คบกัน 2 ปี แล้วพึ่งย้ายมาอยู่บ้านฝ่ายชาย 2 ปี รวมเป็น4 ปี
เวลาจะกินอะไรเราก็จะซื้อ×2 เผื่อเขาตลอด ไปร้านอาหาร กินข้าวนอกบ้าน เราจ่ายตลอด ใช้รถพ่อแม่เขา เราเติมน้ำมันครั้งละ300-500ต่อครั้ง ต่อวัน ถ้าจะใช้รถในวันถัดไป เราต้องเติมใหม่ ซึ่งเราไม่ได้ใช้ไปไหนไกลเลย แค่ข้าม1อำเภอ ระยะทาง ไม่ถึง 50โล ด้วยซ้ำ
จะเอาอะไร ซื้ออะไร อยากได้อะไร จะบอกเราว่ายืมก่อน ยืมลงทุนก่อน ยืมซื้อก่อน แล้วเดี๋ยวคืน จนระยะเวลานานเป็นเดือน จน2เดือน 3เดือน ก็ไม่คืน พอเราทวง ก็ทำโวยวายใส่ ว่าทำไมชอบทวง ในระยะเวลา2-3เดือน ก็ยังมีการยืมเงินตลอด บอกเอาไปลงทุน และพอไม่ให้ ก็จะชักสีหน้าใส่ ใช้คำพูดว่าแค่นี้ก็ยืมไม่ได้ เอาไปลงทุนน่ะ ไม่ได้เอาไปใช้ จนตอนนี้ ก็เงียบไม่ได้คืน แต่ยังอยู่ด้วยกัน และสิ่งที่เรียกว่าเอาไปลงทุนทำธุรกิจ ก็ยังไม่เดินหน้า
และจะมีคำพูดแปลกๆ
1 ดีเลยวันหยุดไม่ได้หยุด ประหยัดเงินค่าข้าวที่ต้องจ่ายให้ ( 30 บาท /ต่อ /2วัน/60บ.) /( เราทำงานประจำหยุดอาทิตย์ละ2วัน/ เดือนนึงหยุด8วัน)
2. เวลาชวนไปไหนจะบอกไม่มีเงิน ไม่ไปอะ
จนเราต้องบอกว่าไปเหอะ เดี๋ยวจ่ายเอง แล้วเขาก็ไป แล้วเราก็จ่ายทุกอย่าง (รู้ทั้งรู้แหละว่าเขารอคำนี้จากเราให้เราพูด แต่เราไม่ได้คิดอะไรไง เรามองว่าไม่เป็นเราจ่ายให้ ในวันนี้ที่เทอไม่มี)
3. เพื่อนยืมเงิน รีบโอนให้ทันที ใครจะเอาเอารถมาค้ำ เพื่อขอยืมเงิน ตะรีบมาขอเงินที่เรา โดยบอกว่า เดี๋ยวเขาคืนต้นให้เรา ส่วนดอกเขาเอา สรุปคือเราไม่ให้ เพราะเงินหมื่น เราไม่ไว้ใจให้ใครยืม
เขาก็ทำเป็นไม่พอใจ จนเรื่องมันลืมเลือนไป เพราะเราไม่อยากใส่ใจ เราลำคานมากเรื่องการยืมเงิน
4. เขาจะชอบชวนครอบครัวเขาไปเที่ยว ปรึกษาตกลงกันเรียบร้อย ถึงค่อยมาบอกเราว่าจะไปนั่นนี่น่ะ ไปด้วยกันสิ ค่าห้องเขาจ่าย ส่วนค่ากินตลอดทริปเราจ่ายในส่วนที่เรา2คนกินใช้ ค่าน้ำมันไปเที่ยว เขาหารคนละครึ่งกับทางครอบครัวเขา
พอจบทริป กลับมาถึงบ้าน เรายังไม่ทันได้วางกระเป๋าเดินทาง เขาพูดว่า เนี่ยไม่มีเงินเลย ไหนจะค่าห้องพัก ค่าน้ำมันอีก ไม่เห็นตัวเราเองจะจ่ายอะไรเลย /( คือเรานี่เอ๋อเลยค่าห้องพักประมาณ2,500 ค่าน้ำมันหารกันแล้ว2,000 ส่วนเราจ่ายค่ากิน น้ำแก้วละ60 สเต็กที่เขากิน สองร้อยกว่า ซึ่งแต่ละที่ ที่เข้าไปกิน ดื่ม อาหารแพงมากสำหรับเราน่ะ เพราะมันเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วเราก็แวะพักทุกจุด ทุกร้านที่ดังในจังหวัดนั้นๆ เราตั้งงบไปเที่ยวไม่เกิน6000 ซึ่งความเป็นจริง เราหมดไป8,000+กว่า ไหนจะมีการเลี้ยงเด็กทางครอบครัวเขา จ่ายค่าเข้าชม เข้าเล่นในแต่ละที่ เรากินอะไรก็เลี้ยงเด็กๆในบางร้านที่แวะ )
สรุป เราจ่ายให้เขาไปน่ะ ค่าห้องพัก แล้วเราก็ไม่คุยกับเขาเพราะโกรธ จนข้ามวัน เขาถึงโอนเงินมาคืนเรา บอกไม่เอาหรอก พูดเล่น!!!!????
มองภาพรวม เราเองก็รู้ดีน่ะ ถ้าเล่าให้ใครฟัง เขาก็ต้องพูดว่า มันเอาเปรียบ จะทนอยู่ทำไม ทุกอย่างเป็นเงินแทบทั้งหมด
แต่เราติดใจไง ติดใจในคำพูดที่เขาพูดว่า เขาจะตั้งใจทำสิ่งที่ลงทุน ให้มันเป็นอาชีพหลัก เราจะได้ไม่ต้องทำงานประจำ เราจะได้ออกมาเป็นนายตัวเอง
ใครบ้างละ ที่ไม่อยากเป็นนายตัวเอง
แต่เราก็ไม่เห็นเส้นทางนั้นเลย
ธุรกิจ อาชีพหลักเป็นนายตัวเอง ไม่ใช่แค่เดือน 2เดือนมันจะรวยได้ทันที แต่ตอนนี้ 1ปีแล้ว ยังย้ำอยู่ที่เดิม แบะทำเงินเราที่ลงทุนไปแต่แรก จมหายไปแล้ว ตอนนี้ทำได้แค่ประคอง ไม่ให้ตัวเองล้ม โดยใช้เงินทุนจากเงินการทำงานของเรา
#เราจะหยุดพอแค่นี้ ในเรื่องการดันทุรังลงทุน
2 เราจะหยุดพอแค่นี้กับเขาเลย ดีมั้ย
ทุกอย่างจบ เริ่มนับ0 ใหม่ ทั้งคู่ชีวิต และการดำเนินชีวิต
ควรหาคนนำเรา หรือเราควรเป็นชั้นบรรไดให้เขาเหยียบเราขึ้นไป แล้วเขาจะดึงเราขึ้นไปด้วยมั้ย ถ้าเขาก้าวไปถึงจุดนั้น
ทุกอย่างมันไม่มีอะไร มั่นคง มั่นใจ เลยสักอย่าง
อยู่ต่อ หรือ พอแค่นี้
เวลาจะกินอะไรเราก็จะซื้อ×2 เผื่อเขาตลอด ไปร้านอาหาร กินข้าวนอกบ้าน เราจ่ายตลอด ใช้รถพ่อแม่เขา เราเติมน้ำมันครั้งละ300-500ต่อครั้ง ต่อวัน ถ้าจะใช้รถในวันถัดไป เราต้องเติมใหม่ ซึ่งเราไม่ได้ใช้ไปไหนไกลเลย แค่ข้าม1อำเภอ ระยะทาง ไม่ถึง 50โล ด้วยซ้ำ
จะเอาอะไร ซื้ออะไร อยากได้อะไร จะบอกเราว่ายืมก่อน ยืมลงทุนก่อน ยืมซื้อก่อน แล้วเดี๋ยวคืน จนระยะเวลานานเป็นเดือน จน2เดือน 3เดือน ก็ไม่คืน พอเราทวง ก็ทำโวยวายใส่ ว่าทำไมชอบทวง ในระยะเวลา2-3เดือน ก็ยังมีการยืมเงินตลอด บอกเอาไปลงทุน และพอไม่ให้ ก็จะชักสีหน้าใส่ ใช้คำพูดว่าแค่นี้ก็ยืมไม่ได้ เอาไปลงทุนน่ะ ไม่ได้เอาไปใช้ จนตอนนี้ ก็เงียบไม่ได้คืน แต่ยังอยู่ด้วยกัน และสิ่งที่เรียกว่าเอาไปลงทุนทำธุรกิจ ก็ยังไม่เดินหน้า
และจะมีคำพูดแปลกๆ
1 ดีเลยวันหยุดไม่ได้หยุด ประหยัดเงินค่าข้าวที่ต้องจ่ายให้ ( 30 บาท /ต่อ /2วัน/60บ.) /( เราทำงานประจำหยุดอาทิตย์ละ2วัน/ เดือนนึงหยุด8วัน)
2. เวลาชวนไปไหนจะบอกไม่มีเงิน ไม่ไปอะ
จนเราต้องบอกว่าไปเหอะ เดี๋ยวจ่ายเอง แล้วเขาก็ไป แล้วเราก็จ่ายทุกอย่าง (รู้ทั้งรู้แหละว่าเขารอคำนี้จากเราให้เราพูด แต่เราไม่ได้คิดอะไรไง เรามองว่าไม่เป็นเราจ่ายให้ ในวันนี้ที่เทอไม่มี)
3. เพื่อนยืมเงิน รีบโอนให้ทันที ใครจะเอาเอารถมาค้ำ เพื่อขอยืมเงิน ตะรีบมาขอเงินที่เรา โดยบอกว่า เดี๋ยวเขาคืนต้นให้เรา ส่วนดอกเขาเอา สรุปคือเราไม่ให้ เพราะเงินหมื่น เราไม่ไว้ใจให้ใครยืม
เขาก็ทำเป็นไม่พอใจ จนเรื่องมันลืมเลือนไป เพราะเราไม่อยากใส่ใจ เราลำคานมากเรื่องการยืมเงิน
4. เขาจะชอบชวนครอบครัวเขาไปเที่ยว ปรึกษาตกลงกันเรียบร้อย ถึงค่อยมาบอกเราว่าจะไปนั่นนี่น่ะ ไปด้วยกันสิ ค่าห้องเขาจ่าย ส่วนค่ากินตลอดทริปเราจ่ายในส่วนที่เรา2คนกินใช้ ค่าน้ำมันไปเที่ยว เขาหารคนละครึ่งกับทางครอบครัวเขา
พอจบทริป กลับมาถึงบ้าน เรายังไม่ทันได้วางกระเป๋าเดินทาง เขาพูดว่า เนี่ยไม่มีเงินเลย ไหนจะค่าห้องพัก ค่าน้ำมันอีก ไม่เห็นตัวเราเองจะจ่ายอะไรเลย /( คือเรานี่เอ๋อเลยค่าห้องพักประมาณ2,500 ค่าน้ำมันหารกันแล้ว2,000 ส่วนเราจ่ายค่ากิน น้ำแก้วละ60 สเต็กที่เขากิน สองร้อยกว่า ซึ่งแต่ละที่ ที่เข้าไปกิน ดื่ม อาหารแพงมากสำหรับเราน่ะ เพราะมันเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วเราก็แวะพักทุกจุด ทุกร้านที่ดังในจังหวัดนั้นๆ เราตั้งงบไปเที่ยวไม่เกิน6000 ซึ่งความเป็นจริง เราหมดไป8,000+กว่า ไหนจะมีการเลี้ยงเด็กทางครอบครัวเขา จ่ายค่าเข้าชม เข้าเล่นในแต่ละที่ เรากินอะไรก็เลี้ยงเด็กๆในบางร้านที่แวะ )
สรุป เราจ่ายให้เขาไปน่ะ ค่าห้องพัก แล้วเราก็ไม่คุยกับเขาเพราะโกรธ จนข้ามวัน เขาถึงโอนเงินมาคืนเรา บอกไม่เอาหรอก พูดเล่น!!!!????
มองภาพรวม เราเองก็รู้ดีน่ะ ถ้าเล่าให้ใครฟัง เขาก็ต้องพูดว่า มันเอาเปรียบ จะทนอยู่ทำไม ทุกอย่างเป็นเงินแทบทั้งหมด
แต่เราติดใจไง ติดใจในคำพูดที่เขาพูดว่า เขาจะตั้งใจทำสิ่งที่ลงทุน ให้มันเป็นอาชีพหลัก เราจะได้ไม่ต้องทำงานประจำ เราจะได้ออกมาเป็นนายตัวเอง
ใครบ้างละ ที่ไม่อยากเป็นนายตัวเอง
แต่เราก็ไม่เห็นเส้นทางนั้นเลย
ธุรกิจ อาชีพหลักเป็นนายตัวเอง ไม่ใช่แค่เดือน 2เดือนมันจะรวยได้ทันที แต่ตอนนี้ 1ปีแล้ว ยังย้ำอยู่ที่เดิม แบะทำเงินเราที่ลงทุนไปแต่แรก จมหายไปแล้ว ตอนนี้ทำได้แค่ประคอง ไม่ให้ตัวเองล้ม โดยใช้เงินทุนจากเงินการทำงานของเรา
#เราจะหยุดพอแค่นี้ ในเรื่องการดันทุรังลงทุน
2 เราจะหยุดพอแค่นี้กับเขาเลย ดีมั้ย
ทุกอย่างจบ เริ่มนับ0 ใหม่ ทั้งคู่ชีวิต และการดำเนินชีวิต
ควรหาคนนำเรา หรือเราควรเป็นชั้นบรรไดให้เขาเหยียบเราขึ้นไป แล้วเขาจะดึงเราขึ้นไปด้วยมั้ย ถ้าเขาก้าวไปถึงจุดนั้น
ทุกอย่างมันไม่มีอะไร มั่นคง มั่นใจ เลยสักอย่าง