สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เรามีโอกาสดี ได้ไปตะลุยที่นางเลิ้งกับ ยังแฮปปี้ YoungHappy และ Ajinomoto Amino House ค่ะ
กับโครงการ The real Local guide : ไกด์เก๋ากรุง 2024
ไกด์วันนี้ของเราคือไกด์พี่เคน วัย 63 ปีที่ไม่ได้เป็นไกด์มืออาชีพ แต่เป็นคนวัยเก๋า ที่เติบโตมาในนางเลิ้งค่ะ
จุดนับพบแรก เรานัดกันที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร
พี่เคนได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างพระราชอุทิศสมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี ซึ่งมีจุดเด่นเป็นเจดีย์สีทองรูปทรงลังกาขนาดใหญ่ และภายในอุโบสถ มีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่แตกต่างจากวัดทั่วไป
คือภาพเขียนเรื่องอิเหนา ที่สื่อถึงเรื่องราวของความรักค่ะ
หน้าบันของอุโบสถทำลักษณะเหมือนกันรูปหัวใจที่มีรัศมีเปล่งออกไป
ซึ่งระหว่างที่อยู่ในวัดพี่เคนได้มีการเล่าเรื่องราวของ ดญ พิมพ์วดี ผู้สื่อวิญญาณกับ นพ.อาจินต์ บุญเกตุ
จากนั้นเราก็เดินลัดเลาะจากวัดออกมาตามถนนหนทาง พี่เคนก็ชี้จุดสำคัญต่างๆ
เช่นจุดที่เคยเป็นคอกเลี้ยงม้า มีสนามมวย สนามม้า ไม่ว่าจะเต็มไปด้วยร้านทอง โรงรับจำนำ (กระซิบว่าคือสแตนบายคนออกมาจากสนามม้าเลย)
ปัจจุบันก็ยังมีทั้งกระทรวง และโรงเรียน
การตั้งชื่อถนนหนทางและสะพาน ก็มีที่มาจากชื่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เช่นนครสววรค์ พิษณุโลก ลูกหลวง หลานหลวงค่ะ
มีเรื่องเล่านึงที่เราชอบมาก พี่เคนบอกว่าตอนแกเด็ก มีอาชีพจ้างนั่งรถแท็กซี่
ประมาณว่าแท็กซี่ที่จะเข้าไปในสนามม้า จะต้องมีผู้โดยสารไปด้วย ก็เลยได้รับค่าจ้างนั่งติดรถไปเที่ยวละ 5 บาท
แถมขาที่กลับออกมาบางทีก็รับจ้างกลางร่มในวันฝนตกได้อีก
ลัดเลาะกันมาเรื่อยๆจนถึงตลาดนางเลิ้ง พี่เคนก็เล่าเรื่องราวต่างๆ อย่างเช่น การเลี้ยงจิ้งหรีดสำหรับการพนันขันต่อ หรือที่มาของคำว่าโรงแรมจิ้งหรีด และค่าเช่าโรงแรมจิ้งหรีดอยู่ที่คืนละ 15 บาทเองค่ะ
มาดูในมุมของสถาปัตยกรรมกันบ้างนะคะ
ส่วนนี้จะเป็นรอยต่อของอาคารที่ทำไว้ เพื่อป้องกันการลุกลามไฟ กรณีเกิดอัคคีภัย
จุดนนี้คือปล่องลมไว้สำหรับระบายอากาศ บ้างอยู่หน้าบ้าน บ้างอยู่หลังบ้านค่ะ
ส่วนสิ่งนี้เรียกว่าหน้าต่างรู ฟังก์ชั่นน่าจะประมาณไว้ดูว่าใครมาหาที่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่เพียงพอให้แสงเข้า หรือการระบายอากาศ
มากันที่ตัวตลาดบ้าง ตลาดนางเลิ้งสร้างขึ้นเมื่อ 29 มีนาคม 2443 โดยมี พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จมาเปิดค่ะ อายุตอนนี้ก็ 124 ปี
ในตัวตลาดก็จะมีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านค้าดั้งเดิมและที่เปิดกิจการใหม่ค่ะ
ถัดมาก็จะเป็นเรื่องราวของศาลาเฉลิมธานี ที่ปิดกิจการไปเมื่อมีอายุ 106 ปี
เรียกกันว่าเป็นพาวิลเลียน ที่แปลว่าศาลา แบบหรูหราติดแอร์
โดยไฮไลท์อย่างนึงของโรงภาพยนตร์ที่นี่ คือการเปิดเพลงก่อนหนังฉาย 2 เพลงด้วยกัน ได้แก่เพลง Highway star และสยามมานุสติค่ะ
ในตลาดมีศาลเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรฯ และศาลเจ้าให้พวกเราเข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
มากันที่เรื่องราวของคุณมิตร ชัยบัญชากันบ้าง พระเอกคนดังที่เรามาตามรอยในวันนี้ค่ะ
พี่เคนเล่าว่าคุณมิตร ชัยบัญชา เดิมเป็นคนจังหวัดเพชรบุรี พ่อแม่แยกทางกัน
ส่วนน้าชายคุณมิตรชวชอยู่เป็นพระที่วัดนางเลิ้ง จึงพามาอยู่ด้วยกัน
เดิมคุณมิตร ชื่อพิเชษฐ์ พุ่มเหม เป็นทหารอากาศ และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมิตร ชัยบัญชา โดยมีที่มาจากการที่คุรมิตร เป็นคนรักพวกพ้อง และความภาคภูมิใจที่ได้ถือธงเฉลิมพล เดินนำขบวนของกองทัพค่ะ
ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่าแม้กระทั่งชื่อของคุณมิตร ชัยบัญชา อิมแพคไปถึงชื่อของนางเอกต่างๆ ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้คล้องจองกัน
อาทิเช่น ชื่อคุณเพชรา คุณโสภา คุณอรัญญา เวลาฟังปุ๊บก็ลื่นหู
"มิตร ชัยบัญชา - เพชรา เชาวราษฎร์"
ส่วนร้านนี้พี่เคนบอกว่าเป็นร้านที่คุณมิตร เคยทำงานด้วยค่ะ
ออกจากตัวตลาด พวกเรามุ่งหน้าไปต่อที่วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแคนางเลิ้ง วัดนี้ได้รับเงินบริจาคทำนุบำรุงจากคุณมิตร ชัยบัญชา
และที่นี่ยังเป็นที่เก็บอัฐิของคุณมิตรด้วยค่ะ
ศา่ลานี้เป็นจุดรดน้ำศพของคุณมิตร มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามามากมาย บางส่วนยังไม่เชื่อว่าเรื่องการเสียชีวิตเป็นเรื่องจริงด้วยค่ะ
ออกจากวัดแล้ว เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ จะเจอกับนางเลิ้งอ๊าร์ต เป็นร้านรับทำล็อคเก็ตที่มีชื่อเสียงมาก
และจุดหมายสุดๆท้ายคือจิ๊บกี่ 1 ใน 5 ภัตราคารชื่อดังในยุครุ่งเรื่องของนางเลิ้ง อายุนับร้อยปี ปัจจุบันเหลือเพียงแห่งเดียวแล้ว
เมนูห้ามพลาดคือเป็ดย่างเนื้อนุ่ม หมูกรอบหนังกรอบหอมกลิ่นย่างถ่าน น้ำซุปก็เด็ด ไส้เป็ดก็กรุบ อร่อยทุกอย่างจริงๆค่ะ
ตบท้ายด้วยซ่าหริ่มเจ้าดัง หอมหวานกะทิชื่นใจ ดับร้อนวันนี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
จบไปแล้วสำหรับทริปวันนี้ เราได้ฟังเรื่องราวความรุ่งเรื่องของนางเลิ้งในอดีต ภาพในปัจจุบัน ยุครุ่งเรืองและเสื่อมถอยตามกาลเวลา
ไว้เพื่อนๆมีโอกาสอย่าลืมแวะมาเที่ยวนางเลิ้งกันนะคะ
ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี สำหรับกิจกรรมวันนี้ด้วยนะคะ ลากันไปก่อน บ๊ายบายยย
ตามรอยพระเอก (มิตร ชัยบัญชา) ในนางเลิ้ง ไปกับไกด์เก๋ากรุง 2024