โดนอายัดเงินเดือนส่งศาลคดีแพ่ง ยอดประมาณ5แสน มค67.ศาลบอกยอดคงเหลือ 3หมื่น6 ทางไฟแนนท์(ธนาคาร) บอกหลักแสน

คดี แพ่ง หมายเลขที่แดง xxxx/2562
เป็นการเช่าซื้อรถยนต์ โดนมีผู้ซื้อ  และ คนค้ำ  ผมเป็นคนค้ำประกัน  จนเกิดเหตุคนกู้ ประสบอุบัติเหตุ รักษาตัวและ ออกจากงาน ตกงาน  และ
ทางลูกหนี้ไม่ได้ส่งรถคืน ส่วนทางผมไม่เคยทราบใดๆ จนมีหมายศาลและโดนอายัดบัญชี จะมียอด ที่ต้องชำระ ประมาณ0.89 ลบ. ดอกเบี้ยคิด 7.5%/ปี ของเงินต้น( 890,000 บาท *7.5% /ต่อปี =66,750 บาท/ปี) 5ปี = 333,750)
ค่าขาดผลประโยชน์ 90,000 บาท และชำระต่อไป อีก 6,000 บาท ไม่เกิน 6 เดือน (=36,000บ.) ขาดผลประโยชน์อีก 36,000 บาท และทนายความอีก 3,000บาท
 รวมๆ น่าจะเคลียหมดภายใน ปี 2024-2025 .กรมบังคับคดี บอกยอดคงเหลือ 3xx,xxxบาท ทางธนาคาร  (ไฟแนนท์หรือ บริษัทกฎหมายที่รับเรื่องต่อ) บอกหลักแสน(5xx,xxx) บาท 
เรื่องมีอยู่ว่า
โดนอายัดเงินเดือน คดีแพ่ง ปี 61 เริ่มหักกลางปี 63 ยอดประมาณ0.890.00 ลบ. ม ค 67.กรมบังคับคดี แจ้งยอดคงเหลือประมาณ 0.36.00 ลบ. ส่วนทางไฟแนนท์(ธนาคาร) บอกเหลือเกือบ0.68 ลบ. 
สรุป ผมควรทำยังไง ครับ เพราะมันหักเงินเดือน,โบนัส เงินส่วนเกินผมไปตามสัดส่วน  เงินต้น,เงินขาดผลประโยชน์ ดอกเบี้ยต่อปี รึป่าวครับที่ผมไม่ได้คิด
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ไป เป็นผู้ค้ำประกันรถยนต์ ในการซื้อรถยนต์ ไม่ได้ซื้อร่วม เนื่องจากผู้กู้ เงินเดือน รายได้ไม่พอ จึงต้องมีคนค้ำ  กระผมเลยเป็นคนค้ำให้  
และผ่านไป1-2ปี ผมโดนอายัดเงินเดือน   รวบรัดเลยนะครับ
ยอดอายัด 
1.ยอด                     = 890,000 บาท
2.ขาดผลประโยชน์   = 90,000 บาท
3. ย้อนไปจากข้อ 1 ดอกเบี้ย 7.5% ของเงินต้น (จากเงินต้น 890,000 บาท *7.5% /ต่อปี =66,750 บาท/ปี) 5ปี = 333,750
4.อื่นๆหัก6,000 บาท(แต่ไม่เกิน 6ด.= 36,000)
3.ขาดผลประโยชน์ อีก 36,000 บาท
5.ค่า ทนาย 3,000 บาท  รวมๆ  1,388,750 บาท     กรมบังคับคดีแจ้งช่วงเดือน มค67.บอกยอดคงเหลือ 0.36.00 ลบ.   ทางไฟแนนท์(ธนาคาร) บอกหลักคงค้างหลัก 0.680.00 ลบ.
  สรุปทางไหนตรงครับ  กรมบังคับคดีแจ้ง ปกติ ต่อรองไกล่เกลี่ยกับไฟแนนท์ ขอลด ได้ ก็ปิดจบ  เพราะ ส่งมาจนจะหมดแล้ว  แต่นี่ พอถาม ทางธนาคาร แจ้งมา ยอดสูงกว่า
ที่กรมบังคับคดีแจ้ง  บอกดูผิดไป ยังคงเป็นหลัง แสน
ทุกข์ใจมากครับ อยากฆ่าตัวตาย? ไหนจะโดนโกงจากลงทุนธุรกิจเสริม เปิดร้านต่างๆ รวมๆก็หลายล้าน เป็นหลัก2.9 ลบ เงินที่กู้มาด้วย  เงินที่เก็บยามชราขายแหวนขายทอง ขายนาฬิกา ไปหมด  
และเยอะด้วย (อาชีพสุจริตนะครับ ไม่เคยข้องเกี่ยวเว๊ปพนัน การพนัน ต่างๆ หรือแชร์ลูกโซ่ )

   ส่วนของตัวที่ทำให้ผมล้ม และป่วยหนัก แพนิก ตลอด ซึมเศร้าระยะ 4 พร้อมตายเสมอเลย   คือการ ค้ำนี้  ” รถยนต์ “ นี่ล่ะครับ  มันเหมือนเราทำงานไปฟรีๆ  ความหวังเราคือ
   รายได้ "เงิน" ของเรา ที่เราต้องกินต้องใช้ และหวังจากทางนี้เพราะเราโดนโกงจากเงินเก็บส่วนตัว และกู้มาลงทุนมาก่อน  (ฝากเป็นวิทยาทานให้กับทุกๆคนนะครับ 
จะเป็นใครญาติ พี่น้อง ผองเพื่อน คิดลึกๆ และคิดถึงระยะยาว  ว่ามันจะไปไหวไหมกับเศรษฐกิจแบบนี้ ผมก็มนุษย์เงินเดือน ก็อยากต่อยอด มีรายได้เพิ่ม ก็ เจ็ง มาหลายอาชีพ
ร้านคาเพ่ ที่เปิดก่อนโควิด 1-2 เดือน  บริษัท ออแกรไนท์ 
สำหรับการ ค้ำประกันตัวนี้ 
เริ่มหัก เมษายน 2563  ผ่านมา 3-4 ปี  ผมไม่กล้าบอกใคร ที่บ้านสักคน ว่าโดนหัก อายัดเงินเดินผม  โบนัส เงินค่าคอม  จิปาถะ  
ระบบการเงินผมที่แพลนและค่าใช้จ่ายผมเองก็ต้องใช้  มันไม่พอเลยครับ และล้ม จนผมป่วย ซึมเศร้าระยะรุนแรง 
และเคยคิดฆ่าตัวตาย วันละหลายๆรอบ ใบรับรองแพทย์ ยา เต็มห้อง  ช็อคแล้ว ช็อคอีก ออฟฟิตผม อยู่ชั้น 3 และ เวลาผม อาการแพนิก 
คือ แบบโหดมาก หายใจไม่ออก รถ ambulance มารับ ถึงที่ทำงาน   ย้ำ  บรรไดชั้น3 ที่สูงชัน    และ  เดือนนึงมา 2-3 รอบ   จน ที่ทำงาน 
จะให้ผมพัก  รักษาตัว 3-4 เดือน รับแค่เงินเดือน และ มีการโยกตำแหน่ง ที่ไม่ต้องออกไปพบ ขับรถ หาลูกค้า แถม โบนัสไม่ได้  ผมก็สู้มาทำงานแบบป่วยๆ ไหวบ้างไม่ไหวบ้าง  
และผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร ผมลำบากมาก ชีวิตดิ่งลง ดิ่งลง ลดตำแหน่งงานลง ให้นั่งทำในออฟฟิต  จากที่เป็นเซลล์ จะมีค่าคอมมิชชั่น   
คงทราบกัน  เค้าจะหักส่วนเกิน 20,000 ไป   ไหนจะค่า ประกันสังคม  คงรับที่ 19,xxx    โบนัส หัก50% เงินส่วนอื่นก็ 50% (ในทางที่ดี โบนัสที่ได้หักไป  ยอดมันก็ลดเร็ว แต่ 2 ปีหลัง ผมไม่ได้รับ)
รายรับสุทธิ รับที่ ประมาณ 19,000 มา 4 ปีเต็ม  เดิม 35,000-45,000 4 ปีหลัง ที่ป่วย รายได้ลดลง ลดตำแหน่งได้แค่ฐานเงินเดือน ไม่มี คอมมิชชั่น   รายจ่าย 
1.ค่าบ้าน 11,280 บ ลดไม่ได้  (โตมาคนเดียว หาเงินคนเดียว เป็นคนประหยัดมาก และลำบากมาแต่เด็กๆ ไม่มีที่อยู่ พ่อไปทาง แม่ไปทาง
 ผมทำงานพาทไทม์ มาแต่ ม.4 MK หนีไปใช้ชีวิต คนเดียวสู้คนเดียว จนมีได้ทุกวันนี้ ผม ไม่เคยติดหนี้ใคร ไม่เคยประวัติเสีย และชอบช่วยเหลือคนอื่น )
2.ค่ารถยนต์  11,850บ./งวด  ปัจจุบัน ยอมปรับดครงสร้างหนี้ให้ยอดลดลง เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็ปรับได้แค่ 8,XXX บาท/ด
3.ค่าบัตรเครดิต Bank ที่ 1   3 ใบ วงเงินเดียวกันหมด ตัวนี้ ของPTT  ไว้ใช้เติมน้ำมัน อย่างเดียว   ขั้นต่ำ 3ใบรวม 15,500 บาท/ด (ปรับป๊67 ขั้นต่ำ10%)
4.ค่าบัตรเครดิต BANK ที่ 2  1 ใบ  ดอกเบี้ยค่อนบ้างสูง แต่ก็จำเป็นต้องใช้ หมุนเวียน  ขั้นต่ำชำระ 20,000 บาท/ด ปรับป๊67 ขั้นต่ำ10%)
5.ค่าบัตรกดเงินด่วน BANK ที่ 1  ใบที่ จากไม่ใช้ ก็หมุนและกลายเป็นจ่ายขั้นต่ำ และ ผ่อนสินค้า 0 %  ขั้นต่ำชำระ 20,000 บาท/ด  (ปรับป๊67 ขั้นต่ำ10%)
6.ค่าบัตรกดเงินด่วน BANK ที่ 1  ใบที่ 3 เน้นเป็นcashback จากไม่ใช้  ก็หมุน และกลายเป็นจ่ายขั้นต่ำ เวลาจำเป็น ขั้นต่ำชำระ 20,000 บาท/ด  (ปรับป๊67 ขั้นต่ำ10% หมุนไปจ่ายบัตรนั้น บัตรนี เป็นเบี้ยหัวแตก
7.ค่าใช้จ่ายให้ทางครอบครัวค่ารถ   รับผิดชอบค่างวดรถยนต์ ให้น้องสาว 7,800  จน น้องก็ต้องปรับโครงสร้างหนี้ไปด้วย 5.820
 ผมเป็นเสาหลักของบ้าน   อาชีพเสริม ขายออนไลน์ ขายตามตลาดมือสอง ที่เคยทำ  ก็ทำไม่ได้  กลัว ผวา   จากคนปกติ กลายเป็น คนเหมือนเสียสติ
นอน อยู่แต่บ้าน  เดิมกอ่นโนหัก รวมๆ ผมแบบรายจ่ายผมที่ 40,000 บาท/ด และพอมีโบนัส คอยมาปิดบัตร ผมก็ทยอยเคลียทีละรายการ และ เงินเก็บแยกไว้ ก็ทยอยมา ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า ตัวยาบางตัว สวัสดิการ ก็เบิกไม่ได้  ผมไป ทุก เดือน  และบางเดือน อาการดิ่ง ก็ไป อาทิตย์เว้นอาทิตย์เลย ครับ  มันมีเรื่องราวมากมาย เข้ามารุม และทำให้ผม รับไว้ แยก แจกแจงให้ออกจากสมองไม่ได้

  ส่วนทาง ผู้กู้นั้นก็ป่วย เพิ่งได้กลับมาทำงาน หมอนรองกระดูกเคลื่อน เดินเหินไปไหนลำบาก และค่อยข้างไม่มีรายได้กันทั้งบ้าน และไม่มีทรัพย์สินใดๆ ตกงานเป็นปีๆ  ความซวยจึงมาตกที่คนค้ำ เริ่มหักผมปี 2563 กลางปี  จนปัจจุบัน  ฝ่าย
HR ก็ เห็นใจ เพราะถ้านับแล้ว มันคงเหลือ 19xxx ที่เหลือเค้าเอาไปหมด จนผมช็อค คาที่ทำงาน แพนิกและ กลายเป็นซึมเศร้า อยู่ในระยะรุนแรง  เพราะผมเองก็มีค่าใช้จ่าย  ค่าบ้าน ค่างวดรถผม ค่าบัตรเครดิต ค่า สินเชื่อ ส่วนบุคคล ค่ายาค่าใช้ในครัวเรือน  
จนผมต้องขายทรัพย์ หลายๆๆอย่าง มาหมุนจ่าย และยอม ปรับโครงสร้างหนี้ บางรายการ  

สรุปแล้วผมอิงตามกรมบังคับคดี แจ้งยอดผิดและะเป็นยอดล่าสุด จบแล้วจบเลยไหม  เพราะยังไงยอดไม่ตรงกับทางไฟแนนท์เลย ที่แจ้งมา ยอดเท่าตัว 

ขอคำชี้แนะด้วยครับ พิมพ์ไปก็ สั่น  อาการแพนิกจะกำเริบ ผมเคยคุยแล้ว ผมสั่นไปหมด   ชีวิตทุกวันนี้ สิ้นเดือนมา ไม่เหลือเลยเงินเดือน  และเงินเก็บ 
นี่ขนาดผม เป็นคนประหยัด ไม่ดื่ม ไม่เที่ยว ไม่ สุรุ่ยสุร่าย  นะครับ    ทรามาณ เหมือนตายทั้งเป็นเลย   เพราะ  ผมโดนโกงหลายอย่าง นับ มูลค่า แล้วน่าจะ 4.0 ลบ  
ขอสงวนไว้  เพราะ ทาง คนโกง  ออกข่าวเมื่อปี 2562  และติดคุกอยู่  โกงประมาณ 300. ลบ  คิดดูครับ ผม ทรุดแค่ไหน เงินเก็บ สินทรัพย์  และมาแจ็คพอตเรื่องนี้อีก โบนัสผม ทุกปี 
ผมจะเก็บเป็นเงินเก็บ  แยกไว้   นี่กลายเป็นเหมือนผม มาทำงานใหม่ ไม่มีค่าคอม ไม่มีค่าตำแหน่งที่เคยได้    ฐานเงินเดือนเท่าเดิมนะครับ  แต่ผมเสียโอกาสทางการเงิน ที่จะได้อย่างมาก
และ ล้าไปหมดแล้ว กรมบังคับคดีแจ้งยอด อีกยอด คงค้าง เท่านี้    ส่วนทางไฟแนนท์ ก็แจ้งอีกยอด  เท่านี้   สรุป ผมควรยึดตามหมายเลยไหมครับ หรือตามกรมบังคับคดี เพราะ ทางธนาคาร ยอดสูงกว่าเดือบเท่าตัว 
ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
ปอร์ฐกร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่