เมื่อวานนี้ หลายคนคงได้พบเจอการการุณยฆาตแมวที่น่าหดหู่มาก ๆ จากเพจ Ths hope Thailand เป็นเรื่องที่คุณบุ๋มแชร์ลงมาว่า ตนเองมีเรื่องเร่งด่วน คือ กำลังจะไปข่วยแมวตัวนึงที่จะถูกทาง
Soi dog Thailand การุณยฆาต เรื่องมีอยู่ว่า มีพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ไปพบแมวตัวหนึ่งถูกหนังสติ๊กรัดไข่ จึงได้ติดต่อกับทาง Soi dog เพื่อให้รับเคสไปรักษา แต่ปรากฎว่า เมื่อถึงมือหมอแล้ว หมอได้ทำการวางยาสลบและข่วยดึงหนังสติ๊กออกให้แล้ว แมวกำลังหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน กำลังได้กลับมามีชีวิตที่ดี แต่ปรากฎว่า หมอดันตรวจพบลิวคิเมีย (และโรคอื่น ๆ) จึงได้แจ้งพี่ผู้ที่พบแมว ว่า หากพบว่าแมวป่วยและไม่มีผู้รับรักษา จะต้องทำการกำจัดแมวโดยเร็ว ซึ่งมูลนิธิอ้างว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของตน ซึ่งผู้พบแมวก็ได้พยายามที่จะหาบ้านให้จนกระทั่ง Ths hope Thailand ได้แจ้งว่าตนเองกำลังไปช่วย แต่ในที่สุดก็ไม่ทัน แมวได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำการุณยฆาตเรียบร้อยแล้ว
คำถามคือ เพราะอะไรทางมูลนิธิ Soidog ถึงมีสิทธิ์ฆ่าแมว และมูลนิธิมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ เพราะถ้ามูลนิธิดำเนินงานเพื่อรักษาและคุ้มครองชีวิตหมาแมว มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีนโยบายสั่งฆ่า และเคสนี้ยิ่งสลดหดหู่ไปอีก เพราะมูลนิธิกลับรีบให้ฆ่า แมวที่ตัวเองเพิ่งรับไปรักษาแท้ ๆ
รายละเอียดมีดังนี้
ในตอนแรก คุณบุ๋ม จาก The Hope Thailand ได้ลงโพสท์ว่า
(ในโพสท์พิมพ์ตัวเลขผิด ความจริงคือ 26 ก.พ. 6
7)
ซึ่งเมื่อทุกคนได้ทราบข่าว ก็ได้แต่หวังอย่างระทึกว่าคงไม่มีการฆ่าแมว คงจะช่วยแมวไว้ได้ทัน จนกระทั่งในที่สุดแลัว เกืดเรื่องราวดังนี้
เช้านี้ เมื่อคนรักแมวหลาย ๆ คนได้ข่าวว่าทางมูลนิธิ Soi dog สั่งให้การุณยฆาตแมว ที่ตัวเองเพิ่งนำไปรักษาหยก ๆ ก็เกิดความตกใจ และตั้งคำถาม โดยหลายคนได้โพสท์ลงในเพจ Soi dog Thailand เพื่อต่อว่าและเรียกร้องให้เพจมีการตอบคำถามกับสังคม ปรากฎว่าเพจได้ลบคอมเม้นท์ที่เกี่ยวกับการฆ่าแมวตัวนี้ทั้งหมดออก โดยก่อนที่จะลบ ได้พบว่า มีผู้อื่นได้คอมเม้นท์บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้รับรู้ด้วยว่า มูลนิธิเคยฆ่าหมาและแมว(การุณยฆาต) มาก่อนหน้าเจ้าชาเย็นมาแล้ว
ความแปลกประหลาดในเหตุผลของการฆ่าน้องชาเย็น ก็เป็นไปตามข้อมูลที่ได้แคปมาจากเพจ Ths hope Thailand มันน่าหดหู่ ตกใจ และขยะแขยง เพราะมูลนิธิดำเนินงานด้วยเงินบริจาคจากประชาชนเพื่อรักษาหมาแมว แต่เพียงเพราะแมวตัวหนึ่งที่ตนเอง เพิ่งรักษาเสร็จหยก ๆ พบว่ามีโรค ก็สั่งฆ่าเลย อ้างว่าเป็นไปตามโปรโตคอล จึงน่ามาสู่ความสงสัยว่า ถ้ามูลนิธิมีความเมตตาต่อสัตว์จริง ย่อมไม่มีนโยบายการุณยฆาต และ เพราะอะไรมูลนิธิจึงมีการตัดสินใจที่แปลกประหลาด สั่งให้จบชีวิตแมวที่ตนเองเพิ่งรับไปรักษา ทั้งที่โรคลิวคีลิเมีย มีคนรักแมวหลายคน สามารถรักษาจนอาการของแมวดีขึ้นได้
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อมีคนโพสท์ตั้งคำถามในเพจของมูลนิธิ สิ่งที่มูลนิธิทำคือ ไล่ลบคอมเม้นท์ของคนที่นำเรื่องที่ตนเพิ่งฆ่าน้องชาเย็นมาลง บล๊อกพวกเขา และเดินหน้าโพสท์รับบริจาคต่อไปอีก
การกระทำของมูลนิธิ ดูย้อนแย้งต่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง รีบเร่ง และน่าแปลกประหลาดที่มูลนิธิใหญ่โตระดับประเทศ ไม่มีที่พักพิงให้แมวตัวเดียวระหว่างรอหาบ้านสองสามวัน จนต้องสั่งจบชีวิตแมวตัวนึงที่เค้าเพิ่งได้รับความสุขนิดเดียวจากการรักษาบาดแผลที่ทรมานมาตลอดชีวิต
เพจได้ลบข้อเท็จจริงนี้ออกจนหมด แต่ความจริงก็ไม่สูญสลายไปจากโลก เมื่อมูลนิธิเลือกที่จะไม่ตอบคำถามสังคมในเพจของมูลนิธิเองและกลบความผิดไว้ใต้พรม นี่อาจจะทำให้ยังมีคนอีกจำนวนมากไม่ทราบว่ามูลนิธิมีนโยบายการสั่งฆ่าสัตว์แบบนี้ จึงจำเป็นต้องตั้งคำถามกับมูลนิธิอีกครั้งในช่องทางที่มูลนิธิไม่สามารถไล่ลบโพสท์ของประชาชนที่ร่วมบริจาคได้ ขอให้ทุกท่านช่วยแชร์และนำข่าวนี้สอบถามมูลนิธิว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์น่าสลดหดหู่แบบนี้ ทำไมมูลนิธิรอหน่อยอีกสัดนิดเดียวไม่ได้ ทำไมจึงคิดว่าการจบชีวิตแมวที่ตัวเองเพิ่งรักษามาแท้ ๆ เป็นทางออหที่เหมาะสมและสังคมรับได้
แมวตัวนี้จะไม่ตายเลย ถ้ามูลนิธิไม่พาไปรักษา พาเขาไปถูกสั่งฆ่าแท้ๆ
ด่วน Soi dog เพิ่งทำการการุณยฆาตแมวที่ตนเองรักษา ทำไมมูลนิธิSoi dog ถึงมีนโยบายฆ่าสัตว์ที่ตนเองเพิ่งรักษาเสร็จ ?
คำถามคือ เพราะอะไรทางมูลนิธิ Soidog ถึงมีสิทธิ์ฆ่าแมว และมูลนิธิมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ เพราะถ้ามูลนิธิดำเนินงานเพื่อรักษาและคุ้มครองชีวิตหมาแมว มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีนโยบายสั่งฆ่า และเคสนี้ยิ่งสลดหดหู่ไปอีก เพราะมูลนิธิกลับรีบให้ฆ่า แมวที่ตัวเองเพิ่งรับไปรักษาแท้ ๆ
รายละเอียดมีดังนี้
ในตอนแรก คุณบุ๋ม จาก The Hope Thailand ได้ลงโพสท์ว่า
(ในโพสท์พิมพ์ตัวเลขผิด ความจริงคือ 26 ก.พ. 6
7)
ซึ่งเมื่อทุกคนได้ทราบข่าว ก็ได้แต่หวังอย่างระทึกว่าคงไม่มีการฆ่าแมว คงจะช่วยแมวไว้ได้ทัน จนกระทั่งในที่สุดแลัว เกืดเรื่องราวดังนี้
เช้านี้ เมื่อคนรักแมวหลาย ๆ คนได้ข่าวว่าทางมูลนิธิ Soi dog สั่งให้การุณยฆาตแมว ที่ตัวเองเพิ่งนำไปรักษาหยก ๆ ก็เกิดความตกใจ และตั้งคำถาม โดยหลายคนได้โพสท์ลงในเพจ Soi dog Thailand เพื่อต่อว่าและเรียกร้องให้เพจมีการตอบคำถามกับสังคม ปรากฎว่าเพจได้ลบคอมเม้นท์ที่เกี่ยวกับการฆ่าแมวตัวนี้ทั้งหมดออก โดยก่อนที่จะลบ ได้พบว่า มีผู้อื่นได้คอมเม้นท์บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้รับรู้ด้วยว่า มูลนิธิเคยฆ่าหมาและแมว(การุณยฆาต) มาก่อนหน้าเจ้าชาเย็นมาแล้ว
ความแปลกประหลาดในเหตุผลของการฆ่าน้องชาเย็น ก็เป็นไปตามข้อมูลที่ได้แคปมาจากเพจ Ths hope Thailand มันน่าหดหู่ ตกใจ และขยะแขยง เพราะมูลนิธิดำเนินงานด้วยเงินบริจาคจากประชาชนเพื่อรักษาหมาแมว แต่เพียงเพราะแมวตัวหนึ่งที่ตนเอง เพิ่งรักษาเสร็จหยก ๆ พบว่ามีโรค ก็สั่งฆ่าเลย อ้างว่าเป็นไปตามโปรโตคอล จึงน่ามาสู่ความสงสัยว่า ถ้ามูลนิธิมีความเมตตาต่อสัตว์จริง ย่อมไม่มีนโยบายการุณยฆาต และ เพราะอะไรมูลนิธิจึงมีการตัดสินใจที่แปลกประหลาด สั่งให้จบชีวิตแมวที่ตนเองเพิ่งรับไปรักษา ทั้งที่โรคลิวคีลิเมีย มีคนรักแมวหลายคน สามารถรักษาจนอาการของแมวดีขึ้นได้
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อมีคนโพสท์ตั้งคำถามในเพจของมูลนิธิ สิ่งที่มูลนิธิทำคือ ไล่ลบคอมเม้นท์ของคนที่นำเรื่องที่ตนเพิ่งฆ่าน้องชาเย็นมาลง บล๊อกพวกเขา และเดินหน้าโพสท์รับบริจาคต่อไปอีก
การกระทำของมูลนิธิ ดูย้อนแย้งต่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง รีบเร่ง และน่าแปลกประหลาดที่มูลนิธิใหญ่โตระดับประเทศ ไม่มีที่พักพิงให้แมวตัวเดียวระหว่างรอหาบ้านสองสามวัน จนต้องสั่งจบชีวิตแมวตัวนึงที่เค้าเพิ่งได้รับความสุขนิดเดียวจากการรักษาบาดแผลที่ทรมานมาตลอดชีวิต
เพจได้ลบข้อเท็จจริงนี้ออกจนหมด แต่ความจริงก็ไม่สูญสลายไปจากโลก เมื่อมูลนิธิเลือกที่จะไม่ตอบคำถามสังคมในเพจของมูลนิธิเองและกลบความผิดไว้ใต้พรม นี่อาจจะทำให้ยังมีคนอีกจำนวนมากไม่ทราบว่ามูลนิธิมีนโยบายการสั่งฆ่าสัตว์แบบนี้ จึงจำเป็นต้องตั้งคำถามกับมูลนิธิอีกครั้งในช่องทางที่มูลนิธิไม่สามารถไล่ลบโพสท์ของประชาชนที่ร่วมบริจาคได้ ขอให้ทุกท่านช่วยแชร์และนำข่าวนี้สอบถามมูลนิธิว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์น่าสลดหดหู่แบบนี้ ทำไมมูลนิธิรอหน่อยอีกสัดนิดเดียวไม่ได้ ทำไมจึงคิดว่าการจบชีวิตแมวที่ตัวเองเพิ่งรักษามาแท้ ๆ เป็นทางออหที่เหมาะสมและสังคมรับได้
แมวตัวนี้จะไม่ตายเลย ถ้ามูลนิธิไม่พาไปรักษา พาเขาไปถูกสั่งฆ่าแท้ๆ