บอสพาชิม : Gaston Bangkok (Bangkok, Thailand)
วันนี้ผมขอพาทุกท่านมาชิมอาหารที่ห้องอาหารแห่งใหม่ของ โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok อย่าง GASTON ที่ขึ้นแท่นร้านประจำร้านใหม่ของผมอย่างไม่ต้องคิดเพราะคุณภาพอาหารและราคาที่คุ้มค่ามาก ตอนนี้มีโปรหลากหลายบัตรเครดิตอย่าง Citibank Ultima / UOB VISA Infinite ลดอาหาร 35%, TTB ลด 30% ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม, SCB ลดอาหาร 20-30% , KTC Journey KTC ลด20% ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม
ร้านอาหารสไตล์ ‘เฟรนช์-บิสโทร’ ที่มีจานเด็ดคือสเต็กสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง entrecôte อาหารที่นี้ไม่ได้มีเพียงสเต็กแต่ยังมีอาหารคลาสสิกเฟรนช์จานอื่นๆ ที่ทุกจานล้วนปรุงรสมาเเบบฝรั่งเศสเเท้ๆเพราะไม่ใช่เเค่เชฟใหญ่อย่าง Chef David Senia ของโรงแรมจะเป็นคนฝรั่งเศสเเล้ว เชฟของร้านอย่าง Chef Federico ก็เป็นชาวฝรั่งเศส เรียกจะหาร้านที่พูดว่าฝรั่งเศสในไทยได้มากกว่านี้คงมีไม่กี่ร้านเเล้วละครับ
GASTON คงเป็นตัวเลือกใหม่ในใจของผมสำหรับร้านอาหารบรรยากาศดีๆไว้ใช้พบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงหลังเลิกงานเพราะทำเลนั้นเดินทางสะดวกไม่ต้องฝ่ารถติดหลังเลิกงาน และเรายังสามารถเลือกโซนที่เงียบสงบบรรยากาศอบอุ่นแบบ ‘เฟรนช์-บิสโทร’ หรือจะเลือกโซนใกล้วงดรตรีที่จะสลับผลัดเปลี่ยนมาบรรเลงเพลงในทุกวันสุดสัปดาห์ แอบกระซิบนิดนึงว่า Cocktail พอรวมกับโปรบัตรเครดิตที่มีเกือบครบทุกธนาคารเเล้วนี้โคตรจะคุ้มครับ อย่าง Pampelle Piscine หรือ Saint-Germain Spritz ที่ผมได้ลองในวันนี้ก็ใช้ liquor จากฟรั่งเศสเป็นส่วนผสมในการทำ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายแล้วมันดีมากๆ
พูดถึงเรื่องกินกันดีกว่า อาหารที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูคลาสสิก French-Bistro ทุกจานล้วนปรุงออกมาในสไตล์ต้นตำรับอย่างปราณีต ตัววัตถุดิบหลายอย่างนี้ดีเกินคาดกับราคาเลยครับ โดยเฉพาะพวกซีฟู้ดต่างๆ เราจะพบจานที่หาได้ยากในไทยอย่างสลัด Endive และบลูชีส หรืออีกจานโปรดของผมที่ไม่ค่อยมีร้านไหนเสริฟ์อย่าง Couteaux en persillade ที่ razor clam ดีมากครับ สด ตัวใหญ่ อบมาไม่สุกเกินไปจนเหนียว
ทีเด็ดอีกจานเห็นจะเป็น La Formule สเต็กย่างสไตล์ฝรั่งเศสสำหรับสองท่านที่เสิร์ฟมากับสลัดและเฟรนฟรายส์แบบไมอั้น ในวันนี้ผมเลือกเป็นแกะเสิร์ฟมาพร้อมกับซอส Cafe de Paris อย่างคลาสสิก ผมเคยกินซอสตัวนี้มาหลายร้านแล้ว ต้องบอกว่าซอสของที่นี้ทำออกมาได้ดีมีมิติและไม่หนักเลี่ยนมากจนเราสามารถทานได้เรื่อยๆ ตัวเนื้อก็ย่างมาได้ดี เป็นอีกจานที่อยากแนะนำครับ
DRINKS
เครื่องดื่มในวันนี้มีสองตัวครับ
• Pampelle Piscine (pampelle, lillet blanc, sauvignon blanc, sparkling wine)
Pampelleแปลว่าเกรฟฟรุ๊ต Piscine แปลว่าสระว่ายน้ำ มันประกอบด้วยไวน์และเหล้าฝรั่งเศสที่โดงดังจากเจมส์บอนด์ มาผสมกับน้ำเกรฟฟรุ๊ตได้อย่างลงตัว เป็นcocktail ดื่มง่ายๆ รสสดชื่น
• Saint-Germain Spritz (gin, Saint-Germain, elderflower liqueur, cucumber, lemonade)
แก้วนี้กลิ่นสดชื่นดอกเอลเดอร์ฟลาเวอร์กับกลิ่นแตงกวาผสมผสานได้อย่างลงตัวเป็นอีกแก้วที่สามารถทานได้เรื่อยๆ สดชื่นแม้จะไม่ใช่สไตล์ซิตรัสจ้าครับ
Amuse Bouche
ของทานเล่นระหว่างรออาหาร จะมี saucisson หรือไส้กรอกแบบฟรั่งเศส , Onion tartหรือทาร์ตหัวหอม , tomato pickle หรือมะเขือเทศดอง
ENTRÉES FROIDES (Cold Starters)
• Salade d’endive au bleu (endive, blue cheese, walnut, apple, honey, hazelnut dressing)
สลัดอองดีฟกับบูลชีส แค่บูลชีสก็หาร้านเสริฟ์ยากแล้วเเต่นี้ยังเสริฟ์มากับสลัดอองดีฟอีก จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะรสหนักครีมมี่กว่านี้แต่เชฟบาลานซ์รสได้ดีมากครับ อองดีฟทีมีรสขมอ่อนๆเข้ากันได้ดีกับรสของแฮเซลนัทที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับความหวานของน้ำผึ้ง หลายคนที่ไม่ชอบชีสกลิ่นฉุนอย่างบูลชีส ผมแนะนำให้ลองเปิดใจสักครั้ง กลิ่นเฉพาะตัวของมันไม่ค่อยแรงนักพอรับประทานกับน้ำผึ้ง เป็นจานที่ดูง่ายๆต่ลงตัวอร่อยมากครับ
• Carpaccio d’espadon (yellowtail, lemon, orange, spring onion, fennel)
คาปัชโช่ปลาฮามาจิเป็นจานต่อมาโดยเชฟเลือกเสริฟ์ปลาฮามาจิมากับน้ำเลม่อนน้ำส้ม ต้นหอมและเฟนเนล ผมชอบรสสดชื่นเปรี้ยวโปร่งของเลม่อนนำตามด้วยรสหวานจากส้ม กลิ่นเย็นเฉพาะตัวของเฟนเนลและรสฉุนของหอมหัวใหญ่นั้นช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้เป็นอย่างดี ผมรู้สึกว่าสดชื่นของซอสนั้นทำให้ปลาที่รสมันมากอย่างฮามาจิหนักไปจนเราสามารถทานได้เรื่อยๆ
ENTRÉES CHAUDES (Hot Starters)
• Couteaux en persillade (baked razor clams, garlic & herbs)
จานนี้เป็นจานที่ผมชอบมากๆจานนึงในวันนี้ครับ ในกรุงเทพนั้นหาร้านที่รับประทาน Razor clam คุณภาพดีได้ยาก โดยเชฟนำมันไปอบกกับเนยกระเทียมและสมุนไพรแบบฟรั่งเศส หอยในวันนี้คุณภาพดีครับสดมาก เชฟก็อบมาได้อย่างเหมาะสมไม่สุกไปจนเหนียวความหนึบหนับอันมีเอกลักษณ์ของมันในปาก รสอุมามิของหอย และรสเนยกระเทียมที่ไม่จัดจนเกินไปนั้นสร้างความสนุกสนานในปากได้เป็นอย่างดีครับ
LA FORMULE SET (THB 1,790)
• Salade Verte aux Pignons de Pins (green salad, roasted pinenuts, mustard vinaigrette)
• Côtelettes d’agneau grillées (grilled AUS lamb chops) / Sauce: Café de Paris (herb butter)
• Frites Maison à Volonté (free-flow French fries)
จานนี้เราสามารถเนื้อได้สามชนิดคือ แกะ เนื้อวัว และกุ้งลายเสือ และเลือกซอสได้หลายตัวจากเมนูร้านแต่ผมแนะนำให้ลองซอสCafé de Parisที่ใช้วัตถุดิบรวม13ชนิดอย่างเนยฟรั่งเศส สมุนไพรต่างๆ และ แองโชวี่ ส่วนเครื่องเคียงที่มีในชุดคือ สลัดและเฟรนฟรายด์แบบไม่อั้น
อันแรกที่ต้องชื่นชมคือตัวซอสที่ทำออกมาได้ดีสมกับที่บริกรแนะนำครับตัวซอสเเม้จะเป็นเบสท์เนยนั้นแต่ซอสทำออกมาได้อย่างปราณีตเนื้อเนียนไม่แตกตัวแม้จะถูกอุ่นด้วยไฟ กลิ่นที่สลับซับซ้อนของสมุนไพรนานาชนิดที่ผสมผสานอย่างลงตัวนั้นสร้างความแตกต่างให้กับซอสของที่นี่และทำให้ไม่รู้สึกเกินไปแม้จะมีส่วนประกอบหลักคือเนยก็ตามแองโชวี่ที่ใส่มาอย่างพอเหมาะช่วยเพิ่มรสเค็มอ่อนๆให้กับซอส ทำได้ดีมากครับ เนื้อเเกะก็สามารถย่างออกมาได้ดี เนื้อฉ่ำสุกแบบมิเดียมเเรร์ ผิวมีความกรอบครัชบางๆเนื้อไม่สาปคาว
ของเด็ดอีกย่างของที่นี้คือเฟรนด์ฟรายครับ หากเทียบกับของปกติแล้วที่นี้จะมีความเรียวบางและชิ้นเล็กกว่า ทำให้มีความกรอบทั่วทั้งชิ้นเหมาะสมกับการใช้เป็นกับแกล้มเป็นอย่างมาก
TERRE (Meat)
• Tagliatelle gambas et artichaut (pan seared prawns, artichoke barigoule jus)
จานนี้เอาจริงคือสุดยอดครับ ผสมผสานอาหารจานคลาสสิกของโปรว้องซ์อย่างartichoke barigoule กับเส้นTagliatelleและกุ้งลายเสือได้อย่างลงตัว อันดับแรกคือการเลือกใช้เส้นตัวนี้ผมว่ามันเข้ากับซอสครีมอย่างbarigouleได้ดี ด้วยความที่มันเสริฟ์มากับอาติโช้ค รสเฉพาะของมันช่วยให้จานนี้ไม่รู้สึกหนักเลี่ยนจนเกินไปจนกลบรสของกุ้งเนื้อเด้งครับ
DESSERTS
• Tarte au Whisky glacée (caramelized Whisky ice cream cake)
จานนี้กินเปล่าๆนี้ก็ทำให้เมาได้ ตัวไอซ์ครีมที่นี้เนื้อเบาเนียนเนื้อฟเบาไม่เเน่นทำให้ทานได้เรื่อย ที่เป็นหมัดเด็ดในจานนี้เลยคือกลิ่นวิสกี้ที่มีกลิ่นอายความหอมคล้ายกล้วยด้วยนิดๆ ผสมผสานกับกลิ่นวนิลาได้อย่างน่าสนใจ ถ้าใครเป็นสายเเข็งที่ชอบขนมหวานผมแนะนำให้ลองสั่งจานนี้ดูครับ
• Tarte aux fraises, crémeux à la vanille (strawberry tart, white chocolate and vanilla custard)
อีกจานคลาสสิกของฝฝรั่งเศส ทาร์ตสตอเบอร์รี่ จานนี้เชฟเชื่อมสตอเบอร์รี่มานิดๆและตบแต่งอย่างสวยงามทำให้มันรสไม่เปรี้ยวโดดนักแต่ยังมีความเปรี้ยวอมหวานเฉพาะตัวที่ชวนให้อยากรับประทานเรื่อยๆ แป้งทาร์ตไม่แข็งมาก ครีมไม่แน่นไป แยมตรงกลางหวานอมเปรี้ยว สลับเปลี่ยนกับสตอเบอร์รี่สด ทำได้เยี่ยมมากครับ
[SR] บอสพาชิม : Gaston Bangkok @ Hyatt Erawan
วันนี้ผมขอพาทุกท่านมาชิมอาหารที่ห้องอาหารแห่งใหม่ของ โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok อย่าง GASTON ที่ขึ้นแท่นร้านประจำร้านใหม่ของผมอย่างไม่ต้องคิดเพราะคุณภาพอาหารและราคาที่คุ้มค่ามาก ตอนนี้มีโปรหลากหลายบัตรเครดิตอย่าง Citibank Ultima / UOB VISA Infinite ลดอาหาร 35%, TTB ลด 30% ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม, SCB ลดอาหาร 20-30% , KTC Journey KTC ลด20% ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม
ร้านอาหารสไตล์ ‘เฟรนช์-บิสโทร’ ที่มีจานเด็ดคือสเต็กสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง entrecôte อาหารที่นี้ไม่ได้มีเพียงสเต็กแต่ยังมีอาหารคลาสสิกเฟรนช์จานอื่นๆ ที่ทุกจานล้วนปรุงรสมาเเบบฝรั่งเศสเเท้ๆเพราะไม่ใช่เเค่เชฟใหญ่อย่าง Chef David Senia ของโรงแรมจะเป็นคนฝรั่งเศสเเล้ว เชฟของร้านอย่าง Chef Federico ก็เป็นชาวฝรั่งเศส เรียกจะหาร้านที่พูดว่าฝรั่งเศสในไทยได้มากกว่านี้คงมีไม่กี่ร้านเเล้วละครับ
GASTON คงเป็นตัวเลือกใหม่ในใจของผมสำหรับร้านอาหารบรรยากาศดีๆไว้ใช้พบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงหลังเลิกงานเพราะทำเลนั้นเดินทางสะดวกไม่ต้องฝ่ารถติดหลังเลิกงาน และเรายังสามารถเลือกโซนที่เงียบสงบบรรยากาศอบอุ่นแบบ ‘เฟรนช์-บิสโทร’ หรือจะเลือกโซนใกล้วงดรตรีที่จะสลับผลัดเปลี่ยนมาบรรเลงเพลงในทุกวันสุดสัปดาห์ แอบกระซิบนิดนึงว่า Cocktail พอรวมกับโปรบัตรเครดิตที่มีเกือบครบทุกธนาคารเเล้วนี้โคตรจะคุ้มครับ อย่าง Pampelle Piscine หรือ Saint-Germain Spritz ที่ผมได้ลองในวันนี้ก็ใช้ liquor จากฟรั่งเศสเป็นส่วนผสมในการทำ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายแล้วมันดีมากๆ
พูดถึงเรื่องกินกันดีกว่า อาหารที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูคลาสสิก French-Bistro ทุกจานล้วนปรุงออกมาในสไตล์ต้นตำรับอย่างปราณีต ตัววัตถุดิบหลายอย่างนี้ดีเกินคาดกับราคาเลยครับ โดยเฉพาะพวกซีฟู้ดต่างๆ เราจะพบจานที่หาได้ยากในไทยอย่างสลัด Endive และบลูชีส หรืออีกจานโปรดของผมที่ไม่ค่อยมีร้านไหนเสริฟ์อย่าง Couteaux en persillade ที่ razor clam ดีมากครับ สด ตัวใหญ่ อบมาไม่สุกเกินไปจนเหนียว
ทีเด็ดอีกจานเห็นจะเป็น La Formule สเต็กย่างสไตล์ฝรั่งเศสสำหรับสองท่านที่เสิร์ฟมากับสลัดและเฟรนฟรายส์แบบไมอั้น ในวันนี้ผมเลือกเป็นแกะเสิร์ฟมาพร้อมกับซอส Cafe de Paris อย่างคลาสสิก ผมเคยกินซอสตัวนี้มาหลายร้านแล้ว ต้องบอกว่าซอสของที่นี้ทำออกมาได้ดีมีมิติและไม่หนักเลี่ยนมากจนเราสามารถทานได้เรื่อยๆ ตัวเนื้อก็ย่างมาได้ดี เป็นอีกจานที่อยากแนะนำครับ
DRINKS
เครื่องดื่มในวันนี้มีสองตัวครับ
• Pampelle Piscine (pampelle, lillet blanc, sauvignon blanc, sparkling wine)
Pampelleแปลว่าเกรฟฟรุ๊ต Piscine แปลว่าสระว่ายน้ำ มันประกอบด้วยไวน์และเหล้าฝรั่งเศสที่โดงดังจากเจมส์บอนด์ มาผสมกับน้ำเกรฟฟรุ๊ตได้อย่างลงตัว เป็นcocktail ดื่มง่ายๆ รสสดชื่น
• Saint-Germain Spritz (gin, Saint-Germain, elderflower liqueur, cucumber, lemonade)
แก้วนี้กลิ่นสดชื่นดอกเอลเดอร์ฟลาเวอร์กับกลิ่นแตงกวาผสมผสานได้อย่างลงตัวเป็นอีกแก้วที่สามารถทานได้เรื่อยๆ สดชื่นแม้จะไม่ใช่สไตล์ซิตรัสจ้าครับ
Amuse Bouche
ของทานเล่นระหว่างรออาหาร จะมี saucisson หรือไส้กรอกแบบฟรั่งเศส , Onion tartหรือทาร์ตหัวหอม , tomato pickle หรือมะเขือเทศดอง
ENTRÉES FROIDES (Cold Starters)
• Salade d’endive au bleu (endive, blue cheese, walnut, apple, honey, hazelnut dressing)
สลัดอองดีฟกับบูลชีส แค่บูลชีสก็หาร้านเสริฟ์ยากแล้วเเต่นี้ยังเสริฟ์มากับสลัดอองดีฟอีก จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะรสหนักครีมมี่กว่านี้แต่เชฟบาลานซ์รสได้ดีมากครับ อองดีฟทีมีรสขมอ่อนๆเข้ากันได้ดีกับรสของแฮเซลนัทที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับความหวานของน้ำผึ้ง หลายคนที่ไม่ชอบชีสกลิ่นฉุนอย่างบูลชีส ผมแนะนำให้ลองเปิดใจสักครั้ง กลิ่นเฉพาะตัวของมันไม่ค่อยแรงนักพอรับประทานกับน้ำผึ้ง เป็นจานที่ดูง่ายๆต่ลงตัวอร่อยมากครับ
• Carpaccio d’espadon (yellowtail, lemon, orange, spring onion, fennel)
คาปัชโช่ปลาฮามาจิเป็นจานต่อมาโดยเชฟเลือกเสริฟ์ปลาฮามาจิมากับน้ำเลม่อนน้ำส้ม ต้นหอมและเฟนเนล ผมชอบรสสดชื่นเปรี้ยวโปร่งของเลม่อนนำตามด้วยรสหวานจากส้ม กลิ่นเย็นเฉพาะตัวของเฟนเนลและรสฉุนของหอมหัวใหญ่นั้นช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้เป็นอย่างดี ผมรู้สึกว่าสดชื่นของซอสนั้นทำให้ปลาที่รสมันมากอย่างฮามาจิหนักไปจนเราสามารถทานได้เรื่อยๆ
ENTRÉES CHAUDES (Hot Starters)
• Couteaux en persillade (baked razor clams, garlic & herbs)
จานนี้เป็นจานที่ผมชอบมากๆจานนึงในวันนี้ครับ ในกรุงเทพนั้นหาร้านที่รับประทาน Razor clam คุณภาพดีได้ยาก โดยเชฟนำมันไปอบกกับเนยกระเทียมและสมุนไพรแบบฟรั่งเศส หอยในวันนี้คุณภาพดีครับสดมาก เชฟก็อบมาได้อย่างเหมาะสมไม่สุกไปจนเหนียวความหนึบหนับอันมีเอกลักษณ์ของมันในปาก รสอุมามิของหอย และรสเนยกระเทียมที่ไม่จัดจนเกินไปนั้นสร้างความสนุกสนานในปากได้เป็นอย่างดีครับ
LA FORMULE SET (THB 1,790)
• Salade Verte aux Pignons de Pins (green salad, roasted pinenuts, mustard vinaigrette)
• Côtelettes d’agneau grillées (grilled AUS lamb chops) / Sauce: Café de Paris (herb butter)
• Frites Maison à Volonté (free-flow French fries)
จานนี้เราสามารถเนื้อได้สามชนิดคือ แกะ เนื้อวัว และกุ้งลายเสือ และเลือกซอสได้หลายตัวจากเมนูร้านแต่ผมแนะนำให้ลองซอสCafé de Parisที่ใช้วัตถุดิบรวม13ชนิดอย่างเนยฟรั่งเศส สมุนไพรต่างๆ และ แองโชวี่ ส่วนเครื่องเคียงที่มีในชุดคือ สลัดและเฟรนฟรายด์แบบไม่อั้น
อันแรกที่ต้องชื่นชมคือตัวซอสที่ทำออกมาได้ดีสมกับที่บริกรแนะนำครับตัวซอสเเม้จะเป็นเบสท์เนยนั้นแต่ซอสทำออกมาได้อย่างปราณีตเนื้อเนียนไม่แตกตัวแม้จะถูกอุ่นด้วยไฟ กลิ่นที่สลับซับซ้อนของสมุนไพรนานาชนิดที่ผสมผสานอย่างลงตัวนั้นสร้างความแตกต่างให้กับซอสของที่นี่และทำให้ไม่รู้สึกเกินไปแม้จะมีส่วนประกอบหลักคือเนยก็ตามแองโชวี่ที่ใส่มาอย่างพอเหมาะช่วยเพิ่มรสเค็มอ่อนๆให้กับซอส ทำได้ดีมากครับ เนื้อเเกะก็สามารถย่างออกมาได้ดี เนื้อฉ่ำสุกแบบมิเดียมเเรร์ ผิวมีความกรอบครัชบางๆเนื้อไม่สาปคาว
ของเด็ดอีกย่างของที่นี้คือเฟรนด์ฟรายครับ หากเทียบกับของปกติแล้วที่นี้จะมีความเรียวบางและชิ้นเล็กกว่า ทำให้มีความกรอบทั่วทั้งชิ้นเหมาะสมกับการใช้เป็นกับแกล้มเป็นอย่างมาก
TERRE (Meat)
• Tagliatelle gambas et artichaut (pan seared prawns, artichoke barigoule jus)
จานนี้เอาจริงคือสุดยอดครับ ผสมผสานอาหารจานคลาสสิกของโปรว้องซ์อย่างartichoke barigoule กับเส้นTagliatelleและกุ้งลายเสือได้อย่างลงตัว อันดับแรกคือการเลือกใช้เส้นตัวนี้ผมว่ามันเข้ากับซอสครีมอย่างbarigouleได้ดี ด้วยความที่มันเสริฟ์มากับอาติโช้ค รสเฉพาะของมันช่วยให้จานนี้ไม่รู้สึกหนักเลี่ยนจนเกินไปจนกลบรสของกุ้งเนื้อเด้งครับ
DESSERTS
• Tarte au Whisky glacée (caramelized Whisky ice cream cake)
จานนี้กินเปล่าๆนี้ก็ทำให้เมาได้ ตัวไอซ์ครีมที่นี้เนื้อเบาเนียนเนื้อฟเบาไม่เเน่นทำให้ทานได้เรื่อย ที่เป็นหมัดเด็ดในจานนี้เลยคือกลิ่นวิสกี้ที่มีกลิ่นอายความหอมคล้ายกล้วยด้วยนิดๆ ผสมผสานกับกลิ่นวนิลาได้อย่างน่าสนใจ ถ้าใครเป็นสายเเข็งที่ชอบขนมหวานผมแนะนำให้ลองสั่งจานนี้ดูครับ
• Tarte aux fraises, crémeux à la vanille (strawberry tart, white chocolate and vanilla custard)
อีกจานคลาสสิกของฝฝรั่งเศส ทาร์ตสตอเบอร์รี่ จานนี้เชฟเชื่อมสตอเบอร์รี่มานิดๆและตบแต่งอย่างสวยงามทำให้มันรสไม่เปรี้ยวโดดนักแต่ยังมีความเปรี้ยวอมหวานเฉพาะตัวที่ชวนให้อยากรับประทานเรื่อยๆ แป้งทาร์ตไม่แข็งมาก ครีมไม่แน่นไป แยมตรงกลางหวานอมเปรี้ยว สลับเปลี่ยนกับสตอเบอร์รี่สด ทำได้เยี่ยมมากครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้