สวัสดีครับผมเป็นนักศึกษาอายุประมาณ17ครับเรียนอยู่ปวช. คือในช่วงปิดเทอมอะครับผมได้หางานทำ (ถ้าอยากรู้รายระเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่กระทู้ก่อนๆเลยครับ) ผมจะสรุปสั้นๆให้นะ ครับผมได้หางานทำในช่วงปิดเทอมผมอยากลองทำงานดูนะครับ เอาจริงๆผมก็เคยทำงานพาร์ทไทม์กับครอบครัวเพื่อนของผมมาบ้างแล้วเป็นงานที่หนักกว่างานที่ทำตอนนี้ค่อนข้างเยอะเลยครับ แต่ว่างานที่ผมทำกับเพื่อนเป็นงานที่ผมทำแล้วมีความสุขมากๆเลยครับถึงแม้จะเหนื่อยก็ตาม(เป็นงานติดตั้งอินเตอร์เน็ตที่โรงแรมครับ)
แต่งานที่ผมตอนนี้เป็นงานที่ผมคิดว่าไม่ได้เหนื่อยมากครับเป็นงานที่ผมทำทั้งแคชเชียร์ทำความสะอาดเสิร์ฟเช็คสต็อคครับ แต่ในช่วงเช้าจะมีพนักงานแค่2คนครับมีแค่พี่แม่ครัว และผมครับโดยส่วนตัวผมแล้วผมอาจจะโดนพี่แม่ครัวบ่นบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมาย เพราะด้วยความที่ผมเป็นพนักงานใหม่ด้วยครับผมก็พร้อมที่จะรับฟังเพราะพี่เขามีประสบการณ์มากกว่าผม แต่งานมันก็ทำแล้วค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อยครับ ผมทำงานในช่วงกระเช้านะครับทำตั้งแต่ 8โมง ถึง บ่าย2 โดยมีแค่ผมกับพี่แม่ครัวอีกคน อาจจะเป็นความเคยชินที่ผมเคยทำกับเพื่อนแล้วมันสนุกไปหมด แต่ว่างานนี้มีความสุขไหม ผมก็คงตอบว่ามันก็มีครับ
แต่ก็มีเรื่อง ที่รู้สึกผิดเหมือนกันครับ ผมจะเรียบเรียงเลยนะครับว่าผมรู้สึกผิดตรงไหนบ้าง
1.งานทำความสะอาด
ผมเป็นคนไม่เคยกวาดพื้นถูบ้านเลยครับ ถึงจะเคยทำก็คงน้อยจนนับได้ ส่วนนี้ผมไม่ได้รู้สึกผิดขนาดนั้นครับตั้งแต่ผมทำงานนี้มาผมได้เรียนรู้การกวาดพื้นถูบ้านมากขึ้นสุดๆเลยครับ ผมค่อนข้างภูมิใจนะครับที่ทำความสะอาดเป็นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ
2.เช็คสต็อค
อันนี้ผมก็ได้ประสบการณ์ความรอบคอบในการเช็คสต็อคมากขึ้นครับ ถือว่าฝึกความรอบคอบไปในตัวรับงานนี้ไม่หนักเท่าไหร่
3.งานบริการเสิร์ฟ(ค่อนข้างรู้สึกผิด)
งานส่วนนี้ผมค่อนข้างข้างรู้สึกผิดครับผมเป็นคนที่พูดน้อย พูดมากก็พูดกับคนที่สนิทด้วยจริงๆ ส่วนตัวของผมเป็นคนที่ยิ้มทีเหมือนจะตายคือผมบังคับตัวเองยิ้มไม่ได้ครับเหมือนฝืนยิ้มไป แต่ในส่วนนี้ผมก็พอพัฒนาได้มาบ้างนิดหน่อยเริ่มคุยกับลูกค้าได้บางที่ก็อาจจะเผลอยิ้มบ้างบางครั้ง
4.งานแคชเชียร์(รู้สึกผิดมากๆ)
ผมเป็นคนที่โครตจะมึนและเอ๋อไร้ความรอบคอบแบบโครตสุดครับ ผมเริ่มทำงานนี้เงินในแคชเชียร์เงินขาดแทบจะทุกๆวันโดยส่วนตัวแล้วผมไม่มั่นใจงานส่วนนี้แบบสุดๆ
5.ปัจจัยหลักของความทุกข์
คือผมอะครับผมไม่เคยทำงานบริการหรือร้านอาหารมาก่อน คือพี่ๆที่ร่วมงานของผมแต่ละคนนี่มีความสามารถสุดๆครับผมชื่นชมเลยทุกคนมีประสบการณ์เยอะมากๆครับ ตัวผมคือคนที่ทำอะไรไม่เป็นเลยครับเหมือนเริ่มจาก 0 ทำอะไรไม่เป็นเลยครับรู้สึกเหมือนเป็นภาระครับเวลาทำอะไรผิดพี่ๆก็คอยรับผิดชอบให้ช่วยแทบทุกอย่างครับ ทำให้รู้สึกว่าเขาเหนื่อยกับหน้าที่ตัวเองอยู่แล้วยังต้องมาเหนื่อยกับผมอีกครับ
โดยส่วนนี้พี่ๆที่ร้านอาจจะอ่านอยู่ผมไม่เคยเสียใจที่ได้ทำงานที่นี่เลยครับได้ทำให้ผมเรียนรู้ตั้งแต่การทำความสะอาด รอบคอบการเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า
โดนเหตุผลที่ผมอยากลาออกคือ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยออกจากบ้านทุกๆครั้งของการปิดเทอมผมจะอยู่แต่บ้านแต่เทอมๆหลังๆมาผมพึ่งเคยได้สัมผัสการออกจากบ้าน ไปเที่ยวกับเพื่อน ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนครับผมพึ่งเคยได้สัมผัสจริงๆ ผมอยากใช้ชีวิตให้มากกว่านี้ครับผมอยากมีความสุขเพิ่มมากขึ้นครับ เพราะผมขาดหายส่วนนี้ไปค่อนข้างเยอะ แถมเทอมหน้าของการเปิดเทอมผมยังต้องฝึกงานอีก
โดยส่วนนี้ผมคิดว่าเป็นเหตุผลค่อนข้างเห็นแก่ตัวครับผมเข้าใจดีโดยข้อความนี้อาจจะเป็นเหตุผลการลาออกของผมผมน่าจะขอลาออกในช่วงสิ้นเดือนนี้ครับ
-ขอบคุณครับ
ทำงานพาร์ทไทม์เดือนเดียวแล้วลาออกน่าเกลียดไหม?
แต่งานที่ผมตอนนี้เป็นงานที่ผมคิดว่าไม่ได้เหนื่อยมากครับเป็นงานที่ผมทำทั้งแคชเชียร์ทำความสะอาดเสิร์ฟเช็คสต็อคครับ แต่ในช่วงเช้าจะมีพนักงานแค่2คนครับมีแค่พี่แม่ครัว และผมครับโดยส่วนตัวผมแล้วผมอาจจะโดนพี่แม่ครัวบ่นบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมาย เพราะด้วยความที่ผมเป็นพนักงานใหม่ด้วยครับผมก็พร้อมที่จะรับฟังเพราะพี่เขามีประสบการณ์มากกว่าผม แต่งานมันก็ทำแล้วค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อยครับ ผมทำงานในช่วงกระเช้านะครับทำตั้งแต่ 8โมง ถึง บ่าย2 โดยมีแค่ผมกับพี่แม่ครัวอีกคน อาจจะเป็นความเคยชินที่ผมเคยทำกับเพื่อนแล้วมันสนุกไปหมด แต่ว่างานนี้มีความสุขไหม ผมก็คงตอบว่ามันก็มีครับ
แต่ก็มีเรื่อง ที่รู้สึกผิดเหมือนกันครับ ผมจะเรียบเรียงเลยนะครับว่าผมรู้สึกผิดตรงไหนบ้าง
1.งานทำความสะอาด
ผมเป็นคนไม่เคยกวาดพื้นถูบ้านเลยครับ ถึงจะเคยทำก็คงน้อยจนนับได้ ส่วนนี้ผมไม่ได้รู้สึกผิดขนาดนั้นครับตั้งแต่ผมทำงานนี้มาผมได้เรียนรู้การกวาดพื้นถูบ้านมากขึ้นสุดๆเลยครับ ผมค่อนข้างภูมิใจนะครับที่ทำความสะอาดเป็นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ
2.เช็คสต็อค
อันนี้ผมก็ได้ประสบการณ์ความรอบคอบในการเช็คสต็อคมากขึ้นครับ ถือว่าฝึกความรอบคอบไปในตัวรับงานนี้ไม่หนักเท่าไหร่
3.งานบริการเสิร์ฟ(ค่อนข้างรู้สึกผิด)
งานส่วนนี้ผมค่อนข้างข้างรู้สึกผิดครับผมเป็นคนที่พูดน้อย พูดมากก็พูดกับคนที่สนิทด้วยจริงๆ ส่วนตัวของผมเป็นคนที่ยิ้มทีเหมือนจะตายคือผมบังคับตัวเองยิ้มไม่ได้ครับเหมือนฝืนยิ้มไป แต่ในส่วนนี้ผมก็พอพัฒนาได้มาบ้างนิดหน่อยเริ่มคุยกับลูกค้าได้บางที่ก็อาจจะเผลอยิ้มบ้างบางครั้ง
4.งานแคชเชียร์(รู้สึกผิดมากๆ)
ผมเป็นคนที่โครตจะมึนและเอ๋อไร้ความรอบคอบแบบโครตสุดครับ ผมเริ่มทำงานนี้เงินในแคชเชียร์เงินขาดแทบจะทุกๆวันโดยส่วนตัวแล้วผมไม่มั่นใจงานส่วนนี้แบบสุดๆ
5.ปัจจัยหลักของความทุกข์
คือผมอะครับผมไม่เคยทำงานบริการหรือร้านอาหารมาก่อน คือพี่ๆที่ร่วมงานของผมแต่ละคนนี่มีความสามารถสุดๆครับผมชื่นชมเลยทุกคนมีประสบการณ์เยอะมากๆครับ ตัวผมคือคนที่ทำอะไรไม่เป็นเลยครับเหมือนเริ่มจาก 0 ทำอะไรไม่เป็นเลยครับรู้สึกเหมือนเป็นภาระครับเวลาทำอะไรผิดพี่ๆก็คอยรับผิดชอบให้ช่วยแทบทุกอย่างครับ ทำให้รู้สึกว่าเขาเหนื่อยกับหน้าที่ตัวเองอยู่แล้วยังต้องมาเหนื่อยกับผมอีกครับ
โดยส่วนนี้พี่ๆที่ร้านอาจจะอ่านอยู่ผมไม่เคยเสียใจที่ได้ทำงานที่นี่เลยครับได้ทำให้ผมเรียนรู้ตั้งแต่การทำความสะอาด รอบคอบการเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า
โดนเหตุผลที่ผมอยากลาออกคือ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยออกจากบ้านทุกๆครั้งของการปิดเทอมผมจะอยู่แต่บ้านแต่เทอมๆหลังๆมาผมพึ่งเคยได้สัมผัสการออกจากบ้าน ไปเที่ยวกับเพื่อน ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนครับผมพึ่งเคยได้สัมผัสจริงๆ ผมอยากใช้ชีวิตให้มากกว่านี้ครับผมอยากมีความสุขเพิ่มมากขึ้นครับ เพราะผมขาดหายส่วนนี้ไปค่อนข้างเยอะ แถมเทอมหน้าของการเปิดเทอมผมยังต้องฝึกงานอีก
โดยส่วนนี้ผมคิดว่าเป็นเหตุผลค่อนข้างเห็นแก่ตัวครับผมเข้าใจดีโดยข้อความนี้อาจจะเป็นเหตุผลการลาออกของผมผมน่าจะขอลาออกในช่วงสิ้นเดือนนี้ครับ
-ขอบคุณครับ