หลังจากเสร็จสิ้นทริปปั่น
USA-CANADA อย่างเรียบร้อยประมาณสามเดือนต่อมาก็ได้เวลาทริปปั่นเมลเบิร์น..ไปคนเดียวเช่นเคย แต่มีลูกสาวเรียนอยู่เมืองนี้ น่าจะสบายๆ
ครับรูปด้านบนคือ plan ทริปปั่นของผมที่ Phillips port เริ่มต้นวางแผนไว้ปั่นชิลล์ๆ 4 วันครับ แต่พอดี Air Asia บุฟเฟ่ไปกลับ หาดใหญ่> Melbourne ราคา 7800+บาท ของผม cancel เที่ยวบินที่ออกจาก Kualalumper > Melbourne ผมเลยต้องพักที่KL.1 คืน เสียเวลาที่ Melbourne ไปหนึ่งวันปั่น ผมเลยยกเลิกการปั่นที่ Hasting แต่ยังต้องครบวง 220+ km ปั่น กับ1 ferry trip Sorrento>Queenscliff เส้นทางปั่นเที่ยวจึงกลายเป็น 60,80,80 kmโดยประมาณ
Planวันแรกสะดุดในช่วงเช้าครับ นัดหมายจะเอาของฝากprofessor , roommate และของลูกสาวไปให้ที่ Melbourne University
ในตอนเช้าแต่ฝนตกตั้งแต่เช้า รอไปรอมาก็ไม่หยุด แต่ตกแบบ shower สรุปกว่าจะได้เจอลูกกสาวก็สิบโมงกว่าและกว่าจะได้เช่ารถจักรยานก็ 11.30 น.เช่าจักรยานที่ร้าน Bike now ครับร้านให้เข่าร้านนี้บริการดีมากให้ยางในspare และชุดซ่อมที่สูบลม พร้อมกับหมวกและที่ lock จักรยานเรียบร้อยราคาเช่าวันละ 40 AUD ซึ่งก็ถือว่าไม่แพง แถมยังfitting จักรยานใหัด้วยหลังจากเลือกคันที่จะเช่าได้แล้ว
Tripที่ปั่นก็ดูสบายๆ ออกจาก Melbourne จักรยานสามารถปั่นได้ 3 ช่องทาง คือ Bike Trail ซึ่งเป็นทางปั่นจักรยานยานโดยเฉพาะเพื่อชมธรรมชาติต่างๆระหว่างทางจะมีที่เติมน้ำและที่ซ่อมจักรยานให้ด้วยโดยบางช่วงจะใช้ร่วมกับทางคนเดินออกกำลังกาย
ช่องทางปั่นที่ 2 คือbeach road ก็จะเป็นถนนที่ทำขึ้นต่อจากไหล่ถนนขนานไปกัย state road และช่องทางสุดท้ายคือปั่นใน เลนซ้ายของ state road
ผมเลือกปั่นใน bike trail เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ทำเวลาได้ดีครับประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึง Frankston เมืองท่องเที่ยวชายทะเล ผมนัดเจอกับลูกสาวที่นัดมาจอยกันโดยหลังจากเสร็จภารกิจที่ Melbourne ก็นั่งรถไฟมารอผมที่สถานี Frankston
ตอนเจอกันลูกสาว บอกว่าถึงก่อนผมประมาณ 20 นาที..ก็เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
ผมจอดรถไว้ที่สถานีไปกิน อาหารเวียดนามเดินชมชายหาด และกลัยมาซื้อเสบียงในซูเปอร์ไว้ให้ผมเพราะลูกสาวจะกลับเข้า Melbourne ไม่ได้ไปพักกับผม ทริปวันนี้ผมยังเหลือระยะทางประมาณ 18 km เข้าที่พัก เราแยกกันที่หน้าสถานีรถไฟ ฝนก็ลงปรอยๆมาอีกครั้ง ผมปั่นมาตาม bike trail โดยรู้ว่าเส้นทางจะมืดมากโชคดีผมมีไฟจักรยานที่ลูกสาวเตรียมมาให้เลยปั่นออกมาได้ไม่น่าเชื่อแค่ประมาณห้าโมงกว่าๆ จะมืดถึงเพียงนี้ โชคดีจริงๆที่ได้ไฟฉายรถจักรยานของลูกสาวมา....
เหลืออีกประมาณ 10 กิโลเมตรถึงที่พัก ช่วงเส้นทางปั่นมาmerge(บรรจบ)กับ state road แล้วผมก็ไม่เข้าไปปั่นใน bike trail เพราะมืดมากมองธรรมชาติอะไรไม่เห็นอยู่แล้ว แถมฝนยังตกปรอยๆอีก ผมปั่นต่อบน state road มาจนเหลือระยะทาง 5 กิโลกว่า ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมี Paramed ลงมาจากรถAmbulance และบอกว่าผมล้มจักรยาน ผมให้เบอร์ติดต่อลูกสาวและเขานำตัวผมส่งโรงพยาบาล Frankston มาถึงโรงพยาบาลก็มีคุณพยาบาลมาสัมภาษณ์อาการเช็คสัญญาณชีพและรอดูอาการเกือบสองชั่วโมงโดยคุณหมอยังไม่ว่างมาตรวจ ผมไม่มีอาการมึนศรีษะแต่ดูหมวกกันน้อคข้างขวามีรอยยุบผมไม่มีแผลที่ศรีษะมีแต่แผลถลอกบวมที่หน้าด้านขวา ฟันหน้าซี่ขวาบนแตก
หลังจากสองชั่วโมง แพทย์มาแจ้งว่าจะทำ CT สมอง และเจาะเลือด ผมรบกวนให้คุณหมอช่วยตรวจอาการและผมยินดีจะสังเกตุอาการเพราะจะมีลูกสาวคอยดูแล แพทย์ตรวจพบว่าอาการทางสมองปกติ จึงอนุญาต (ชอบใจการตรวจ memory test โดยให้จำของ3 อย่าง แล้วหลังจากตรวจโน่นตรวจนี่เสร็จก็กลับมาถามอีกที) ซึ่งในเคสอุบัติเหตุบ้านเราไม่ค่อยได้ตรวจเรื่องนี้เราจะตรวจในเรื่องการประเมินสมรรถภาพของสมองของคนสูงอายุทั่วไป มากกว่า
ดูอาการทางสมอง 4 ชั่วโมง ประคบเย็นบริเวณใบหน้า และใช้ steri strip ติดแผลฉีกขาดตื้นๆที่ใต้คิ้วซ้าย คือการดูแลที่ได้รับ พอมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายลุ้นอยู่ว่าเท่าไรนะ...คำตอบที่ได้คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ให้ไปติดต่อทางหน่วยรถ Ambulance ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนนั้นมั้ย ที่หน่วยAmbulance บอกว่าเป็นอุบัติเหตุน่าจะฟรี แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายอะไรจะแจ้งไปทางmail ภายใน 2 สัปดาห์ (ผมกลับ มาเมืองไทยแล้วสัปดาห์ที่3 ก็ไม่มีmail จึงmailไปถามก็ไม่มีค่าใช้จ่ายจริงๆ) งงครับมีแต่คนบอกว่าเจ็บป่วยเมืองนอกค่าใช้จ่ายจะแพง ขอบคุณ Frankston Hospital ครับ
ก็เลยได้กลับมาพักที่โรงแรมที่จองไว้ เช้านี้ดีขึ้นมากแต่ลูกสาวได้แจ้งแล้วตั้งแต่ตอนกลางคืนให้ cancel trip adventure tripนี้ไว้ก่อน พักและเที่ยวแบบสบายๆ เพราะเขาเป็นห่วงแล้วค่อยมาแก้มือทีหลัง... เช้านี้ก็เลยไปเอาจักรยานจากพลเมืองดี Nadia MCcarvin ที่ช่วยเรียกรถambulanceแล้วเรียกรถพยาบาลให้ ได้ขอบคุณเธอและรบกวนให้เธอแนะนำที่จะส่งจักรยานไปยัง Frankston stationเพื่อขึ้นรถไฟกลับ...เธอได้อาสามาส่งให้ ผมขอบคุณและรบกวนให้เธอรับเงินตอบแทนเธอก็ไม่ยอมรับโดยผมบอกว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมและยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำเป็นสิ่งที่ดีมาก...แต่เธอก็ปฎิเสธ ...นับว่าเธอเป็นคนดีจริงๆขอขอบคุณไว้นะที่นี้อีกครั้ง.... ระหว่างทางนั่งมาในรถผมให้เธอชี้ ตำแหน่งที่เธอพบผม ดูแล้วคิดว่าผมน่าจะชนขอบ ฟุตบาทที่ยื่นเข้ามาจากไหล่ทางหลังจาก เลนเลี้ยวซ้ายซึ่งเขาทำไว้เลยขอบถนน ผมเข้าไปเลนเลี้ยวซ้ายนี้เพราะจะได้ปลอดภัยที่ชิดซ้ายแต่ผมปั่นไปทางตรงจึงเจอกับขอบฟุตบาทพอดี โชคดีครับที่ไม่บาดเจ็บมาก ขอบคุณลูกสาว(ซึ่งเป็นห่วงผมมากคอยดูแลทุกอย่าง ไม่ยอมให้ถือกระเป๋าและคอยแต่บอกให้พักตลอด) ขอบคุณผู้ประสบเหตุ และทีมโรงพยาบาล สรุป ผม Disqualified แล้วครับทริปนี้ bye bye.... Sorrento, Queenscliff and Qeelong ... ต้องกลับไปHello Melbourne.ก่อนกำหนดครับ
ตอนอยู่ที่เมลเบิร์น ผมเอาจักรยานไปคืนเสียค่าอุปกรณ์ที่เสียหายคือล้อหน้า หมวกกันน้อคและที่สูบลมประจำรถซึ่งน่าจะหลุดหายไปรวมแล้วประมาณ 6000 บาทเพราะผมไม่ได้ซื้อประกัน คือรู้สึกว่าทริปนี้ง่ายๆ ตอนไปปั่น USA-CANADA ผมซื้อประกันไปเส้นทางขึ้นภูเขามีหิมะก็ผ่านมาแล้วยังเสียดายอยู่ เพราะค่าประกันรวมแล้วทั้ง 4 ทริป ตั้ง 160 USD ที่เมลเบิร์นประกันไม่แพงเท่าแต่ผมก็ตั้งใจมาแล้วว่าจะไม่ซื้อ มันก็เลยเกิดเหตุ มักจะเป็นเสียอย่างนี้ หมวกกันน็อค ผมขอเขา..จะเอามาเป็นที่ระลึก เขาบอกให้ไม่ได้ต้องเอาไปทำลาย ดูเหมือนเขาจะเน้นความปลอดภัยกันมากครับ
และผมได้ส่งข้อความไปโรงแรมที่จองไว้ในQeelong ทางแชทของ booking .com แจ้งว่าผมเสียใจที่ไม่ได้เข้าพักเพราะอุบัติเหตุมีโอกาสคราวหน้าจะมาพักใหม่สิ่งที่โรงแรมตอบมา ทำให้ผมรู้สึกดีมากครับ อวยพรให้ผมหายไวๆ จะตั้งตาคอยวันที่ผมได้มา และจะคืนเงินที่จองไว้ให้เต็มจำนวน!! ...ประเทศนี้มีคนน่ารักเยอะจริงๆครับ ในโชคร้ายของ
ทริปนี้ก็นับว่าผมยังมีโชคดีอยู่บ้างนะครับ
ผมขอจบกระทู้ ด้วยคลิปปั่นในเส้นทางจาก Melbourne ไป Frankston นะครับ
[youtube]
https://youtu.be/3FiGDFlbwGE?feature=shared/youtube]
เพราะเจ็บ...จึงไม่จบกับทริปปั่น @ เมลเบิร์น
หลังจากเสร็จสิ้นทริปปั่น
USA-CANADA อย่างเรียบร้อยประมาณสามเดือนต่อมาก็ได้เวลาทริปปั่นเมลเบิร์น..ไปคนเดียวเช่นเคย แต่มีลูกสาวเรียนอยู่เมืองนี้ น่าจะสบายๆ
ครับรูปด้านบนคือ plan ทริปปั่นของผมที่ Phillips port เริ่มต้นวางแผนไว้ปั่นชิลล์ๆ 4 วันครับ แต่พอดี Air Asia บุฟเฟ่ไปกลับ หาดใหญ่> Melbourne ราคา 7800+บาท ของผม cancel เที่ยวบินที่ออกจาก Kualalumper > Melbourne ผมเลยต้องพักที่KL.1 คืน เสียเวลาที่ Melbourne ไปหนึ่งวันปั่น ผมเลยยกเลิกการปั่นที่ Hasting แต่ยังต้องครบวง 220+ km ปั่น กับ1 ferry trip Sorrento>Queenscliff เส้นทางปั่นเที่ยวจึงกลายเป็น 60,80,80 kmโดยประมาณ
Planวันแรกสะดุดในช่วงเช้าครับ นัดหมายจะเอาของฝากprofessor , roommate และของลูกสาวไปให้ที่ Melbourne University
ในตอนเช้าแต่ฝนตกตั้งแต่เช้า รอไปรอมาก็ไม่หยุด แต่ตกแบบ shower สรุปกว่าจะได้เจอลูกกสาวก็สิบโมงกว่าและกว่าจะได้เช่ารถจักรยานก็ 11.30 น.เช่าจักรยานที่ร้าน Bike now ครับร้านให้เข่าร้านนี้บริการดีมากให้ยางในspare และชุดซ่อมที่สูบลม พร้อมกับหมวกและที่ lock จักรยานเรียบร้อยราคาเช่าวันละ 40 AUD ซึ่งก็ถือว่าไม่แพง แถมยังfitting จักรยานใหัด้วยหลังจากเลือกคันที่จะเช่าได้แล้ว
Tripที่ปั่นก็ดูสบายๆ ออกจาก Melbourne จักรยานสามารถปั่นได้ 3 ช่องทาง คือ Bike Trail ซึ่งเป็นทางปั่นจักรยานยานโดยเฉพาะเพื่อชมธรรมชาติต่างๆระหว่างทางจะมีที่เติมน้ำและที่ซ่อมจักรยานให้ด้วยโดยบางช่วงจะใช้ร่วมกับทางคนเดินออกกำลังกาย
ช่องทางปั่นที่ 2 คือbeach road ก็จะเป็นถนนที่ทำขึ้นต่อจากไหล่ถนนขนานไปกัย state road และช่องทางสุดท้ายคือปั่นใน เลนซ้ายของ state road
ผมเลือกปั่นใน bike trail เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ทำเวลาได้ดีครับประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึง Frankston เมืองท่องเที่ยวชายทะเล ผมนัดเจอกับลูกสาวที่นัดมาจอยกันโดยหลังจากเสร็จภารกิจที่ Melbourne ก็นั่งรถไฟมารอผมที่สถานี Frankston
ตอนเจอกันลูกสาว บอกว่าถึงก่อนผมประมาณ 20 นาที..ก็เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
ผมจอดรถไว้ที่สถานีไปกิน อาหารเวียดนามเดินชมชายหาด และกลัยมาซื้อเสบียงในซูเปอร์ไว้ให้ผมเพราะลูกสาวจะกลับเข้า Melbourne ไม่ได้ไปพักกับผม ทริปวันนี้ผมยังเหลือระยะทางประมาณ 18 km เข้าที่พัก เราแยกกันที่หน้าสถานีรถไฟ ฝนก็ลงปรอยๆมาอีกครั้ง ผมปั่นมาตาม bike trail โดยรู้ว่าเส้นทางจะมืดมากโชคดีผมมีไฟจักรยานที่ลูกสาวเตรียมมาให้เลยปั่นออกมาได้ไม่น่าเชื่อแค่ประมาณห้าโมงกว่าๆ จะมืดถึงเพียงนี้ โชคดีจริงๆที่ได้ไฟฉายรถจักรยานของลูกสาวมา....
เหลืออีกประมาณ 10 กิโลเมตรถึงที่พัก ช่วงเส้นทางปั่นมาmerge(บรรจบ)กับ state road แล้วผมก็ไม่เข้าไปปั่นใน bike trail เพราะมืดมากมองธรรมชาติอะไรไม่เห็นอยู่แล้ว แถมฝนยังตกปรอยๆอีก ผมปั่นต่อบน state road มาจนเหลือระยะทาง 5 กิโลกว่า ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมี Paramed ลงมาจากรถAmbulance และบอกว่าผมล้มจักรยาน ผมให้เบอร์ติดต่อลูกสาวและเขานำตัวผมส่งโรงพยาบาล Frankston มาถึงโรงพยาบาลก็มีคุณพยาบาลมาสัมภาษณ์อาการเช็คสัญญาณชีพและรอดูอาการเกือบสองชั่วโมงโดยคุณหมอยังไม่ว่างมาตรวจ ผมไม่มีอาการมึนศรีษะแต่ดูหมวกกันน้อคข้างขวามีรอยยุบผมไม่มีแผลที่ศรีษะมีแต่แผลถลอกบวมที่หน้าด้านขวา ฟันหน้าซี่ขวาบนแตก
หลังจากสองชั่วโมง แพทย์มาแจ้งว่าจะทำ CT สมอง และเจาะเลือด ผมรบกวนให้คุณหมอช่วยตรวจอาการและผมยินดีจะสังเกตุอาการเพราะจะมีลูกสาวคอยดูแล แพทย์ตรวจพบว่าอาการทางสมองปกติ จึงอนุญาต (ชอบใจการตรวจ memory test โดยให้จำของ3 อย่าง แล้วหลังจากตรวจโน่นตรวจนี่เสร็จก็กลับมาถามอีกที) ซึ่งในเคสอุบัติเหตุบ้านเราไม่ค่อยได้ตรวจเรื่องนี้เราจะตรวจในเรื่องการประเมินสมรรถภาพของสมองของคนสูงอายุทั่วไป มากกว่า
ดูอาการทางสมอง 4 ชั่วโมง ประคบเย็นบริเวณใบหน้า และใช้ steri strip ติดแผลฉีกขาดตื้นๆที่ใต้คิ้วซ้าย คือการดูแลที่ได้รับ พอมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายลุ้นอยู่ว่าเท่าไรนะ...คำตอบที่ได้คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ให้ไปติดต่อทางหน่วยรถ Ambulance ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนนั้นมั้ย ที่หน่วยAmbulance บอกว่าเป็นอุบัติเหตุน่าจะฟรี แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายอะไรจะแจ้งไปทางmail ภายใน 2 สัปดาห์ (ผมกลับ มาเมืองไทยแล้วสัปดาห์ที่3 ก็ไม่มีmail จึงmailไปถามก็ไม่มีค่าใช้จ่ายจริงๆ) งงครับมีแต่คนบอกว่าเจ็บป่วยเมืองนอกค่าใช้จ่ายจะแพง ขอบคุณ Frankston Hospital ครับ
ก็เลยได้กลับมาพักที่โรงแรมที่จองไว้ เช้านี้ดีขึ้นมากแต่ลูกสาวได้แจ้งแล้วตั้งแต่ตอนกลางคืนให้ cancel trip adventure tripนี้ไว้ก่อน พักและเที่ยวแบบสบายๆ เพราะเขาเป็นห่วงแล้วค่อยมาแก้มือทีหลัง... เช้านี้ก็เลยไปเอาจักรยานจากพลเมืองดี Nadia MCcarvin ที่ช่วยเรียกรถambulanceแล้วเรียกรถพยาบาลให้ ได้ขอบคุณเธอและรบกวนให้เธอแนะนำที่จะส่งจักรยานไปยัง Frankston stationเพื่อขึ้นรถไฟกลับ...เธอได้อาสามาส่งให้ ผมขอบคุณและรบกวนให้เธอรับเงินตอบแทนเธอก็ไม่ยอมรับโดยผมบอกว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมและยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำเป็นสิ่งที่ดีมาก...แต่เธอก็ปฎิเสธ ...นับว่าเธอเป็นคนดีจริงๆขอขอบคุณไว้นะที่นี้อีกครั้ง.... ระหว่างทางนั่งมาในรถผมให้เธอชี้ ตำแหน่งที่เธอพบผม ดูแล้วคิดว่าผมน่าจะชนขอบ ฟุตบาทที่ยื่นเข้ามาจากไหล่ทางหลังจาก เลนเลี้ยวซ้ายซึ่งเขาทำไว้เลยขอบถนน ผมเข้าไปเลนเลี้ยวซ้ายนี้เพราะจะได้ปลอดภัยที่ชิดซ้ายแต่ผมปั่นไปทางตรงจึงเจอกับขอบฟุตบาทพอดี โชคดีครับที่ไม่บาดเจ็บมาก ขอบคุณลูกสาว(ซึ่งเป็นห่วงผมมากคอยดูแลทุกอย่าง ไม่ยอมให้ถือกระเป๋าและคอยแต่บอกให้พักตลอด) ขอบคุณผู้ประสบเหตุ และทีมโรงพยาบาล สรุป ผม Disqualified แล้วครับทริปนี้ bye bye.... Sorrento, Queenscliff and Qeelong ... ต้องกลับไปHello Melbourne.ก่อนกำหนดครับ
ตอนอยู่ที่เมลเบิร์น ผมเอาจักรยานไปคืนเสียค่าอุปกรณ์ที่เสียหายคือล้อหน้า หมวกกันน้อคและที่สูบลมประจำรถซึ่งน่าจะหลุดหายไปรวมแล้วประมาณ 6000 บาทเพราะผมไม่ได้ซื้อประกัน คือรู้สึกว่าทริปนี้ง่ายๆ ตอนไปปั่น USA-CANADA ผมซื้อประกันไปเส้นทางขึ้นภูเขามีหิมะก็ผ่านมาแล้วยังเสียดายอยู่ เพราะค่าประกันรวมแล้วทั้ง 4 ทริป ตั้ง 160 USD ที่เมลเบิร์นประกันไม่แพงเท่าแต่ผมก็ตั้งใจมาแล้วว่าจะไม่ซื้อ มันก็เลยเกิดเหตุ มักจะเป็นเสียอย่างนี้ หมวกกันน็อค ผมขอเขา..จะเอามาเป็นที่ระลึก เขาบอกให้ไม่ได้ต้องเอาไปทำลาย ดูเหมือนเขาจะเน้นความปลอดภัยกันมากครับ
และผมได้ส่งข้อความไปโรงแรมที่จองไว้ในQeelong ทางแชทของ booking .com แจ้งว่าผมเสียใจที่ไม่ได้เข้าพักเพราะอุบัติเหตุมีโอกาสคราวหน้าจะมาพักใหม่สิ่งที่โรงแรมตอบมา ทำให้ผมรู้สึกดีมากครับ อวยพรให้ผมหายไวๆ จะตั้งตาคอยวันที่ผมได้มา และจะคืนเงินที่จองไว้ให้เต็มจำนวน!! ...ประเทศนี้มีคนน่ารักเยอะจริงๆครับ ในโชคร้ายของ
ทริปนี้ก็นับว่าผมยังมีโชคดีอยู่บ้างนะครับ
ผมขอจบกระทู้ ด้วยคลิปปั่นในเส้นทางจาก Melbourne ไป Frankston นะครับ
[youtube]https://youtu.be/3FiGDFlbwGE?feature=shared/youtube]