ทุกวันนี้ไม่ว่างานสายไหนต้องใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน แต่จะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไป ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สามารถเข้ามาช่วยการทำงานของคนได้ หรืองานบางอย่างก็ไม่ต้องลงมือทำเองอีกต่อไปด้วยซ้ำ กระทู้นี้ JobThai Tips เลยจะพาไปดูกันว่าคนทำงานในปี 2024 นี้ ต้องเตรียมพร้อมทักษะเทคโนโลยีด้านไหนกันบ้าง
ทักษะในการเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy)
Digital Literacy คือความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำเครื่องมือ และอุปกรณ์ดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสื่อสารหรือการปฏิบัติงานได้ หัวใจสำคัญของทักษะนี้จึงเป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของเทคโนโลยีตัวที่เราจะต้องใช้งานให้ลึกซึ้ง รู้ว่าจะต้องป้อนคำสั่งยังไง ต้องกดปุ่มไหน เข้าใจทั้งเรื่องฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เมื่อเรารู้วิธีใช้งานเป็นอย่างดี จะทำงานอะไรก็ไม่มีสะดุด ในปีนี้ทักษะการเรียนรู้ที่จะตามเทคโนโลยีให้ทันจะกลายเป็นไฟลต์บังคับที่คนทำงานทุกคนไม่รู้ไม่ได้ ในทางกลับกันคนที่ตามเทคโนโลยีไม่ทันก็จะถูกมองว่าตกยุค ไม่ทันคนอื่น หรืออาจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย
เมื่อเรามีความรู้และใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในทุก ๆ วันของการทำงานจนคล่องแล้ว ลองเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุกวันนี้มีหลายเครื่องมือให้เลือกใช้เพื่อให้งานของเราง่ายขึ้น เมื่อเราใช้เป็นแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันสอนคนอื่นในที่ทำงานบ้าง ให้ทีมของเราพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน
ทักษะการใช้งาน Generative AI
ทุกวันนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของ Generative AI หรือ AI ที่ช่วยผลิต Content ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ สรุปความ Brainstorm หาไอเดีย ด้วย ChatGPT การสร้างรูปภาพจากจินตนาการที่คนวาดรูปไม่เป็น ไม่มีทักษะด้านศิลปะก็สามารถเนรมิตผลงานได้ภายในไม่กี่อึดใจด้วย Bing AI หรือ Midjourney ถึงแม้การใช้งานในเชิงพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบยังมีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์อยู่ แต่วงการธุรกิจก็เริ่มให้ความสนใจกับเครื่องมือทุ่นแรงนี้กันมากขึ้น เพราะมันช่วยลดเวลา และช่วยจัดการงาน Routine ให้กับเรา เราสามารถใช้มันในการช่วยหาไอเดีย หรือหาข้อมูลแบบคร่าว ๆ เบื้องต้นได้ ทำให้มีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่น นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันในทำนองว่า “มนุษย์เราไม่ต้องกลัว AI จะแย่งงานหรอก เพราะคนที่ใช้งาน AI เก่ง ๆ ต่างหากที่จะเราจะต้องแข่งขันด้วย” คนทำงานคนไหนที่ไม่เคยลองใช้งานเจ้า AI สักที ปี 2024 นี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียนรู้การใช้งาน AI และพัฒนาทักษะเพื่อสร้างแต้มต่อในการทำงานของเรา
ทักษะการเข้าใจ วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Data Literacy)
ข้อมูลในโลกธุรกิจนั้นเป็นทรัพยากรที่มีค่า คนทำงานที่หาข้อมูลเก่งและใช้ข้อมูลนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำงานจึงโดดเด่นกว่าคนอื่น เช่น นักการตลาดที่อ่าน Data ได้ อาจจะช่วยให้งานบางอย่างรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องนั่งรอคำอธิบายจากทีมที่ดูเรื่องนั้นโดยตรง หรือมี Mindset ที่เข้าใจการออกแบบ และสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้มากกว่าคนที่ทำงานในตำแหน่งเดียวกันแต่ไม่ถนัดการอ่านข้อมูลเชิงเทคนิค การผันตัวเองไปเป็นพนักงานออฟฟิศสาย Hybrid ที่นอกจากจะมีความรู้ในงานหลักของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ยังมีทักษะการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลมาเสริมจึงทำให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจและได้เปรียบมากกว่าคนที่รู้แต่เรื่องงานของตัวเองเพียงอย่างเดียว
สำหรับใครที่สนใจทักษะด้านการใช้ข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น เราแนะนำให้ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชา Data Science และหา คอร์สฝึกฝนทักษะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) การแปลงข้อมูลเป็นภาพเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ (Data Visualization) รวมไปถึงการคำนวณและสถิติสำหรับการจัดการข้อมูล ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนกันสักหน่อย แต่การันตีว่าคุณจะโดดเด่นขึ้นในตลาดแรงงานและเติบโตไปได้ไกลกว่าที่คิดในเส้นทางการทำงานในอนาคตแน่นอน หรือถ้าใครชอบทางนี้ขึ้นมาจริง ๆ อาจจะได้เจอโอกาสใหม่ ๆ จากการย้ายสายงานก็ได้
ทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
พูดถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลกันไปแล้ว เรามาดูทักษะในการรับมือกับข้อเสียที่มาพร้อมกับโลกดิจิทัลกันบ้าง ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ทุกบริษัทให้ความสนใจกันมากขึ้น สำหรับองค์กรใหญ่ ๆ จะมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการคุกคามใหม่ ๆ จากกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากจุดอ่อนของระบบสร้างความเสียทางการเงินและข้อมูลให้กับบริษัท แต่แม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยจะแน่นหนาขนาดไหน ถ้าพนักงานไม่เข้าใจระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างถ่องแท้ก็อาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ได้อยู่ดี การฝึกอบรมทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เลยกลายมาเป็นหัวข้อหลักสูตรการอบรมที่บริษัทต่างให้ความสำคัญ เพราะฉะนั้นทักษะนี้จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวหรือเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนที่ต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอในการทำงานแต่ละวัน คนทำงานในยุคใหม่อย่างน้อย ๆ ก็ควรมีความตระหนักในการใช้งานระบบหรือซอฟต์แวร์ของบริษัท ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล เช่น Username และ Password ในเว็บเบราว์เซอร์ ไม่คลิก Link ดาวน์โหลดไฟล์ หรือ เปิด Email ที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจนหรือมี URL แปลก ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การแฝงตัวของไวรัสคอมพิวเตอร์หรือ Malware ที่เข้ามาขโมยข้อมูลได้
การมีทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์แล้ว ทักษะนี้ยังเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราด้วย เพราะถ้าเข้าใจหลักการพื้นฐานเรื่องความปลอดภัยและรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับการใช้งานแพลตฟอร์มหรืออุปกรณ์ดิจิทัลประเภทใด ๆ ก็ตาม เราก็จะมีสติ ไม่ทำผิดพลาดและตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ
ทักษะด้านเทคโนโลยีที่คนทำงานต้องมีปี 2024
ทักษะในการเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy)
Digital Literacy คือความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำเครื่องมือ และอุปกรณ์ดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสื่อสารหรือการปฏิบัติงานได้ หัวใจสำคัญของทักษะนี้จึงเป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของเทคโนโลยีตัวที่เราจะต้องใช้งานให้ลึกซึ้ง รู้ว่าจะต้องป้อนคำสั่งยังไง ต้องกดปุ่มไหน เข้าใจทั้งเรื่องฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เมื่อเรารู้วิธีใช้งานเป็นอย่างดี จะทำงานอะไรก็ไม่มีสะดุด ในปีนี้ทักษะการเรียนรู้ที่จะตามเทคโนโลยีให้ทันจะกลายเป็นไฟลต์บังคับที่คนทำงานทุกคนไม่รู้ไม่ได้ ในทางกลับกันคนที่ตามเทคโนโลยีไม่ทันก็จะถูกมองว่าตกยุค ไม่ทันคนอื่น หรืออาจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย
เมื่อเรามีความรู้และใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในทุก ๆ วันของการทำงานจนคล่องแล้ว ลองเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุกวันนี้มีหลายเครื่องมือให้เลือกใช้เพื่อให้งานของเราง่ายขึ้น เมื่อเราใช้เป็นแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันสอนคนอื่นในที่ทำงานบ้าง ให้ทีมของเราพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน
ทักษะการใช้งาน Generative AI
ทุกวันนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของ Generative AI หรือ AI ที่ช่วยผลิต Content ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ สรุปความ Brainstorm หาไอเดีย ด้วย ChatGPT การสร้างรูปภาพจากจินตนาการที่คนวาดรูปไม่เป็น ไม่มีทักษะด้านศิลปะก็สามารถเนรมิตผลงานได้ภายในไม่กี่อึดใจด้วย Bing AI หรือ Midjourney ถึงแม้การใช้งานในเชิงพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบยังมีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์อยู่ แต่วงการธุรกิจก็เริ่มให้ความสนใจกับเครื่องมือทุ่นแรงนี้กันมากขึ้น เพราะมันช่วยลดเวลา และช่วยจัดการงาน Routine ให้กับเรา เราสามารถใช้มันในการช่วยหาไอเดีย หรือหาข้อมูลแบบคร่าว ๆ เบื้องต้นได้ ทำให้มีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่น นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันในทำนองว่า “มนุษย์เราไม่ต้องกลัว AI จะแย่งงานหรอก เพราะคนที่ใช้งาน AI เก่ง ๆ ต่างหากที่จะเราจะต้องแข่งขันด้วย” คนทำงานคนไหนที่ไม่เคยลองใช้งานเจ้า AI สักที ปี 2024 นี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียนรู้การใช้งาน AI และพัฒนาทักษะเพื่อสร้างแต้มต่อในการทำงานของเรา
ทักษะการเข้าใจ วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Data Literacy)
ข้อมูลในโลกธุรกิจนั้นเป็นทรัพยากรที่มีค่า คนทำงานที่หาข้อมูลเก่งและใช้ข้อมูลนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำงานจึงโดดเด่นกว่าคนอื่น เช่น นักการตลาดที่อ่าน Data ได้ อาจจะช่วยให้งานบางอย่างรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องนั่งรอคำอธิบายจากทีมที่ดูเรื่องนั้นโดยตรง หรือมี Mindset ที่เข้าใจการออกแบบ และสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้มากกว่าคนที่ทำงานในตำแหน่งเดียวกันแต่ไม่ถนัดการอ่านข้อมูลเชิงเทคนิค การผันตัวเองไปเป็นพนักงานออฟฟิศสาย Hybrid ที่นอกจากจะมีความรู้ในงานหลักของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ยังมีทักษะการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลมาเสริมจึงทำให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจและได้เปรียบมากกว่าคนที่รู้แต่เรื่องงานของตัวเองเพียงอย่างเดียว
สำหรับใครที่สนใจทักษะด้านการใช้ข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น เราแนะนำให้ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชา Data Science และหา คอร์สฝึกฝนทักษะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) การแปลงข้อมูลเป็นภาพเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ (Data Visualization) รวมไปถึงการคำนวณและสถิติสำหรับการจัดการข้อมูล ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนกันสักหน่อย แต่การันตีว่าคุณจะโดดเด่นขึ้นในตลาดแรงงานและเติบโตไปได้ไกลกว่าที่คิดในเส้นทางการทำงานในอนาคตแน่นอน หรือถ้าใครชอบทางนี้ขึ้นมาจริง ๆ อาจจะได้เจอโอกาสใหม่ ๆ จากการย้ายสายงานก็ได้
ทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
พูดถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลกันไปแล้ว เรามาดูทักษะในการรับมือกับข้อเสียที่มาพร้อมกับโลกดิจิทัลกันบ้าง ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ทุกบริษัทให้ความสนใจกันมากขึ้น สำหรับองค์กรใหญ่ ๆ จะมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการคุกคามใหม่ ๆ จากกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากจุดอ่อนของระบบสร้างความเสียทางการเงินและข้อมูลให้กับบริษัท แต่แม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยจะแน่นหนาขนาดไหน ถ้าพนักงานไม่เข้าใจระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างถ่องแท้ก็อาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ได้อยู่ดี การฝึกอบรมทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เลยกลายมาเป็นหัวข้อหลักสูตรการอบรมที่บริษัทต่างให้ความสำคัญ เพราะฉะนั้นทักษะนี้จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวหรือเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนที่ต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอในการทำงานแต่ละวัน คนทำงานในยุคใหม่อย่างน้อย ๆ ก็ควรมีความตระหนักในการใช้งานระบบหรือซอฟต์แวร์ของบริษัท ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล เช่น Username และ Password ในเว็บเบราว์เซอร์ ไม่คลิก Link ดาวน์โหลดไฟล์ หรือ เปิด Email ที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจนหรือมี URL แปลก ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การแฝงตัวของไวรัสคอมพิวเตอร์หรือ Malware ที่เข้ามาขโมยข้อมูลได้
การมีทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์แล้ว ทักษะนี้ยังเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราด้วย เพราะถ้าเข้าใจหลักการพื้นฐานเรื่องความปลอดภัยและรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับการใช้งานแพลตฟอร์มหรืออุปกรณ์ดิจิทัลประเภทใด ๆ ก็ตาม เราก็จะมีสติ ไม่ทำผิดพลาดและตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ