเอง
ส่วนใครอยาก อยากจะใช้ ai ช่วยก็คงไม่ผิดนักเพราะ ai ปัจจุบันก็มีอิทธิพลต่อพวกเราค่อนข้างมากแต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะปัจจุบันเอไอนั้นก็ถูกเทรน มาจากพวกเรา
มันอาจจะช่วยเราหาข้อมูลแต่มันไม่สามารถสร้างบทความที่ดึงดูดใจคนด้วยกันได้เพราะฉะนั้นเราต้องมาปรับให้มันเหมาะสมอีกทีนึง ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือเวลาเรารู้หรือนึกได้เกี่ยวกับคอนเทนท์ต่างๆเนี่ยควรจะรีบจดไว้
เพราะว่ายังไงก็ตามเราไม่สามารถจำได้หรือถึงจะจำได้จำได้ได้ทั้งหมดดังนั้นการจดคือสิ่งที่ดี
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายหลายอย่างที่สามารถจดได้คือโทรศัพท์มือถือหรือแม้แต่สมุดเล่มเล็กๆที่เราจะเก็บติดตัวไว้สำหรับจดบันทึกเรื่องราวต่างๆบางครั้งมันจะมีมุกตลกๆขำๆที่อาจจะแทรกเข้าไปในบทความของเราก็สามารถจดเอาไว้ได้
แม้แต่หมึกจางที่สุดก็ยังทรงพลังกว่าความทรงจำที่แข็งแกร่งที่สุด
สุภาษิตจีน
การเขียนคอนเทนท์ต่างๆก็เปรียบเสมือนการสร้างบ้านเราต้องมีการออกแบบ แบบแปลนต่างๆและการตกแต่งให้เหมาะสมของบทความและที่แน่นอนก่อนที่เราจะนำบทความออกไปตีพิมพ์หรือออกไปโพสต์ในโลกโซเชียลต่างๆอาจจะขอให้คนข้างข้างกายเพื่อนหรือพ่อแม่อ่านก่อนสักนิดให้เขาได้มาคอมเม้นต์ก็จะช่วยให้ผลงานของเราดีขึ้น
เมื่อเราสร้างคอนเทนท์แล้วสิ่งที่ที่ดีที่สุดก็คือการทบทวนเราอาจจะนำคอนเทนท์ต่างๆที่เราเคยเขียนมาตัดเกรดทบทวนว่าคอนเทนท์แบบไหนที่เป๊ะปังและขายดีคอนเทนท์ไหนที่ไปไม่รอดเราก็ต้องตัดเกรดและดูซิว่าในอนาคตเราจะเขียนคอนเทนท์ไปทางไหน
อย่างไรก็ตามในการทำคอนเทนท์โลกปัจจุบันเราต้องพึ่งอยู่สามอย่างด้วยกันก็คือในส่วนของความสามารถของเรา สิ่งที่คนรับสารต้องการและที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือระบบระบบ ai ของแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่ง ai ของแต่ละแพลตฟอร์มก็มีล็อคการริทึ่มที่ไม่เหมือนกัน
อันนี้ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย
ในหนังสือเล่มนี้ก็ยังมีกระบวนท่าต่างๆอีกมากมายซึ่งสามารถเอามารวบรวมมาให้อ่านได้หมดท่านสามารถเข้าไปซื้อหาได้ตามแผนหนังสือชั้นนำทั่วไปผมไม่แน่ใจว่าจะมีในส่วนของออนไลน์หรือเปล่าแต่คิดว่าน่าจะมีลองไปค้นหาดูนะครับ
สรุปหนังสือ: เขียนคอนเทนต์ให้ตรงใจ ดึงดูดคนได้ในไม่กี่วินาที
ว่าด้วยเรื่องการเขียนคอนเทนต์ที่บางคนก็ว่าเขียนง่าย บางคนก็ว่าเขียนยาก อันนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ สิ่งเดียวที่ผมว่าการจะเขียนเก่งขึ้นได้ก็ต้องหมั่นฝึกฝนนั้นเหลาะ ไม่มีวิธีลัดอย่างอื่นหรอก
แต่นอกจากนี้อาจจะมีเคล็ดลับบางประการที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์ได้ สิ่งเหล่านั้นก็อาจจะอยู่ในหนังสือเล่มนี้กระมัง
บทความต้นฉบับ: https://www.blockdit.com/posts/65ed184627d7a48d855635bc
ส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักการตลาดมากกว่านักเขียน (ฮา) ส่วนใหญ่จะสอนเกี่ยวกับคอนเทนต์ด้านการตลาดแต่ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้นะ
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงการเขียนบทความสำหรับกระตุ้นคนที่เข้ามาดูมีทั้งหมด 45 กระบานท่า
แต่ไม่ต้องใช้ทุกกระบวนท่าก็ได้นะหนังสือจะแนะนำแหล่งที่มาเช่นการใช้ Google trends
หรือการใช้ Google analysis เป็นต้น รวมถึงการคนหาคอนเทนต์ที่คบส่วนใหญ่สนใจ
ตามเว็บไซต์ต่างๆ
การคุยกับคนการค้นหาความต้องการจากการสำรวจหรือหา research จากการสัมภาษณ์เป็นต้น
บางที่แหล่งข้อมูลพวกนี้ก็อาจจะต้องเสียค่าบริการด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะมีแบบฟรีๆ ก็ตาม
แต่ ออปชั่นมันก็จะน้อยตามไปด้วยเขาแนะนำว่าหากเราคิดคอนเท้นต์ไม่ค่อยออกให้ลองไปหาอ่านจากเวิบไซต์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับของเราเผื่อจะได้อะไรดีๆ (เอาเป็นแนวทางนะไม่ใช้ไปลอกของคนอื่นเค้ามา)
แม้ตอนนี้พวกเราจะมีอินเตอร์เนตแต่ก็อย่าลืมเดินออกมาจากห้องไปท่องโลกแห่งความจริงกันบ้าง เพราะโลกแห่งความจริงคือแหล่งข้อมูลที่แท้ทรู ไม่มีการแต่งเติม เพิ่มจากแนวคิดของใครนั่นเอง
ส่วนใครอยาก อยากจะใช้ ai ช่วยก็คงไม่ผิดนักเพราะ ai ปัจจุบันก็มีอิทธิพลต่อพวกเราค่อนข้างมากแต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะปัจจุบันเอไอนั้นก็ถูกเทรน มาจากพวกเรา
มันอาจจะช่วยเราหาข้อมูลแต่มันไม่สามารถสร้างบทความที่ดึงดูดใจคนด้วยกันได้เพราะฉะนั้นเราต้องมาปรับให้มันเหมาะสมอีกทีนึง ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือเวลาเรารู้หรือนึกได้เกี่ยวกับคอนเทนท์ต่างๆเนี่ยควรจะรีบจดไว้
เพราะว่ายังไงก็ตามเราไม่สามารถจำได้หรือถึงจะจำได้จำได้ได้ทั้งหมดดังนั้นการจดคือสิ่งที่ดี
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายหลายอย่างที่สามารถจดได้คือโทรศัพท์มือถือหรือแม้แต่สมุดเล่มเล็กๆที่เราจะเก็บติดตัวไว้สำหรับจดบันทึกเรื่องราวต่างๆบางครั้งมันจะมีมุกตลกๆขำๆที่อาจจะแทรกเข้าไปในบทความของเราก็สามารถจดเอาไว้ได้
แม้แต่หมึกจางที่สุดก็ยังทรงพลังกว่าความทรงจำที่แข็งแกร่งที่สุด
สุภาษิตจีน
การเขียนคอนเทนท์ต่างๆก็เปรียบเสมือนการสร้างบ้านเราต้องมีการออกแบบ แบบแปลนต่างๆและการตกแต่งให้เหมาะสมของบทความและที่แน่นอนก่อนที่เราจะนำบทความออกไปตีพิมพ์หรือออกไปโพสต์ในโลกโซเชียลต่างๆอาจจะขอให้คนข้างข้างกายเพื่อนหรือพ่อแม่อ่านก่อนสักนิดให้เขาได้มาคอมเม้นต์ก็จะช่วยให้ผลงานของเราดีขึ้น
เมื่อเราสร้างคอนเทนท์แล้วสิ่งที่ที่ดีที่สุดก็คือการทบทวนเราอาจจะนำคอนเทนท์ต่างๆที่เราเคยเขียนมาตัดเกรดทบทวนว่าคอนเทนท์แบบไหนที่เป๊ะปังและขายดีคอนเทนท์ไหนที่ไปไม่รอดเราก็ต้องตัดเกรดและดูซิว่าในอนาคตเราจะเขียนคอนเทนท์ไปทางไหน
อย่างไรก็ตามในการทำคอนเทนท์โลกปัจจุบันเราต้องพึ่งอยู่สามอย่างด้วยกันก็คือในส่วนของความสามารถของเรา สิ่งที่คนรับสารต้องการและที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือระบบระบบ ai ของแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่ง ai ของแต่ละแพลตฟอร์มก็มีล็อคการริทึ่มที่ไม่เหมือนกัน
อันนี้ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย
ในหนังสือเล่มนี้ก็ยังมีกระบวนท่าต่างๆอีกมากมายซึ่งสามารถเอามารวบรวมมาให้อ่านได้หมดท่านสามารถเข้าไปซื้อหาได้ตามแผนหนังสือชั้นนำทั่วไปผมไม่แน่ใจว่าจะมีในส่วนของออนไลน์หรือเปล่าแต่คิดว่าน่าจะมีลองไปค้นหาดูนะครับ