เรื่องราวความเป็นมาของ อโยธยา
อโยธยา เมืองที่เป็น original ต้นฉบับดั้งเดิมอยู่ที่รัฐอุตตรประเทศ ในประเทศอินเดีย ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองนี้เป็นเมืองของพระราม เมืองนี้ตั้งมานานเท่าใดไม่มีใครรู้หลักฐานที่เก่าแก่ทึ่สุดปรากฏเมื่อ 2500 ปีที่แล้วชาวชมพูทวีปเริ่มมีภาษาเขียนก็มีการบันทึกถึงเมืองนี้แล้ว เมืองนี้จึงเก่าแก่กว่า 2500 ปี
อโยธยา แปลว่าเมืองที่ไม่แพ้ เมืองที่ศัตรูไม่สามารถเอาชนะได้ ด้วยชื่อเมืองที่เป็นมงคลและชาวชมพูทวีปได้ติดต่อค้าขายกับจีนก็ได้เผยแพร่ศาสนาเข้ามาถึงดินแดน Southeast Asia ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงชั่วคราวเพื่อรอลมทะเลเปลี่ยนทิศ(ลมการค้า) ก็มีชาวชมพูทวีปส่วนหนึ่งได้ลงหลักปักฐานอยู่ในดินแดนนี้เราจึงพบหลักฐานว่าอาณาจักรศรีวิชัย อาณาจักรจามปา มีเชื้อสายเป็นแขกนับถือศานาฮินดู ต่อมาก็มีผู้คนอยู่อาศัยกันมาขึ้นจึงเป็นเมืองหนึ่งในเมืองนั้นพวกเขาเรียกว่า เมืองอโยธยา ตั้งอยู่บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เมืองนี้นักโบราณคดีคาดว่าน่าจะมีมาตั้งแต่ยุคอาณาจักรฝูหนาน(ฟูนัน) เนื่องจากยุคนั้นไม่มีอักษรเขียนจึงไม่ปรากฏหลักฐานเจอแต่หลักฐานเดียวกับทวารวดีของไทย ต่อมาเมืองนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยอกยาการ์ตา
หลังจากมีเมืองอโยธยาที่เกาะชวาแล้ว ถัดมาอีก 500-600 ปี ณ ลุ่มน้ำป่าสักได้ปรากฏหลักฐานว่ามีเมืองอโยธยา เกิดขึ้น หลักฐานของชาวอาหรับที่มาติดต่อค้าขายบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในย่านนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก ส่วนหลักฐานทางจีนดินแดนนี้นอกจากแคว้นละโว้ แคว้นหริภุญชัยส่งเครื่องบรรณาการแล้วยังมีแคว้นเซียนด้วย แต่เดิมนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าแคว้นเซียนคือแคว้นสุโขทัยหรือไม่ก็สุพรรณภูมิ(สุพรรณบุรี) แต่พออ่านหยวนสื่อไปก็พบว่าในเอกสารหยวนสื่อเรียกแคว้นสุโขทัยว่า ซุโข้ไท เรียกสุพรรณว่า ซูเหมินปั๋ง เรียกเชลียงว่า เชอเลียง แล้วแคว้นเซียนที่ส่งเครื่องบรรณาการมายาวนานตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่งคือแคว้นใด? ประกอบกับชาวอาหรับเรียกเมืองอยุธยาว่า "ซาริเนา" แปลว่าอยุธยาเมืองใหม่ เมื่อมีเมืองใหม่ก็ย่อมมีเมืองเก่าซึ่งก็คือเมืองอโยธยานั่นเอง ตอนนี้นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า แคว้นเซียนในเอกสารจีนหมายถึงแคว้นอโยธยา ซึ่งเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่ากรุงสุโขทัยที่หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไทยยกให้เป็นราชธานีแห่งแรก
แต่เดิมก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 สยามประเทศไม่รู้ว่าเคยมีเมืองอโยธยามาก่อนเพราะไม่เหลือซากอะไรให้เห็น เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศมหาอำนาจได้รุกรานสยาม พระองค์ท่านจึงได้เร่งพัฒนาประเทศรวบรวมอำนาจของหัวเมืองต่างๆ เอาไว้ ได้มีการสร้างทางรถไฟจากพระนครไปยังเมืองโคราชหัวเมืองสำคัญของอีสาน เมื่อสร้างถึงเมืองกรุงเก่าคนงานได้ขุดดินเจอเครื่องดินเผา เศษอิฐ เศษปูนจำนวนมากทั้งที่บริเวณนี้ไม่ใช่เกาะเมืองอยุธยา แล้วสิ่งที่เจอคืออะไร? เพื่อไขปัญหารัชกาลที่ 5 จึงได้ตั้งโบราณคดีสโมสร ขึ้นเพื่อรวบรวมคนที่มีความรู้ด้านโบราณคดีมาไขเหตุการณ์ที่พบ การสืบค้นของโบราณคดีสโมสรโดยมีพระยาโบราณราชธานินทร์เป็นประธานก็พบว่าฝั่งตะวันออกของเกาะมืองอยุธยาเป็นเมืองเก่าชื่อว่า เมืองอโยธยา เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่กว่ากรุงสุโขทัยเป็นร้อยๆ ปี แม้จะรู้ว่าเป็นการสร้างทางรถไฟบนเมืองเก่าอันเป็นการทำลายหลักฐานของชาติแต่การก่อสร้างทางรถไฟก็จะหยุดลงไม่ได้เพราะความมั่นคงของชาติย่อมสำคัญกว่า ทำให้ต้องทางรถไฟ สถานีรถไฟ พาดผ่านเมืองเก่าอโยธยาดังที่พวกเราเห็นในปัจจุบัน
มาถึงยุครถไฟความเร็วสูง การรถไฟจะสร้างรถไฟความเร็วสูงโดยใช้เส้นทางเดิมแต่ยกระดับเหนือพื้นดิน มีการคัดค้านจากนักวิชาการอิสระ นักโบราณคดี ว่าจะกระทบกับโบราณสถาน ผู้คนส่วนใหญ่ก็งงว่าแหล่งมรดกโลกมันอยู่อีกฝั่งห่างกันไกลจะสร้างสถานีรถไฟทางฝั่งตะวันออกห่างขนาดนี้แล้วมันกระทบยังไงเพราะไม่รู้ว่าที่ตรงนั้นคือเมืองอโยธยา ราชธานีของแคว้นอยุธยาที่เก่าแก่กว่ากรุงสุโขทัยราชธานีแห่งแรกในวิชาประวัติศาสตร์ของไทย
อโยธยา รัฐที่ถูกประวัติศาสตร์ไทยลืม นักเรียนไม่รู้จักเพราะไม่มีในหนังสือเรียน
อโยธยา เมืองที่เป็น original ต้นฉบับดั้งเดิมอยู่ที่รัฐอุตตรประเทศ ในประเทศอินเดีย ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองนี้เป็นเมืองของพระราม เมืองนี้ตั้งมานานเท่าใดไม่มีใครรู้หลักฐานที่เก่าแก่ทึ่สุดปรากฏเมื่อ 2500 ปีที่แล้วชาวชมพูทวีปเริ่มมีภาษาเขียนก็มีการบันทึกถึงเมืองนี้แล้ว เมืองนี้จึงเก่าแก่กว่า 2500 ปี
อโยธยา แปลว่าเมืองที่ไม่แพ้ เมืองที่ศัตรูไม่สามารถเอาชนะได้ ด้วยชื่อเมืองที่เป็นมงคลและชาวชมพูทวีปได้ติดต่อค้าขายกับจีนก็ได้เผยแพร่ศาสนาเข้ามาถึงดินแดน Southeast Asia ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงชั่วคราวเพื่อรอลมทะเลเปลี่ยนทิศ(ลมการค้า) ก็มีชาวชมพูทวีปส่วนหนึ่งได้ลงหลักปักฐานอยู่ในดินแดนนี้เราจึงพบหลักฐานว่าอาณาจักรศรีวิชัย อาณาจักรจามปา มีเชื้อสายเป็นแขกนับถือศานาฮินดู ต่อมาก็มีผู้คนอยู่อาศัยกันมาขึ้นจึงเป็นเมืองหนึ่งในเมืองนั้นพวกเขาเรียกว่า เมืองอโยธยา ตั้งอยู่บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เมืองนี้นักโบราณคดีคาดว่าน่าจะมีมาตั้งแต่ยุคอาณาจักรฝูหนาน(ฟูนัน) เนื่องจากยุคนั้นไม่มีอักษรเขียนจึงไม่ปรากฏหลักฐานเจอแต่หลักฐานเดียวกับทวารวดีของไทย ต่อมาเมืองนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยอกยาการ์ตา
หลังจากมีเมืองอโยธยาที่เกาะชวาแล้ว ถัดมาอีก 500-600 ปี ณ ลุ่มน้ำป่าสักได้ปรากฏหลักฐานว่ามีเมืองอโยธยา เกิดขึ้น หลักฐานของชาวอาหรับที่มาติดต่อค้าขายบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในย่านนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก ส่วนหลักฐานทางจีนดินแดนนี้นอกจากแคว้นละโว้ แคว้นหริภุญชัยส่งเครื่องบรรณาการแล้วยังมีแคว้นเซียนด้วย แต่เดิมนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าแคว้นเซียนคือแคว้นสุโขทัยหรือไม่ก็สุพรรณภูมิ(สุพรรณบุรี) แต่พออ่านหยวนสื่อไปก็พบว่าในเอกสารหยวนสื่อเรียกแคว้นสุโขทัยว่า ซุโข้ไท เรียกสุพรรณว่า ซูเหมินปั๋ง เรียกเชลียงว่า เชอเลียง แล้วแคว้นเซียนที่ส่งเครื่องบรรณาการมายาวนานตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่งคือแคว้นใด? ประกอบกับชาวอาหรับเรียกเมืองอยุธยาว่า "ซาริเนา" แปลว่าอยุธยาเมืองใหม่ เมื่อมีเมืองใหม่ก็ย่อมมีเมืองเก่าซึ่งก็คือเมืองอโยธยานั่นเอง ตอนนี้นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า แคว้นเซียนในเอกสารจีนหมายถึงแคว้นอโยธยา ซึ่งเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่ากรุงสุโขทัยที่หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไทยยกให้เป็นราชธานีแห่งแรก
แต่เดิมก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 สยามประเทศไม่รู้ว่าเคยมีเมืองอโยธยามาก่อนเพราะไม่เหลือซากอะไรให้เห็น เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศมหาอำนาจได้รุกรานสยาม พระองค์ท่านจึงได้เร่งพัฒนาประเทศรวบรวมอำนาจของหัวเมืองต่างๆ เอาไว้ ได้มีการสร้างทางรถไฟจากพระนครไปยังเมืองโคราชหัวเมืองสำคัญของอีสาน เมื่อสร้างถึงเมืองกรุงเก่าคนงานได้ขุดดินเจอเครื่องดินเผา เศษอิฐ เศษปูนจำนวนมากทั้งที่บริเวณนี้ไม่ใช่เกาะเมืองอยุธยา แล้วสิ่งที่เจอคืออะไร? เพื่อไขปัญหารัชกาลที่ 5 จึงได้ตั้งโบราณคดีสโมสร ขึ้นเพื่อรวบรวมคนที่มีความรู้ด้านโบราณคดีมาไขเหตุการณ์ที่พบ การสืบค้นของโบราณคดีสโมสรโดยมีพระยาโบราณราชธานินทร์เป็นประธานก็พบว่าฝั่งตะวันออกของเกาะมืองอยุธยาเป็นเมืองเก่าชื่อว่า เมืองอโยธยา เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่กว่ากรุงสุโขทัยเป็นร้อยๆ ปี แม้จะรู้ว่าเป็นการสร้างทางรถไฟบนเมืองเก่าอันเป็นการทำลายหลักฐานของชาติแต่การก่อสร้างทางรถไฟก็จะหยุดลงไม่ได้เพราะความมั่นคงของชาติย่อมสำคัญกว่า ทำให้ต้องทางรถไฟ สถานีรถไฟ พาดผ่านเมืองเก่าอโยธยาดังที่พวกเราเห็นในปัจจุบัน
มาถึงยุครถไฟความเร็วสูง การรถไฟจะสร้างรถไฟความเร็วสูงโดยใช้เส้นทางเดิมแต่ยกระดับเหนือพื้นดิน มีการคัดค้านจากนักวิชาการอิสระ นักโบราณคดี ว่าจะกระทบกับโบราณสถาน ผู้คนส่วนใหญ่ก็งงว่าแหล่งมรดกโลกมันอยู่อีกฝั่งห่างกันไกลจะสร้างสถานีรถไฟทางฝั่งตะวันออกห่างขนาดนี้แล้วมันกระทบยังไงเพราะไม่รู้ว่าที่ตรงนั้นคือเมืองอโยธยา ราชธานีของแคว้นอยุธยาที่เก่าแก่กว่ากรุงสุโขทัยราชธานีแห่งแรกในวิชาประวัติศาสตร์ของไทย