เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยผมยังเด็ก แต่ยังจำได้ไม่ลืมครับ ขอระลึกถึงความหลังสักหน่อยโดยการขอใช้พื้นที่พันทิปครับ
บ้านผมที่ต่างจังหวัดจะอยู่กันเป็นหมู่บ้าน โดยมีถนนคอนกรีตตัดผ่านรอบๆหมู่บ้าน แบบมาบรรจบกัน ใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงป่าคำชะโนดครับ อย่างนั้นเลยต่างกันตรงที่ป่าคำชะโนดจะเป็นลักษณะเกาะกลางน้ำ แต่หมู่บ้านผม เป็นเกาะแบบมีหมู่บ้านอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยถนนคอนกรีต แต่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านคนเช่นกัน
ตรงข้ามบ้านผมเป็นที่ทำการไปรษณีย์หมู่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว เป็นบ้านเปล่าๆให้คนมาเช่าอยู่ ได้ข่าวว่าแกไปสร้างบ้านอยู่ในตัวเมืองพิดโลกครับ สมัยนั้นบ้านเราเด็กทุกคนจะเรียกเเกว่าน้าศาสตร์ นัยย์ว่านับถือเป็นน้องแม่ครับ ส่วนแฟนน้าศาสตร์แกชื่อน้าเงาะ สวย เซ็กซี่ ใหม่ เจริญปุระ ยังไงยังงั้นครับ น้าศาสตร์ก็พงษ์พัฒน์ครับ
วันเงินเดือนออกที่ทำการไปรษณีย์ของน้าศาสตร์ชอบตั้งวงกินเหล้ากันครับ ก็อย่างว่าแกทำไปรษณีย์ เพื่อนแกก็เยอะ เก๋า วัยรุ่นทั้งนั้น มีการร้องเพลง ตีกลอง เคาะขวด เคาะแก้ว จนดึกดื่นกว่าจะเลิก ชาวบ้านแถวนั้นชินแล้ว รวมทั้งบ้านผมด้วยครับ
แล้ววันที่ผมจำได้ไม่ลืมคือ วันนั้นสิ้นเดือนบ้านผมรับงานแห่นาค พ่อผมพาวงกลับมาก็เมาละ (บ้านผมสมัยก่อนมีวงดนตรีแห่นาคนะครับ ตอนนี้พ่อเสียไม่มีใครทำต่อ น่าเสียดายครับ) ด้วยความที่พ่อผมเมา พี่สาวผมก็กลัวพ่อจะหาเรื่องตีแม่ หรือ บางทีแกก็เอาปืนมายิงขึ้นฟ้าครับ เช้ามาต้องไปเคลียร์ที่บ้านกำนัน ไม่ใช่อะไรครับมีคนไปแจ้ง ประจำ แต่พ่อก็ไม่เข็ดครับ😅
ด้วยความที่กลัวแม่จะโดนพ่อตี คืนนั้นพี่สาวผมจึงพาแม่ ผม และน้องสาวผมไปนอนบ้านตายายครับ ไม่ไกลเท่าไร ถัดกันไปไม่กี่หลังครับ ปล่อยพ่ออยู่บ้านคนเดียว คิดว่าพ่ออยู่คนเดียวไม่น่าจะเป็นไร เพราะแกเมาเดี๋ยวคงเข้านอน
(อ๋อ พ่อผมเคยเอาปืนไปยิงขึ้นฟ้าหน้าบ้าน ตา ยาย ผมมาแล้ว เจ๋งป่ะละครับพ่อผม😅
ประมาณตี 1 กว่าๆ พี่สาวผมได้ยินเสียงเอะอะ เสียงโครมคราม มาจากทางบ้านผม แกก็นอนไม่หลับกลัวพ่อจะเอาปืนมายิงขึ้นฟ้าอีก แกตัดสินใจแอบย่องมาดูพ่อ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยห้าม แกมาคนเดียว มืดๆ ไม่ได้เอาใครมาเป็นเพื่อนด้วย ส่วนผมก็นอนหลับไม่รู้เรื่องครับ
ปรากฏว่าบ้านผม พ่อปิดไฟนอน มืดหมดแล้ว เสียงที่ดังมาจากวงเหล้าบ้านน้าศาสตร์ครับ พี่สาวผมเลยเดินกลับแบบโล่งอกไปที พอรู้ที่มาของเสียงว่าไม่ใช่จากพ่อ
มารู้ตอนเช้าที่ร้านป้าตลับร้านขายกับข้าว ผักสด ว่าที่เสียงดังบ้านน้าศาสตร์เมื่อคืน คือมีคนเจอผีครับ😳 น้าแขกเพื่อนน้าศาสตร์แกเห็นผู้หญิงเดินกางร่มสีดำผ่านวงเหล้าแกไปตามถนน แกก็นึกเอะใจ ดึกแล้วใครที่ไหนมาเดินกางร่ม ฝนก็ไม่ตก แกจึงเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปครับ แล้วตามประสาคนเมา ไม่กลัวใครครับ แกก็เอื้อมมือไปแตะบ่าผู้หญิงคนนั้น แล้วถามว่ามาเดินกางร่มอะไรตอนนี้ ฝนก็ไม่ตกนะ
ทันใดนั้น! ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามา พระเจ้า! ใบหน้าที่ปรากฏต่อสายตาน้าแขกคือ ใบหน้าเปล่าๆครับ! ไม่มีตา ไม่มีหู ไม่มีปาก ไม่มีจมูก เอาง่ายๆคือโล่งทั้งหน้าครับ น้าแขกตกใจมากร้องเว้อ!!! สุดเสียง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หมุนตัวเอง แบบถือร่มแล้วหมุนครับ ประมาณ 3 รอบก็หายไปครับ หน้าแขกวิ่งกลับมาที่วงเหล้าโวยวายว่าโดนผีหลอก ต้นเหตุแห่งเสียงเอะอะครับ ไม่ใช่มาจากบ้านผม!
ผีกางร่มจึงเป็นเรื่องเล่าที่ดังมากสมัยนั้น แบบที่ผมจำได้ไม่ลืมครับ บรื๋ออออ!!!
ผีกางร่ม
บ้านผมที่ต่างจังหวัดจะอยู่กันเป็นหมู่บ้าน โดยมีถนนคอนกรีตตัดผ่านรอบๆหมู่บ้าน แบบมาบรรจบกัน ใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงป่าคำชะโนดครับ อย่างนั้นเลยต่างกันตรงที่ป่าคำชะโนดจะเป็นลักษณะเกาะกลางน้ำ แต่หมู่บ้านผม เป็นเกาะแบบมีหมู่บ้านอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยถนนคอนกรีต แต่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านคนเช่นกัน
ตรงข้ามบ้านผมเป็นที่ทำการไปรษณีย์หมู่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว เป็นบ้านเปล่าๆให้คนมาเช่าอยู่ ได้ข่าวว่าแกไปสร้างบ้านอยู่ในตัวเมืองพิดโลกครับ สมัยนั้นบ้านเราเด็กทุกคนจะเรียกเเกว่าน้าศาสตร์ นัยย์ว่านับถือเป็นน้องแม่ครับ ส่วนแฟนน้าศาสตร์แกชื่อน้าเงาะ สวย เซ็กซี่ ใหม่ เจริญปุระ ยังไงยังงั้นครับ น้าศาสตร์ก็พงษ์พัฒน์ครับ
วันเงินเดือนออกที่ทำการไปรษณีย์ของน้าศาสตร์ชอบตั้งวงกินเหล้ากันครับ ก็อย่างว่าแกทำไปรษณีย์ เพื่อนแกก็เยอะ เก๋า วัยรุ่นทั้งนั้น มีการร้องเพลง ตีกลอง เคาะขวด เคาะแก้ว จนดึกดื่นกว่าจะเลิก ชาวบ้านแถวนั้นชินแล้ว รวมทั้งบ้านผมด้วยครับ
แล้ววันที่ผมจำได้ไม่ลืมคือ วันนั้นสิ้นเดือนบ้านผมรับงานแห่นาค พ่อผมพาวงกลับมาก็เมาละ (บ้านผมสมัยก่อนมีวงดนตรีแห่นาคนะครับ ตอนนี้พ่อเสียไม่มีใครทำต่อ น่าเสียดายครับ) ด้วยความที่พ่อผมเมา พี่สาวผมก็กลัวพ่อจะหาเรื่องตีแม่ หรือ บางทีแกก็เอาปืนมายิงขึ้นฟ้าครับ เช้ามาต้องไปเคลียร์ที่บ้านกำนัน ไม่ใช่อะไรครับมีคนไปแจ้ง ประจำ แต่พ่อก็ไม่เข็ดครับ😅
ด้วยความที่กลัวแม่จะโดนพ่อตี คืนนั้นพี่สาวผมจึงพาแม่ ผม และน้องสาวผมไปนอนบ้านตายายครับ ไม่ไกลเท่าไร ถัดกันไปไม่กี่หลังครับ ปล่อยพ่ออยู่บ้านคนเดียว คิดว่าพ่ออยู่คนเดียวไม่น่าจะเป็นไร เพราะแกเมาเดี๋ยวคงเข้านอน
(อ๋อ พ่อผมเคยเอาปืนไปยิงขึ้นฟ้าหน้าบ้าน ตา ยาย ผมมาแล้ว เจ๋งป่ะละครับพ่อผม😅
ประมาณตี 1 กว่าๆ พี่สาวผมได้ยินเสียงเอะอะ เสียงโครมคราม มาจากทางบ้านผม แกก็นอนไม่หลับกลัวพ่อจะเอาปืนมายิงขึ้นฟ้าอีก แกตัดสินใจแอบย่องมาดูพ่อ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยห้าม แกมาคนเดียว มืดๆ ไม่ได้เอาใครมาเป็นเพื่อนด้วย ส่วนผมก็นอนหลับไม่รู้เรื่องครับ
ปรากฏว่าบ้านผม พ่อปิดไฟนอน มืดหมดแล้ว เสียงที่ดังมาจากวงเหล้าบ้านน้าศาสตร์ครับ พี่สาวผมเลยเดินกลับแบบโล่งอกไปที พอรู้ที่มาของเสียงว่าไม่ใช่จากพ่อ
มารู้ตอนเช้าที่ร้านป้าตลับร้านขายกับข้าว ผักสด ว่าที่เสียงดังบ้านน้าศาสตร์เมื่อคืน คือมีคนเจอผีครับ😳 น้าแขกเพื่อนน้าศาสตร์แกเห็นผู้หญิงเดินกางร่มสีดำผ่านวงเหล้าแกไปตามถนน แกก็นึกเอะใจ ดึกแล้วใครที่ไหนมาเดินกางร่ม ฝนก็ไม่ตก แกจึงเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปครับ แล้วตามประสาคนเมา ไม่กลัวใครครับ แกก็เอื้อมมือไปแตะบ่าผู้หญิงคนนั้น แล้วถามว่ามาเดินกางร่มอะไรตอนนี้ ฝนก็ไม่ตกนะ
ทันใดนั้น! ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามา พระเจ้า! ใบหน้าที่ปรากฏต่อสายตาน้าแขกคือ ใบหน้าเปล่าๆครับ! ไม่มีตา ไม่มีหู ไม่มีปาก ไม่มีจมูก เอาง่ายๆคือโล่งทั้งหน้าครับ น้าแขกตกใจมากร้องเว้อ!!! สุดเสียง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หมุนตัวเอง แบบถือร่มแล้วหมุนครับ ประมาณ 3 รอบก็หายไปครับ หน้าแขกวิ่งกลับมาที่วงเหล้าโวยวายว่าโดนผีหลอก ต้นเหตุแห่งเสียงเอะอะครับ ไม่ใช่มาจากบ้านผม!
ผีกางร่มจึงเป็นเรื่องเล่าที่ดังมากสมัยนั้น แบบที่ผมจำได้ไม่ลืมครับ บรื๋ออออ!!!