สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวพันทิป

วันนี้จะพาน้องเพี้ยน และเพื่อนๆ ไปสกีที่ญี่ปุ่นครับ ทริปนี้เดินทางทั้งหมด 16 วัน 15 คืนครับ 



เป็นการเดินทางในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึง ต้นเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาครับ 
ช่วงนี้ถือว่าเป็น ช่วงพีคของฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น 
ที่จะทำให้เราได้เจอกับ หิมะฟูๆ แบบ Powder Snow ครับ



>> ไปครับ ไปเที่ยวกันเลยครับ

เนื่องจากช่วงเดือนมกรา เป็นช่วงนักท่องเที่ยวเยอะมาก
ผมจึงวางแผนมาถึงสนามบินตั้งประมาณ ช่วง 2 ทุ่ม กว่าๆ ครับ
เผื่อเวลาไว้พอสมควรครับ กลัวว่าจะเจอปัญหารถติด 
หรือ คนที่สนามบินจะเยอะกว่าปกติครับ

พอถึงสนามบิน ก็เป็นไปตามคาดครับ คนที่สนามบินเยอะมากๆ
แต่โชคดี ทริปนี้ บิน Business Class ครับ การบินไทยครับ
เลยประหยัดเวลา ช่วงเชคอินไปได้เยอะมากพอสมควรครับ



หลังจากเชคอิน ก็แวะไปพักผ่อน ที่ TG Prestige Lounge ครับ
รู้สึกว่า ตั้งแต่ต้นปี เป็นต้นมา เลาจ์ของการบินไทย 
ค่อนข้างจะกลับมาเกือบ 100% แล้วครับ

ทำให้มีอาหารต่างๆ ให้เลือกเยอะพอสมควรเลยครับ 

ขออนุญาต ไม่รีวิว ช่วงนี้เยอะนะครับ เพราะคิดว่ามีเพื่อนๆ รีวิวกันไว้เยอะแล้วครับ 



หลังจากนั้น ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องครับ

วันนี้เที่ยวบิน TG 642 กับเครื่องบินแบบ 777-300ER ครับ
ซึ่งเป็นเครื่องที่ผมรู้สึกว่า นั่งสบายมากๆ ครับ 
ทั้งชั้น ECO และ Business ที่เป็นที่นั่งแบบ 1-2-1 ครับ

ที่นั่งของเราวันนี้ เป็นแบบ 1-2-1 layout ครับ ซึ่งผมชอบมาก
รู้สึกคนที่นั่ง ฝั่ง Window Seat ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวดีครับ

ก่อนเดินทางก็ลุ้นมาก กลัวว่าจะโดนเปลี่ยนเครื่อง เหมือนรอบที่แล้วไหม 
เพราะการบินไทยชอบเอาเครื่องที่มี Business Class รุ่นเก่า
หรือ รุ่นที่เราไม่ค่อยชอบ มาบิน Flight นี้ 

ผมหวังว่าในอนาคต ทั้ง 5 ไฟล์ ของการบินไทย จาก BKK to Tokyo 
จะเปลี่ยนมาใช้ Business Class แบบเดียวกันทั้งหมดนะครับ 
ผู้โดยสาร จะได้ไม่ต้องลุ้น ว่าจะโดนเปลี่ยนเครื่องหรือไม่    

บอกตรงๆๆ เรารักการบินไทยเสมอ 
แต่ถ้าเราโดนเปลี่ยนเครื่อง
เวลาเราตัดสินใจเดินทางในชั้นธุรกิจ มันจะเศร้านิดหน่อย ครับ  

เอาเป็นว่า ทริปนี้ เป็นอีกทริปที่ประทับใจกับ
การเดินทาง กับการบินไทย มากๆ ครับ 

เริ่ม ตั้งแต่ การเชคอิน การใช้บริการที่เลาจ์ 
และการบริการของพนักงานบนเครื่องของการบินไทย 
เป็นบริการที่ดีมากๆ ครับ
คิดเสมอว่า พนักงาน Inflight ของการบินไทย
ทำหน้าที่แบกการบินไทยไว้จริงๆ 

เพราะปีที่แล้ว บินกับการบินไทยไปประมาณ 10 Flights
ทั้งในชั้นประหยัด และชั้นธุรกิจ ยังไม่เคยเจอไฟล์ไหน 
เลยที่จะพบกับการบริการไม่ดี ของ ของการบินไทย เลยครับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากพนักงานบนเครื่อง
เปลี่ยนมาใส่ชุดไทย ทั้งไฟล์ผมรู้สึกว่า 
มันทำให้ภาพลักษณ์ของการบินไทย 
มันดูดี และชัดเจนขึ้นมากๆครับ 
แค่ได้เห็นรอยยิ้มของแอร์ และพนักงานบนเครื่อง 

เราก็รู้สึก ถึงคำว่า "บ้าน" และรอยยิ้มที่ส่งมาจาก "จิตใจข้างใน"
ที่รักในงานบริการของคนไทยจริงๆ

แต่เนื่องจากทริปนี้ ผมวางแผน นอนเร็วครับ
เลยรีบแจ้งพนักงานว่า
หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว ขอนุญาต นอนเลย นะครับ 
และไม่ต้องปลุกจนถึงเวลาอาหารเช้าครับ 

บรรยากาศที่นั่ง บนเครื่องครับ 



แต่เนื่องจาก Flight นี้ กัปตันน่าจะรีบครับ
ปรากฏว่า ได้นอนไปแป๊ปเดียว 
พนักงานก็ปลุก ทานอาหารเช้าแล้วครับ 
เครื่องน่าจะมาถึง โตเกียว ก่อนเวลา เกือบ 40 นาทีครับ 

หลังจากลงเครื่อง ก็ใช้เวลา รีบเดินมาที่ Immigration ครับ
เนื่องจาก ทริปนี้ บินชั้นธุรกิจ พอมาถึง ที่ immigration คือ ไม่มีคิว เลยครับ

ยื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่
ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ
ใช้เวลา ที่ immigration ประมาณ 1 นาทีครับ

หลังจากนั้น ก็ลงมารอรับกระเป๋าเดินทางครับ
กระเป๋าเดินทาง ทั้งกระเป๋าเดินทางปกติ 
และกระเป๋าอุปกรณ์สกี ก็มาค่อนข้าง มาที่สายพานเร็วมากเลยครับ

โดยเฉพาะ กระเป๋าสกี มีเจ้าหน้าที่ 
ไปรับมาให้จากบริเวณ Oversize Baggage มาให้
และนำมาเรียงไว้ใกล้ๆ กับบริเวณสายพานรับกระเป๋า ปกติของเราครับ

อันนี้เป็น อีกจุดหนึ่ง ที่ การบินไทย และ AOT น่าจะทำให้ได้เหมือนสนามบินที่ญี่ปุ่นนะครับ
น่าจะช่วยให้ Rating ของสนามบิน BKK และ DMK ดีขึ้นกว่าปัจจุบันบ้าง นะครับ 

หลังจากนั้น ก็เตรียมเปิดมือถือ อีกรอบ 
เพื่อทำการ Scan QR Code กับ เจ้าหน้าที่ Custom ครับ

ซึ่งก็เร็วมากครับ ใช้เวลา ไม่ถึง 1 นาที เจ้าหน้าที่ ถามแค่ 2 คำถามครับ

- คำถามแรก มาญี่ปุ่น กี่วัน และมาทำอะไร
>> เราก็ตอบไปว่า มา 15 วัน และมาสกีครับ 

- เจ้าหน้าที่ก็ตอบ Arigato, Enjoy Your stay
และยื่นหน้ังสือเดินทางคืนให้แบบรวดเร็วครับ 

เราก็คิดในใจว่า ดีจัง ไม่เครียด เหมือนไปเที่ยวเกาหลี ทริปที่แล้วนะครับ 
ตอนเจอ เจ้าหน้าที่ Immigration กับ Custom 
เราก็คิดในใจตลอด ว่าเราจะโดนแจ๊คพอตไหมนะ หรือ จะส่งเราเข้าห้องเย็น หรือเปล่า  



หลังจากออกมาจาก Custom ที่ Arrival Hall อาคาร South 
เราก็รีบไปส่งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ กับ กระเป๋าสกีของเรา
ที่เคาเตอร์ของ Yamato (แมวดำ) กับ เคาเตอร์ของ JAL/ABC 

เนื่องจาก JAL/ABC มี Promotion ค่าส่งของไป เมืองที่เราพักพอดี ครับ 
รอบนี้ เลยตัดสินใจส่ง กับ JAL ABC แทนครับ ถูกว่าแมวดำ ประมาณ 500 เยนต่อใบครับ 



หลังจากนั้น เราก็ มาต่อรถไฟที่ Keisei Line ครับ บริเวณชั้นใต้ดินของ Termianl 1 ครับ
ตอนแรก วางแผนว่าจะนั่ง Skyliner เข้าเมืองครับ 
แต่ปรากฏว่า ช่วงประมาณ 10 โมงเช้า มี Sky Access Train พอดี 
เลยตัดสินใจ ไปกับ Sky Access แทนครับ ประหยัดค่าเดินทางไป ประมาณ 1,200 เยนครับ 

โดยค่าตั๋ว Sky Access Train จาก Narita Termianl 1 to Ueno
ราคารวมเพียง 1,470 เยน ครับ 
 (รวมค่ารถไฟ Yamanote Line ไป Ueno แล้วด้วยครับ )



หลังจาก นั่งรถไฟไป ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง Ueno 
เราก็เตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางใบเล็กของเรา
ที่ Locker ครับ บริเวณ สถานีรถไฟครับ 
และเตรียมไปซื้อตั่ว รถไฟ Shinkansen from Tokyo to Nagano ครับ

แต่พอไปถึง Counter JR East เจ้าหน้าที่ ก็แจ้งพอดีครับ ว่า 
วันนี้ มีรถไฟ Shinkansen to/from Tokyo/Nagano มีปัญหา
 ไม่สามารถเดินทางได้ครับ

เราก็เลยแก้ปัญหา แบบเร่งด่วน
ด้วยเปลี่ยนจากการเดินทางด้วยรถไฟ เป็น 
การเดินทางด้วยรถบัสแทนครับ 
เพราะว่า ไม่อยากเปลี่ยนวันของการเดินทางครับ
เพราะทุกอย่าง วางแผน จองไว้หมดแล้ว
ทั้งโรงแรม และการจองร้านอาหารต่างๆ ในเมืองที่จะไปครับ 

หลังจากนั้น จึงรีบ ซื้อตั่วรถบัส จาก Shinjuku to Hakuba Bus Terminal 
จากเว็บไซต์ของ Willer Bus ครับ
เนื่องจากผมซื้อ ในวันเดินทาง เลยโดนค่าตั๋วไปเต็มๆ ที่ 7,200 yen ต่อเที่ยวครับ
ซึ่งถือว่าแพงมากๆ ครับ
เพราะช่วงการเดินทางปกติ 
ราคาตั๋ว น่าจะอยู่ที่ 5,200 ถึง 6,000 เยน ต่อเที่ยวครับ

*** 
ถ้าเพื่อนๆ สนใจเดินทางไป Ski Resort แถว Hakuba, Myoko, Shiga, or Nozawa 
และวางแผนเดินทางจาก Tokyo ด้วยรถบัส
แนะนำว่า ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนถึงวันเดินทางครับ
จะสามารถประหยัด ค่าเดินทางไปได้เยอะเลยครับ 

*** 

หลังจาก ได้ตั๋วเดินทางแล้ว ผมก็แวะไปซื้ออุปกรณ์สกี
เพิ่มเติมนิดหน่อยแถว Ogawamatchi ครับ



การเดินทางไป Ogawamatchi สามารถเดินทางได้หลายทางเลือกครับ เช่น

1. Toei Shinjuku Line to Ogawamatchi ใช้ทางออก B4/B5
2. Tokyo Metro Chiyoda Line to Jimbocho ใช้ทางออก A5/A7
3. Tokyo Metro Marunouchi Line to Ochanomizu Station ใช้ทางออก B4/B5





สำหรับ ใครไม่ได้วางแผนซื้อ ชุดใหม่ หรือ กางกางสกีใหม่ ทุกปี
แนะนำ ควรซื้อสเปรย์กันน้ำ ไปฉีดทับ ชุดสกีของเราครับ
เพราะช่วงในการเพิ่มประสิทธิภาพ กันน้ำของเราให้ดีขึ้นมากๆ เลยครับ

ปัจจุบัน ราคาของ Waterproofing Spray ปรับขึ้นทุกปีครับ 
ปัจจุบัน ยี้ห้อดีๆ ราคาประมาณ กระป๋องละ 1,000-1,500 เยน ต่อกระป๋องครับ
แต่ถ้าเพื่อนมาซื้อแถว Ogawamatchi จะมีการจัด Promotion บ่อยๆ ครับ 
โดยราคาสำหรับซื้อ 3 กระป๋อง มี Promotion ปีนี้เหลือ 1,998 เยน ครับ 
ทำให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลยครับ 



สำหรับเพื่อนๆ ที่วางแผนมาเดิน Shopping 
เผื่อเวลา อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงนะครับ 
เพราะมีของ Promotion ให้เลือกเยอะมากครับ 







หลังจาก ได้ ซื้อของที่ต้องการครบแล้ว 
ผมก็นั่งรถไฟ กลับมารอรถบัสที่ สถานี Shinjuku ครับ 

โดยมีแวะ ทานข้าวกับ เพื่อนชาวญี่ปุ่น นิดหน่อยครับ

เลยนัดเจอกัน ที่ Isetan Shinjuku ครับ 
พอดีมีพี่ๆ Spiderman มา ตกแต่งที่ตึกหลักของ Isetan พอดีครับ



ขออนุญาต ต่อในข้อความนะครับ รู้สึกกระทู้จะยาวอีกแล้ว  

つづく