*นี่เป็นเพียงความคิดเห็นจากผู้ชมรายการเท่านั้น*
หลังจากรายการได้ชมตอนที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เห็นมากขึ้นว่ารายการใช้การตัดต่อเพื่อช่วยสร้างเส้นเรื่องของผู้เข้าแข่งขันและองค์ประกอบในรายการอย่างชัดเจน
เช่น ในช่วงครึ่งแรก เราจะให้ได้ชัดว่ากรรมการผู้ตัดสินมีความยืดหยุ่นในการให้คะแนนสูงมากทั้งๆที่เป็นท่านเดียวกัน บางจานที่ไม่สมควรได้คะแนนแต่ก็ได้คะแนนความพยายาม(?) ซึ่งส่งผลให้จานสุดท้ายจะเป็นตัวตัดสิน
ในส่วนของบทบาทของผู้เข้าแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก็จะมีบทบาทที่ทางรายการวางไว้ให้ เพื่อที่จะผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับรายการได้ง่ายขึ้นในแต่ละตอนจะมีผู้เข้าแข่งขันไม่กี่คนที่โดดเด่นมาจากคนอื่น โดยในการถ่ายทำใช้เวลานานกว่าเวลาออกอากาศมากดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทางโปรดิวเซอร์คิดว่าน่าสนใจจะถูกนำมาออกอากาศโดยใช้การ confess ของผู้เข้าแข่งขันมาช่วยไกด์ความเข้าใจของผู้ชมซึ่งจะผลต่อความรู้สึกที่มีต่อผู้เข้าแข่งขันนั้นๆ
ทั้งนี้เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าในการถ่ายทำเกิดอะไรขึ้นบาง ผู้เข้าแข่งขันพลาดมากน้อยแค่ไหน บางเหตุการณ์อาจจะเป็นเพียงแค่เหตุการการณ์เล็กน้อยเมื่อเทียบกับการถ่ายทำทั้งหมด
โดยdrama material ส่วนใหญ่ที่เราสังเกตแล้วจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย เช่น ทักษะในการทำงานหรือความรับผิดชอบ มากกว่าทักษะในการทำอาหาร เนื่องจากคนทั่วไปจะรู้สึกมีส่วนร่วมได้ง่ายกว่า ในส่วนนี้สามารถสังเกตได้ชัดขึ้นเมื่อผู้เข้าแข่งขันคนนั้นถูกโหวตออก
การedit ถูกนำมาใช้เพื่อวางเส้นเรื่องและวางบทบางของแต่ละผู้เข้าแข่งขันเพื่อง่ายต่อผู้ชมว่าควรจะเชียร์ผู้เข้าแข่งขันคนไหน โดยใช้องค์ประกอบข้างต้น
เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ good edit [+] กับ bad edit [-] โดยเราจะขอพูดถึงความคิดเห็นของเราต่อผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่าน
ทีมแดง
1. เชฟบิว [+] hero edit
สำหรับเราก่อนที่จะเข้าสู่ตอนที่3 เรามองว่าบทบาทของเชฟบิวในทีมสีน้ำเงินยังไม่โดดเด่น (เราจำได้ว่าเชฟบิวโดนให้ออกจากครัว 1ครั้ง) ซึ่งตอนที่ทางทีมสีแดงได้สิทธิในการsteal ในตอนแรกเราคิดว่าจะเลือก’เชฟเก่ง’ แต่ทางทีมสีแดงได้เลือกเชฟบิวมา
เมื่อเข้าสู่ตอนที่4 ทำให้เห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เชฟบิวมีส่วนสำคัญอย่างมากในชัยชนะของทีมสีแดง
สำหรับแล้วตอนนี้ยกให้เป็น the rise of เชฟบิว เลย
2. เชฟเคอร์ [+] underdog edit
เชฟเคอร์เป็นคนที่ถูกวางเส้นเรื่องคนแรกในรายการ และมีบทบาทโดดเด่นมากในตอนที่1-3
ในตอนที่1 เส้นเรื่องของเชฟเคอร์เริ่มตั้งแต่การแย่งโจทย์ในการทำอาหาร และการออกมาปกป้องเชฟมาลีว่าไม่ควรโดนคัดออก
ในตอนที่2 เชฟเคอร์ที่รับผิดชอบappetizer ถูกเลือกให้โดนคัดออก ทั้งที่ควรจะเป็นความรับผิดชอบของseafood มากกว่า
ในตอนที่3 เชฟเคอร์โดนให้ออกจากครัว (ซึ่งรายการแสดงให้การโชว์สปิริตที่จะทำต่อ และมีconfess จากเชฟลูกจรรย์มาเสริม) และการที่เชฟเคอร์ยอมรับผิดต่อหน้าคณะกรรมการ
3. สามเชฟ [-] bad edit
บางการกระทำของเชฟทั้งสามท่าน มักจะมีconfess ของผู้เข้าแข่งคนอื่นทั้งจากทีมแดงและน้ำเงินมาแย้งอยู่เรื่อยๆซึ่งมีตั้งแต่ตอนที่1-4
โดยในตอนที่4 (ล่าสุด) ถือว่าเป็นตอนที่มีเส้นเรื่องนี้เบาที่สุดแต่ทางรายการน่าจะยังคงใช้เส้นเรื่องนี้เพื่อเหตุผลบางอย่างอยู่ จึงยังมีการเสริมเข้ามา
4. เชฟลูกจรรย์ เชฟจิ๊บ [=]
เป็นสองคนที่ทำได้ดีในการทำอาหารตามโจทย์ของรายการเสมอๆ
เชฟลูกจรรย์ มักจะถูกunderrated ในเรื่องของประสบการณ์แต่ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ดี
เชฟจิ๊บ เคยถูกเลือกให้คัดออกเนื่องการscallop ที่ไม่สุกดีในตอนที่1 แต่ในตอนนั้นรายการเน้นไปที่เส้นเรื่องของเชฟมาลี และทีมสีน้ำเงินมากกว่า (ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของเราเชฟจิ๊บควรจะsafe)
ทีมน้ำเงิน
1. เชฟเจมส์ [-] delusional edit
ความคิดเห็นของผู้ชมทางบ้านที่มีต่อเชฟเจมส์ออกมาในลักษณะเดียวกัน โดยมากมักจะติเรื่องของความมั่นใจ
เชฟเจมส์มีผลงานในช่วงของการทำอาหารตามโจทย์ของรายการที่ไม่ดี และรายการมักจะทำให้เห็นว่าexecution ยังไปไม่ถึง
โดยในตอนที่4 นี้ เชฟถูกเลือกให้คัดออกโดยทีมสีน้ำเงิน แม้ว่าทางคณะกรรมการจะไม่เห็นด้วย และมองว่าเชฟพริกเผ็ชควรออกจากรายการ
แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆของรายการทั้งในตอนที่ผ่านมาและตอนที่4 ทำให้การคัดออกในครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนของทีมสีน้ำเงินอีกครั้ง และเราคาดว่าเส้นเรื่องของตอนต่อไป
2. เชฟปิเอโร่ [=] underdog edit
เชฟปิเอโร่เป็นมวยรองที่ต่างจากเชฟเคอร์และเบากว่า ในแง่ที่รายการจะให้ติดตามพัฒนาการของผู้เข้าแข่งขันกับการทำงานในประเทศไทยมากกว่า เช่น การเล่นมุกแทงข้างหลัง การทายสุภาษิต การทำขนมข้าวตู ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
3. เชฟเก่ง เชฟเบีย เชฟมารวย [=]
เป็นสามคนที่ทำได้ดีในช่วงของการทำอาหารตามโจทย์ของรายการ โดยเชฟเก่งโดดเด่นที่สุดในสามคนนี้ แต่ด้วยเส้นเรื่องของทีมสีแดงทำให้ในสัปดาห์ที่ทีมสีน้ำเงินชนะ ทีมสีแดงมักจะมีเส้นเรื่องที่เข้มข้นกว่า
จะเห็นได้ว่าจาก 4 ตอน ที่ผ่านมา การวางเรื่องของรายการโดยมากจะไปอยู่ในทีมสีแดงมากกว่าสีน้ำเงิน ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในตอนต่อไป และขอย้ำอีกครั้งว่าชั่วโมงครึ่งที่รายการออกอากาศ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการถ่ายทำเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่านมีความกดดันและปัจจัยอื่นๆ เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ผู้เข้าแข่งขันที่น่าจับตามองตอนนี้คงไม่พ้น เชฟบิว ที่เป็นพระเอกของตอนที่4 กับ เชฟเคอร์ ที่เป็นนางเอกในสามตอนแรก
[มีสปอย] พูดคุยเรื่อง Storytelling หลังจากดู Hell’s Kitchen Thailand EP.4
หลังจากรายการได้ชมตอนที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เห็นมากขึ้นว่ารายการใช้การตัดต่อเพื่อช่วยสร้างเส้นเรื่องของผู้เข้าแข่งขันและองค์ประกอบในรายการอย่างชัดเจน
เช่น ในช่วงครึ่งแรก เราจะให้ได้ชัดว่ากรรมการผู้ตัดสินมีความยืดหยุ่นในการให้คะแนนสูงมากทั้งๆที่เป็นท่านเดียวกัน บางจานที่ไม่สมควรได้คะแนนแต่ก็ได้คะแนนความพยายาม(?) ซึ่งส่งผลให้จานสุดท้ายจะเป็นตัวตัดสิน
ในส่วนของบทบาทของผู้เข้าแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก็จะมีบทบาทที่ทางรายการวางไว้ให้ เพื่อที่จะผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับรายการได้ง่ายขึ้นในแต่ละตอนจะมีผู้เข้าแข่งขันไม่กี่คนที่โดดเด่นมาจากคนอื่น โดยในการถ่ายทำใช้เวลานานกว่าเวลาออกอากาศมากดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทางโปรดิวเซอร์คิดว่าน่าสนใจจะถูกนำมาออกอากาศโดยใช้การ confess ของผู้เข้าแข่งขันมาช่วยไกด์ความเข้าใจของผู้ชมซึ่งจะผลต่อความรู้สึกที่มีต่อผู้เข้าแข่งขันนั้นๆ
ทั้งนี้เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าในการถ่ายทำเกิดอะไรขึ้นบาง ผู้เข้าแข่งขันพลาดมากน้อยแค่ไหน บางเหตุการณ์อาจจะเป็นเพียงแค่เหตุการการณ์เล็กน้อยเมื่อเทียบกับการถ่ายทำทั้งหมด
โดยdrama material ส่วนใหญ่ที่เราสังเกตแล้วจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย เช่น ทักษะในการทำงานหรือความรับผิดชอบ มากกว่าทักษะในการทำอาหาร เนื่องจากคนทั่วไปจะรู้สึกมีส่วนร่วมได้ง่ายกว่า ในส่วนนี้สามารถสังเกตได้ชัดขึ้นเมื่อผู้เข้าแข่งขันคนนั้นถูกโหวตออก
การedit ถูกนำมาใช้เพื่อวางเส้นเรื่องและวางบทบางของแต่ละผู้เข้าแข่งขันเพื่อง่ายต่อผู้ชมว่าควรจะเชียร์ผู้เข้าแข่งขันคนไหน โดยใช้องค์ประกอบข้างต้น
เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ good edit [+] กับ bad edit [-] โดยเราจะขอพูดถึงความคิดเห็นของเราต่อผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่าน
ทีมแดง
1. เชฟบิว [+] hero edit
สำหรับเราก่อนที่จะเข้าสู่ตอนที่3 เรามองว่าบทบาทของเชฟบิวในทีมสีน้ำเงินยังไม่โดดเด่น (เราจำได้ว่าเชฟบิวโดนให้ออกจากครัว 1ครั้ง) ซึ่งตอนที่ทางทีมสีแดงได้สิทธิในการsteal ในตอนแรกเราคิดว่าจะเลือก’เชฟเก่ง’ แต่ทางทีมสีแดงได้เลือกเชฟบิวมา
เมื่อเข้าสู่ตอนที่4 ทำให้เห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เชฟบิวมีส่วนสำคัญอย่างมากในชัยชนะของทีมสีแดง
สำหรับแล้วตอนนี้ยกให้เป็น the rise of เชฟบิว เลย
2. เชฟเคอร์ [+] underdog edit
เชฟเคอร์เป็นคนที่ถูกวางเส้นเรื่องคนแรกในรายการ และมีบทบาทโดดเด่นมากในตอนที่1-3
ในตอนที่1 เส้นเรื่องของเชฟเคอร์เริ่มตั้งแต่การแย่งโจทย์ในการทำอาหาร และการออกมาปกป้องเชฟมาลีว่าไม่ควรโดนคัดออก
ในตอนที่2 เชฟเคอร์ที่รับผิดชอบappetizer ถูกเลือกให้โดนคัดออก ทั้งที่ควรจะเป็นความรับผิดชอบของseafood มากกว่า
ในตอนที่3 เชฟเคอร์โดนให้ออกจากครัว (ซึ่งรายการแสดงให้การโชว์สปิริตที่จะทำต่อ และมีconfess จากเชฟลูกจรรย์มาเสริม) และการที่เชฟเคอร์ยอมรับผิดต่อหน้าคณะกรรมการ
3. สามเชฟ [-] bad edit
บางการกระทำของเชฟทั้งสามท่าน มักจะมีconfess ของผู้เข้าแข่งคนอื่นทั้งจากทีมแดงและน้ำเงินมาแย้งอยู่เรื่อยๆซึ่งมีตั้งแต่ตอนที่1-4
โดยในตอนที่4 (ล่าสุด) ถือว่าเป็นตอนที่มีเส้นเรื่องนี้เบาที่สุดแต่ทางรายการน่าจะยังคงใช้เส้นเรื่องนี้เพื่อเหตุผลบางอย่างอยู่ จึงยังมีการเสริมเข้ามา
4. เชฟลูกจรรย์ เชฟจิ๊บ [=]
เป็นสองคนที่ทำได้ดีในการทำอาหารตามโจทย์ของรายการเสมอๆ
เชฟลูกจรรย์ มักจะถูกunderrated ในเรื่องของประสบการณ์แต่ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ดี
เชฟจิ๊บ เคยถูกเลือกให้คัดออกเนื่องการscallop ที่ไม่สุกดีในตอนที่1 แต่ในตอนนั้นรายการเน้นไปที่เส้นเรื่องของเชฟมาลี และทีมสีน้ำเงินมากกว่า (ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของเราเชฟจิ๊บควรจะsafe)
ทีมน้ำเงิน
1. เชฟเจมส์ [-] delusional edit
ความคิดเห็นของผู้ชมทางบ้านที่มีต่อเชฟเจมส์ออกมาในลักษณะเดียวกัน โดยมากมักจะติเรื่องของความมั่นใจ
เชฟเจมส์มีผลงานในช่วงของการทำอาหารตามโจทย์ของรายการที่ไม่ดี และรายการมักจะทำให้เห็นว่าexecution ยังไปไม่ถึง
โดยในตอนที่4 นี้ เชฟถูกเลือกให้คัดออกโดยทีมสีน้ำเงิน แม้ว่าทางคณะกรรมการจะไม่เห็นด้วย และมองว่าเชฟพริกเผ็ชควรออกจากรายการ
แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆของรายการทั้งในตอนที่ผ่านมาและตอนที่4 ทำให้การคัดออกในครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนของทีมสีน้ำเงินอีกครั้ง และเราคาดว่าเส้นเรื่องของตอนต่อไป
2. เชฟปิเอโร่ [=] underdog edit
เชฟปิเอโร่เป็นมวยรองที่ต่างจากเชฟเคอร์และเบากว่า ในแง่ที่รายการจะให้ติดตามพัฒนาการของผู้เข้าแข่งขันกับการทำงานในประเทศไทยมากกว่า เช่น การเล่นมุกแทงข้างหลัง การทายสุภาษิต การทำขนมข้าวตู ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
3. เชฟเก่ง เชฟเบีย เชฟมารวย [=]
เป็นสามคนที่ทำได้ดีในช่วงของการทำอาหารตามโจทย์ของรายการ โดยเชฟเก่งโดดเด่นที่สุดในสามคนนี้ แต่ด้วยเส้นเรื่องของทีมสีแดงทำให้ในสัปดาห์ที่ทีมสีน้ำเงินชนะ ทีมสีแดงมักจะมีเส้นเรื่องที่เข้มข้นกว่า
จะเห็นได้ว่าจาก 4 ตอน ที่ผ่านมา การวางเรื่องของรายการโดยมากจะไปอยู่ในทีมสีแดงมากกว่าสีน้ำเงิน ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในตอนต่อไป และขอย้ำอีกครั้งว่าชั่วโมงครึ่งที่รายการออกอากาศ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการถ่ายทำเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่านมีความกดดันและปัจจัยอื่นๆ เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ผู้เข้าแข่งขันที่น่าจับตามองตอนนี้คงไม่พ้น เชฟบิว ที่เป็นพระเอกของตอนที่4 กับ เชฟเคอร์ ที่เป็นนางเอกในสามตอนแรก