อันนี้เป็นเรื่องของเพื่อนนะครับ ขออนุญาตเอาโพสเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์หากใครเจอปัญหาคล้าย ๆ กันจะได้ระวังไว้ เพื่อนไปกู้เงินจาก ธ.กสิกรไทย โดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน ต่อมาก็มีปัญหาว่าส่งค่างวดไม่ไหว เมื่อชาดชำระ มีการฟ้องร้องที่ศาล ซึ่งต่อหน้าศาลมีการตกลงประณอมหนี้โดยให้ชำระหนี้เดือนละ 3,xxx บาท ซึ่งเพื่อนก็ชำระตามกำหนดเวลามาตลอด
ต่อมาครั้งหนึ่งเพื่อนได้เข้าไปชำระค่างวดที่ธนาคารโดยตรง ปรากฏว่าทาง จนท. ธนาคารในสาขาปฏิเสธการรับชำระหนี้โดยอ้างว่างบัญชีหนี้นี้ปิดไปแล้ว ด้วยความที่เพื่อนก็สงสัยเลยกลับไปที่ศาลเพื่อขอคำปรึกษาในกรณีดังกล่าวที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามสัญญาได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ในศาลบอกว่าในเมื่อชำระที่ธนาคารไม่ได้ให้มาชำระที่ศาลแทน โดยศาลจะรับชำระแทนเอง ซึ่งเพื่อนก็นำเงินมาชำระที่ศาลตามสัญญาไม่ได้ขาด (ตรงนี้แหละครับที่น่าจะเป็นบทเรียน เหมือนธนาคารหลอกว่าปิดหนี้แล้วและถ้าเราหยุดชำระหนี้นี่เสร็จ แต่ด้วยความระวังตัวยังนำเงินไปชำระที่ศาลตลอดตามสัญญา)
ต่อมาผ่านไปประมาณ 2 ปี ได้มีหมายศาลมาถึงเพื่อนจากสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งอ้างว่าธนาคารได้ขายหนี้ก้อนนี้ให้ทางเขา เนื่องจากเพื่อนไม่ได้ชำระหนี้เป็นเวลานาน ให้หาเงินมาชำระจำนวนหลายแสนบาทไม่อย่างนั้นจะยึดบ้าน เมื่อไปที่ศาลแล้วได้พบกับสำนักงานกฎหมายนี้ก็ได้อ้างในศาลตามนี้ แต่ทางสำนักงานกฎหมายก็หงายเงิบเมื่อเพื่อนแสดงหลักฐานว่าได้มีการชำระหนี้ตามกำหนดตลอดเรื่อยมา เนื่องจากธนาคารปฏิเสธการรับชำระหนี้ทำให้เพื่อนเลือกที่จะนำเงินไปชำระที่ศาลแทน แต่การติดต่อระหว่างธนาคารกับศาลหรือสำนักงานกฎหมายนั้นเพื่อนไม่รับรู้ แต่ถือว่าตนได้ปฏิบัติตามสัญญาประฌอมหนี้เรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายได้ร้องเรียนไปยัง ธปท. ว่าในเมื่ออยู่ระหว่างสัญญาประณอมหนี้แล้วเหตุใดจึงมีการขายหนี้ เหตุใดจึงปฏิเสธการรรับชำระหนี้ตามสัญญา ล่าสุดทางธนาคารขอให้เพื่อนกลับไปชำระหนี้ที่ธนาคารตามปรกติแต่เพื่อนปฏิเสธเนื่องจากไม่ไว้ใจธนาคาร แต่ขอชำระหนี้ที่ศาลตามที่ปฏิบัติมาดีกว่า เรื่องยังไม่จบครับ ถ้าเป็นไงจะมาอัพเดทให้ทราบต่อ
ประสบการณ์การใช้บริการเงินกู้ ธนาคารกสิกรไทย ขอโพสเพื่อเป็นบทเรียนเพราะอาจจะเป็นประโยชน์กับสาธารณชน
ต่อมาครั้งหนึ่งเพื่อนได้เข้าไปชำระค่างวดที่ธนาคารโดยตรง ปรากฏว่าทาง จนท. ธนาคารในสาขาปฏิเสธการรับชำระหนี้โดยอ้างว่างบัญชีหนี้นี้ปิดไปแล้ว ด้วยความที่เพื่อนก็สงสัยเลยกลับไปที่ศาลเพื่อขอคำปรึกษาในกรณีดังกล่าวที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามสัญญาได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ในศาลบอกว่าในเมื่อชำระที่ธนาคารไม่ได้ให้มาชำระที่ศาลแทน โดยศาลจะรับชำระแทนเอง ซึ่งเพื่อนก็นำเงินมาชำระที่ศาลตามสัญญาไม่ได้ขาด (ตรงนี้แหละครับที่น่าจะเป็นบทเรียน เหมือนธนาคารหลอกว่าปิดหนี้แล้วและถ้าเราหยุดชำระหนี้นี่เสร็จ แต่ด้วยความระวังตัวยังนำเงินไปชำระที่ศาลตลอดตามสัญญา)
ต่อมาผ่านไปประมาณ 2 ปี ได้มีหมายศาลมาถึงเพื่อนจากสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งอ้างว่าธนาคารได้ขายหนี้ก้อนนี้ให้ทางเขา เนื่องจากเพื่อนไม่ได้ชำระหนี้เป็นเวลานาน ให้หาเงินมาชำระจำนวนหลายแสนบาทไม่อย่างนั้นจะยึดบ้าน เมื่อไปที่ศาลแล้วได้พบกับสำนักงานกฎหมายนี้ก็ได้อ้างในศาลตามนี้ แต่ทางสำนักงานกฎหมายก็หงายเงิบเมื่อเพื่อนแสดงหลักฐานว่าได้มีการชำระหนี้ตามกำหนดตลอดเรื่อยมา เนื่องจากธนาคารปฏิเสธการรับชำระหนี้ทำให้เพื่อนเลือกที่จะนำเงินไปชำระที่ศาลแทน แต่การติดต่อระหว่างธนาคารกับศาลหรือสำนักงานกฎหมายนั้นเพื่อนไม่รับรู้ แต่ถือว่าตนได้ปฏิบัติตามสัญญาประฌอมหนี้เรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายได้ร้องเรียนไปยัง ธปท. ว่าในเมื่ออยู่ระหว่างสัญญาประณอมหนี้แล้วเหตุใดจึงมีการขายหนี้ เหตุใดจึงปฏิเสธการรรับชำระหนี้ตามสัญญา ล่าสุดทางธนาคารขอให้เพื่อนกลับไปชำระหนี้ที่ธนาคารตามปรกติแต่เพื่อนปฏิเสธเนื่องจากไม่ไว้ใจธนาคาร แต่ขอชำระหนี้ที่ศาลตามที่ปฏิบัติมาดีกว่า เรื่องยังไม่จบครับ ถ้าเป็นไงจะมาอัพเดทให้ทราบต่อ