เพราะ ปีหน้า CGM48 รุ่น1 หมดสัญญาแล้ว ถ้าไม่สามารถคัดเด็ก ที่มาแบกวงต่อได้ เหมือนที่ BNK48 มี รุ่นที่3 แล้วตอนนี้ รุ่น4 รุ่น5 ก็ดูจะมีอนาคตที่สดใส
สถานการณ์ของ CGM48 จะหนักกว่า BNK48 ที่ขาดรุ่น1 เยอะมากๆ เพราะ CGM48 คนน้อย และ ยอดมันกระจุกอยู่แค่ รุ่น1 รุ่นเดียวแค่ไม่กี่คน
ต่างจาก BNK48 ที่รุ่น1 เคยแบกยอดก็จริง แต่ก็ยังมีรุ่น2 รุ่น3 รวมๆจำนวนคนแล้วมันเยอะกว่า
ฝั่ง CGM48 ถ้าตัดยอดขายของ คนิ้ง พิม และ สิตา ไปเพียง3คน ยอดจะหายไปเกือบๆ 60-70% เลย
เพราะฉะนั้น รุ่น3 CGM48 คือตัวชี้วัด อนาคตของวงเลยก็ว่าได้
ปัญหาเดียวที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือ เด็กคุณภาพสูงๆ จะไม่ค่อยอยากไปอยู่เชียงใหม่ หลายๆคนหวังให้แคนดิเดต ที่ตกรอบ BNK48 รุ่น5 ไปออดิชั่น CGM48 ผมเชื่อว่ามีบางคนไปนะโดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด แต่เด็กในกรุงเทพ น่าจะไม่ไปกัน โดยเฉพาะน้องที่เรียนมหาลัยในกรุงเทพ ปี2ขึ้นไปแล้ว ยิ่งยาก
CGM48 รุ่น3 ต้องคัดให้ดีๆ ให้เหมือน BNK48 รุ่น3
สถานการณ์ของ CGM48 จะหนักกว่า BNK48 ที่ขาดรุ่น1 เยอะมากๆ เพราะ CGM48 คนน้อย และ ยอดมันกระจุกอยู่แค่ รุ่น1 รุ่นเดียวแค่ไม่กี่คน
ต่างจาก BNK48 ที่รุ่น1 เคยแบกยอดก็จริง แต่ก็ยังมีรุ่น2 รุ่น3 รวมๆจำนวนคนแล้วมันเยอะกว่า
ฝั่ง CGM48 ถ้าตัดยอดขายของ คนิ้ง พิม และ สิตา ไปเพียง3คน ยอดจะหายไปเกือบๆ 60-70% เลย
เพราะฉะนั้น รุ่น3 CGM48 คือตัวชี้วัด อนาคตของวงเลยก็ว่าได้
ปัญหาเดียวที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือ เด็กคุณภาพสูงๆ จะไม่ค่อยอยากไปอยู่เชียงใหม่ หลายๆคนหวังให้แคนดิเดต ที่ตกรอบ BNK48 รุ่น5 ไปออดิชั่น CGM48 ผมเชื่อว่ามีบางคนไปนะโดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด แต่เด็กในกรุงเทพ น่าจะไม่ไปกัน โดยเฉพาะน้องที่เรียนมหาลัยในกรุงเทพ ปี2ขึ้นไปแล้ว ยิ่งยาก