เกริ่นก่อนเราเป็นคนที่อ่านมังงะวาย มังฮวาวาย
แต่ไม่ได้ดูซีรีย์วายมาก่อน
สำหรับรสนิยมการดูหนัง เรามองว่าตัวเองเสพหลากหลาย ทั้งหนังตลาด หนังอาร์ท หนังแอคชั่น
หนังพจอานนท์ ซีรีย์เกา ญี่ปุ่น หนังอินเดีย อิหร่าน
คือดูได้หมด คิดว่าดูหนังมาครบทุกแนว และมากพอจะวิจารณ์หนังได้รอบด้าน
แต่จะไบแอสแนวที่เกี่ยวข้องกับคนหลากหลาย
ไม่เน้นแค่ตัวหลัก
แบบ better call Saul
Everything everywhere all at one
จักรวาลไทบ้าน หนังเควนติน
จนมาปีนี้ ลองดูแนววาย เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมเติบโต น่าจะมีพัฒนาการเยอะมากกว่าช่วงก่อน
เลือกดูคินพอร์ช เพราะเป็นแฟนเพลง slot machine
แล้วก็คุ้นหน้าอาโป ที่เคยเป็นนักแสดงช่อง3 ที่เคยเห็นผ่านตา
EP1 น่าประทับใจโปรดักชั่น นักแสดงนำมีเสน่ห์ทั้งคู่
แถมมีฉากบู๊ที่ดี
EP2-3 เริ่มลังเลว่าจะดูจนจบดีมั้ย เพราะเรื่องช้า
หลังจากผ่านlove scene คู่พระ-นาย
ก็คิดว่าควรดูให้จบเพราะจะเก็บฉากแบบนั้นนั่นแหละ แล้วก็เก็ทแล้วว่า มันคือเรื่องรักที่วางบท setting มาเฟีย
ไม่ต้องหาความสมเหตุสมผลอะไรมาก
EP ท้ายๆ 13-14
เป็นส่วนที่ทำให้ความประทับใจต่อซีรีย์ดร๊อปลงหมดเลย
เพราะซีรีย์พยายามที่จะสร้างปมที่ไม่จำเป็น และไม่มีน้ำหนักที่จะทำให้เรายอมรับได้ เลย
เอาจริงๆ หลังจากผ่านep3-4 ไป เราเหมือนกับยอมรับความเป็นซีรีย์วายไปแล้วว่า ต่อจากนี้จะดูแค่ฟิน
พอไปepลึกๆ เราก็ตั้งคำถามว่า นี่เรากำลังดูอะไรอยู่วะ
คือความอยากเสพวายมันเริ่มจะน้อยลงเพราะความอะไรไม่รู้ของบท จนมาถึงช่วงสุดท้าย โอ้ จีซัส นี่มันอะไรวะเนี่ย ทำไมต้องฝืนขนาดนี้ิ
โดยปกติเราจะไม่ใช่คนมาด่าซีรีย์กรือหนังที่ไม่ชอบ
จะปล่อยผ่าน
แต่คินพอร์ช มันมีส่วนที่เราชอบมาก (โปรดักชั่น-นักแสดง) และส่วนที่เราอึดอัด (บท)
วิจารณ์เป็นข้อๆ
1.นักแสดง ดีมาก
อาโป มีความสามารถในการแสดงสีหน้าที่หลากหลาย บทบู๊ก็เล่นดี มายล์ ที่เล่นคู่กันก็เล่นดี สมบท รอดูเรื่องอื่นต่อ
นักแสดงหน้าใหม่คนอื่นๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็มีที่แข็งๆชัดเจนอยู่บางฉาก
2.สถานที่ถ่ายทำ
ลงตัว ไม่มีอะไรติด
ชอบความใช้โรงแรมเป็นบ้านตระกูลหลักเลย ทุกอย่างหรู พอไปบ้านตระกูลรองก็ดูคลาสสิค
3.บทพูด
บางทีก็ดี แต่บางทีก็ไม่กระชับ ฟังแล้วบางทีได้ฟิวนิยายในเว็บ (เข้าใจว่ามาจากนิยาย แต่เป็นซีรีย์ก็น่าจะปรับหน่อย) บทพูดบางครั้งทำให้หลุดคาแรกเตอร์
คนที่พูดออกมาแล้วดูไม่หลุดคาร์เลยคือ คุณกบ (บารมีของนักแสดงรุ่นเดอะจริงๆ)
4. โครงสร้างของเรื่อง / structure
ก็เหมือนพล็อตแนววาย มันสร้างมาเพื่อเล่าเรื่องความรักแบบวาย เพราะงั้น การที่แบบจะมีคู่วาย3คู่ หรือมีผู้หญิงมาเกี่ยวน้อยมากในโลกของวาย ก็เป็นปกติ
ยอมรับได้สำหรับ genre นี้
การวางมาเฟียในไทยก็เป็นเรื่องที่ไม่ขัด เพราะบ้านเรามาเฟียเยอะอยู่ละ
แต่ที่เป็นปัญหา คือลักษณะปมที่เฉลยท้ายเรื่องดูฝืนมากในการผูกปม คือมันจะบอกที่มาว่าทำไมพอร์ชถึงได้มาเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งเป็นส่วนที่เราไม่ชอบที่สุดในเรื่อง ใช้วิธีผูกปมอย่างอื่น หรือไม่ต้องมีปมตรงนี้ยังดีกว่า
5. อาร์ทไดเร็กชัน - โปรดักชั่น
คิดว่านี่คือสิ่งที่ ทำให้เรืองนี่ดัง ไกลระดับโลก
เพราะไม่มีวายชาติไหนนำเสนอวายแนวนี้มาก่อน
มันเสิร์ฟ element แฟนซี ทุกอย่างในโลกของวาย
ธีมมาเฟีย - ผู้ขายหล่อๆใสสูท - โชว์ วายแบบ masculine มีแอคชั่น มีต่อย มีใช้ปืน
ซึ่งถ้าเสพมังวะ มังฮวา หรือนิยายวายมาก่อน มันก็มีเยอะ
แต่ซีรีย์วายแนวนี้มันยังไม่มี
สรุป
คือต้องชื่นชมผู้จัดที่สามารถทำผลงานออกมาและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเพราะการแคสนักแสดง
การวางทิศทางของโปรดักส์ หรือวิธีการโปรโมท
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือเรื่องที่ดังไกลระดับโลกขนาดนี้
กลับไม่สามารถนำเสนอบทที่แข็งแรงได้
จากที่ไปอ่านคนต่างชาติวิจารณ์ใน reddit ก็เห็นปัญหาของบทที่ไม่แข็งแรง (ปัญหาเดียวกับอนิเมชั่นบ้านเรา ที่โปรดักชั่นดี แต่บทมีปัญหา)
แต่ถ้าลองคิดในมุมกลับ ลักษณะบทมันอาจ
มีความเป็น โดจิน Y สูง
คือบทที่คิดเพื่อนำไปสู่เรื่องอย่างว่า
山なし (ยะมะนะชิ - ไม่มีไคลแม็กซ์)
落ちなし (โอจินะชิ - ไม่มีมุขจบ)
意味なし (อิหมินะชิ - ไม่มีสาระ)
รวมกันเป็นคำว่า ยะ-โอ-อิ YA-O-I
ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า วาย ที่ใช้ในไทย
และอาจจะเพราะการเล่าเรื่องในลักษณะนี้ ที่ทำให้สาววายทั่วโลกชอบมากว่าบทแข็งแรงแต่บทเหล่านั้นอาจไม่ได้นำไปสู่ element ที่ต้องการนำเสนอ (ฉากจูบ ฉากหึง ฉากต่อสู้ ฉากกักขังหน่วงเหนี่ยว ฉากใส่สูทหล่อๆ)
แต่ยังไงก็จะเปิดใจดูวายเรื่องอื่นไปต่อไป คิดว่าคงมีหลากหลายแหละ แต่เปิดมาเรื่องแรกก็รู้สึกถึงความบทบ้ง แง
จะตามไปดูเรื่อง แมนสรวง กับ SHINEด้วย เพราะชอบนักแสดง
เพิ่งดู Kinnporsche จบ (วายเรื่องแรกที่ลองเปิดใจดู ปรากฏว่า...)
แต่ไม่ได้ดูซีรีย์วายมาก่อน
สำหรับรสนิยมการดูหนัง เรามองว่าตัวเองเสพหลากหลาย ทั้งหนังตลาด หนังอาร์ท หนังแอคชั่น
หนังพจอานนท์ ซีรีย์เกา ญี่ปุ่น หนังอินเดีย อิหร่าน
คือดูได้หมด คิดว่าดูหนังมาครบทุกแนว และมากพอจะวิจารณ์หนังได้รอบด้าน
แต่จะไบแอสแนวที่เกี่ยวข้องกับคนหลากหลาย
ไม่เน้นแค่ตัวหลัก
แบบ better call Saul
Everything everywhere all at one
จักรวาลไทบ้าน หนังเควนติน
จนมาปีนี้ ลองดูแนววาย เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมเติบโต น่าจะมีพัฒนาการเยอะมากกว่าช่วงก่อน
เลือกดูคินพอร์ช เพราะเป็นแฟนเพลง slot machine
แล้วก็คุ้นหน้าอาโป ที่เคยเป็นนักแสดงช่อง3 ที่เคยเห็นผ่านตา
EP1 น่าประทับใจโปรดักชั่น นักแสดงนำมีเสน่ห์ทั้งคู่
แถมมีฉากบู๊ที่ดี
EP2-3 เริ่มลังเลว่าจะดูจนจบดีมั้ย เพราะเรื่องช้า
หลังจากผ่านlove scene คู่พระ-นาย
ก็คิดว่าควรดูให้จบเพราะจะเก็บฉากแบบนั้นนั่นแหละ แล้วก็เก็ทแล้วว่า มันคือเรื่องรักที่วางบท setting มาเฟีย
ไม่ต้องหาความสมเหตุสมผลอะไรมาก
EP ท้ายๆ 13-14
เป็นส่วนที่ทำให้ความประทับใจต่อซีรีย์ดร๊อปลงหมดเลย
เพราะซีรีย์พยายามที่จะสร้างปมที่ไม่จำเป็น และไม่มีน้ำหนักที่จะทำให้เรายอมรับได้ เลย
เอาจริงๆ หลังจากผ่านep3-4 ไป เราเหมือนกับยอมรับความเป็นซีรีย์วายไปแล้วว่า ต่อจากนี้จะดูแค่ฟิน
พอไปepลึกๆ เราก็ตั้งคำถามว่า นี่เรากำลังดูอะไรอยู่วะ
คือความอยากเสพวายมันเริ่มจะน้อยลงเพราะความอะไรไม่รู้ของบท จนมาถึงช่วงสุดท้าย โอ้ จีซัส นี่มันอะไรวะเนี่ย ทำไมต้องฝืนขนาดนี้ิ
โดยปกติเราจะไม่ใช่คนมาด่าซีรีย์กรือหนังที่ไม่ชอบ
จะปล่อยผ่าน
แต่คินพอร์ช มันมีส่วนที่เราชอบมาก (โปรดักชั่น-นักแสดง) และส่วนที่เราอึดอัด (บท)
วิจารณ์เป็นข้อๆ
1.นักแสดง ดีมาก
อาโป มีความสามารถในการแสดงสีหน้าที่หลากหลาย บทบู๊ก็เล่นดี มายล์ ที่เล่นคู่กันก็เล่นดี สมบท รอดูเรื่องอื่นต่อ
นักแสดงหน้าใหม่คนอื่นๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็มีที่แข็งๆชัดเจนอยู่บางฉาก
2.สถานที่ถ่ายทำ
ลงตัว ไม่มีอะไรติด
ชอบความใช้โรงแรมเป็นบ้านตระกูลหลักเลย ทุกอย่างหรู พอไปบ้านตระกูลรองก็ดูคลาสสิค
3.บทพูด
บางทีก็ดี แต่บางทีก็ไม่กระชับ ฟังแล้วบางทีได้ฟิวนิยายในเว็บ (เข้าใจว่ามาจากนิยาย แต่เป็นซีรีย์ก็น่าจะปรับหน่อย) บทพูดบางครั้งทำให้หลุดคาแรกเตอร์
คนที่พูดออกมาแล้วดูไม่หลุดคาร์เลยคือ คุณกบ (บารมีของนักแสดงรุ่นเดอะจริงๆ)
4. โครงสร้างของเรื่อง / structure
ก็เหมือนพล็อตแนววาย มันสร้างมาเพื่อเล่าเรื่องความรักแบบวาย เพราะงั้น การที่แบบจะมีคู่วาย3คู่ หรือมีผู้หญิงมาเกี่ยวน้อยมากในโลกของวาย ก็เป็นปกติ
ยอมรับได้สำหรับ genre นี้
การวางมาเฟียในไทยก็เป็นเรื่องที่ไม่ขัด เพราะบ้านเรามาเฟียเยอะอยู่ละ
แต่ที่เป็นปัญหา คือลักษณะปมที่เฉลยท้ายเรื่องดูฝืนมากในการผูกปม คือมันจะบอกที่มาว่าทำไมพอร์ชถึงได้มาเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งเป็นส่วนที่เราไม่ชอบที่สุดในเรื่อง ใช้วิธีผูกปมอย่างอื่น หรือไม่ต้องมีปมตรงนี้ยังดีกว่า
5. อาร์ทไดเร็กชัน - โปรดักชั่น
คิดว่านี่คือสิ่งที่ ทำให้เรืองนี่ดัง ไกลระดับโลก
เพราะไม่มีวายชาติไหนนำเสนอวายแนวนี้มาก่อน
มันเสิร์ฟ element แฟนซี ทุกอย่างในโลกของวาย
ธีมมาเฟีย - ผู้ขายหล่อๆใสสูท - โชว์ วายแบบ masculine มีแอคชั่น มีต่อย มีใช้ปืน
ซึ่งถ้าเสพมังวะ มังฮวา หรือนิยายวายมาก่อน มันก็มีเยอะ
แต่ซีรีย์วายแนวนี้มันยังไม่มี
สรุป
คือต้องชื่นชมผู้จัดที่สามารถทำผลงานออกมาและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเพราะการแคสนักแสดง
การวางทิศทางของโปรดักส์ หรือวิธีการโปรโมท
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือเรื่องที่ดังไกลระดับโลกขนาดนี้
กลับไม่สามารถนำเสนอบทที่แข็งแรงได้
จากที่ไปอ่านคนต่างชาติวิจารณ์ใน reddit ก็เห็นปัญหาของบทที่ไม่แข็งแรง (ปัญหาเดียวกับอนิเมชั่นบ้านเรา ที่โปรดักชั่นดี แต่บทมีปัญหา)
แต่ถ้าลองคิดในมุมกลับ ลักษณะบทมันอาจ
มีความเป็น โดจิน Y สูง
คือบทที่คิดเพื่อนำไปสู่เรื่องอย่างว่า
山なし (ยะมะนะชิ - ไม่มีไคลแม็กซ์)
落ちなし (โอจินะชิ - ไม่มีมุขจบ)
意味なし (อิหมินะชิ - ไม่มีสาระ)
รวมกันเป็นคำว่า ยะ-โอ-อิ YA-O-I
ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า วาย ที่ใช้ในไทย
และอาจจะเพราะการเล่าเรื่องในลักษณะนี้ ที่ทำให้สาววายทั่วโลกชอบมากว่าบทแข็งแรงแต่บทเหล่านั้นอาจไม่ได้นำไปสู่ element ที่ต้องการนำเสนอ (ฉากจูบ ฉากหึง ฉากต่อสู้ ฉากกักขังหน่วงเหนี่ยว ฉากใส่สูทหล่อๆ)
แต่ยังไงก็จะเปิดใจดูวายเรื่องอื่นไปต่อไป คิดว่าคงมีหลากหลายแหละ แต่เปิดมาเรื่องแรกก็รู้สึกถึงความบทบ้ง แง
จะตามไปดูเรื่อง แมนสรวง กับ SHINEด้วย เพราะชอบนักแสดง