พอดีเห็นมี influencer ทางธรรมะบางท่าน
ให้ความเห็นว่า
"พระอรหันต์ยังโกรธ แต่ไม่ได้ยึดมั่นความโกรธว่าเป็นตัวเป็นตน"
โดยอ้างคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า
ที่องค์ท่านเคยตอบคำถามเป็นอุบายเอาไว้
'พระอรหันต์ยังมีความโกรธ แต่ท่านไม่เอา'
ผมลองค้นหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตและพระไตรปิฏก
ส่วนตัวเข้าใจไปเองว่า จิตพระอรหันต์ยังมีอารมณ์ทั่วไป
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าขันธ์ห้าของพระอรหันต์ท่าน
ยังปรุงความโกรธได้อีกหรือเปล่าครับ
ก. เพราะตามที่ผมเข้าใจ คือ โลภ โกรธ หลงนี่
มันเกิดได้เพราะยังมีอวิชชาเห็นว่าผัสสะเป็นอัตตาตัวตน
เลยไปปรุงความโลภ โกรธ หลงขึ้นมาได้
ถ้าเป็นตามนี้แสดงว่าขันธ์ห้าของพระอรหันต์
ที่ท่านไม่มีความหลงผิดแล้ว ย่อมไม่สามารถปรุงแต่ง
ความโลภโกรธหลงขึ้นมาได้
ข. หรือว่าความจริงคือ โลภ โกรธ หลงเป็นธาตุธรรมชาติ
ที่ยังเกิดกับขันธ์ห้าของทุกคน เลยยังเกิดได้กับพระอรหันต์
แต่เนื่องจากผู้บรรลุเป็นอรหันต์ไม่มีความเห็นผิด
ท่านเลยไม่ได้ไปยึดอาการ หรืออารมณ์โลภโกรธหลงนั้น
ให้เป็นตัวตนขึ้นมาครับ ?
อยากขอทราบเป็นความรู้
ตามวิสัยผู้ที่สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาครับ
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาผู้ให้ความรู้ทุกท่านครับ
พระอรหันต์ยังโกรธแต่ไม่ยึดเป็นตัว หรือว่าไม่มีความโกรธอีกแล้วครับ ?
ให้ความเห็นว่า
"พระอรหันต์ยังโกรธ แต่ไม่ได้ยึดมั่นความโกรธว่าเป็นตัวเป็นตน"
โดยอ้างคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า
ที่องค์ท่านเคยตอบคำถามเป็นอุบายเอาไว้
'พระอรหันต์ยังมีความโกรธ แต่ท่านไม่เอา'
ผมลองค้นหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตและพระไตรปิฏก
ส่วนตัวเข้าใจไปเองว่า จิตพระอรหันต์ยังมีอารมณ์ทั่วไป
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าขันธ์ห้าของพระอรหันต์ท่าน
ยังปรุงความโกรธได้อีกหรือเปล่าครับ
ก. เพราะตามที่ผมเข้าใจ คือ โลภ โกรธ หลงนี่
มันเกิดได้เพราะยังมีอวิชชาเห็นว่าผัสสะเป็นอัตตาตัวตน
เลยไปปรุงความโลภ โกรธ หลงขึ้นมาได้
ถ้าเป็นตามนี้แสดงว่าขันธ์ห้าของพระอรหันต์
ที่ท่านไม่มีความหลงผิดแล้ว ย่อมไม่สามารถปรุงแต่ง
ความโลภโกรธหลงขึ้นมาได้
ข. หรือว่าความจริงคือ โลภ โกรธ หลงเป็นธาตุธรรมชาติ
ที่ยังเกิดกับขันธ์ห้าของทุกคน เลยยังเกิดได้กับพระอรหันต์
แต่เนื่องจากผู้บรรลุเป็นอรหันต์ไม่มีความเห็นผิด
ท่านเลยไม่ได้ไปยึดอาการ หรืออารมณ์โลภโกรธหลงนั้น
ให้เป็นตัวตนขึ้นมาครับ ?
อยากขอทราบเป็นความรู้
ตามวิสัยผู้ที่สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาครับ
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาผู้ให้ความรู้ทุกท่านครับ