อายุ 35 ปี กับความรู้สึกที่ดิ่งมากหลังจากออกมาจากงานประจำ และมาทำธุรกิจตัวเอง

วันนี้เราดิ่งมากๆ เลยอย่างจะมาเขียนที่คือเรียกว่าระบายก็ได้  และก็ถ้าใครมีความคิดเห็นอะไรที่อยากแนะนำกัน comment ได้เลยนะคะ
ก่อนอื่นเรา อายุ 35 ปี ก่อนลาออกจากงานทำงานเป็น Sales Engineer มา 9 ปี สาเหตุของการลาออก คือ รู้สึกเบื่อกับงานที่ทำมานานมากและ สังคมที่ทำงานที่ค้องข้างมีความ Toxic ประมาณนึง

ช่วงที่เราทำงานเรารู้สึกว่าเราก็ทำงานประจำได้ค่อนข้างโดดเด่น ทำให้เรามั่นใจว่าเราน่าจะสามารถทำธุรกิจเป็นของตัวเองได้ และหลังจากที่เราออกจากงานเราก็มี supplier ชวนไปทำงานต่างประเทศ และ ในไทย ประมาณ 2-3 ที่ แต่ด้วยความมั่นใจในตัวเองอยากทำเองอยากเปิดบริษัท และในที่สุดเราก็เปิดบริษัท และมีหุ้นส่วนด้วย ในช่วงแรก เราหาลูกค้าพอได้ในช่วงแรก คือช่วงที่เราลาพักร้อนยาวๆก่อนออกจากงานประจำ เราก็เริ่มแจ้งลูกค้า แล้วลูกค้าที่ดิวๆอยู่เค้ารู้ เลยให้เราหาอุปกรณ์นั่นนี่ให้ เรากับหุ้นส่วนถนัด Product คนละแบบ ทางเค้าก็มียอดเข้ามาเหมือนกันช่วงนั้น ต่อมาช่างหลังยอดของเราเงียบแบบเงียบไปเลย แต่ของเค้ายอดยังเข้าอยู่ จนหุ้นส่วนบ่นว่า ให้มาช่วยกันหางาน ไม่ใช่ช่วยแบ่งเงิน ซึ่งในบริษัทเราทำหน้าที่อื่นด้วย เราฟังปั๊ปเราดิ่งมากๆ มานั่งดูตัวเอง และรู้สึกว่าเราเอาเปรียบเค้ามากๆ ทั้งละอายใจด้วย และตั้งคำถามตัวเองว่าเราเก่งจริงๆใช่ไหม เรากระจอกใช่ป่ะวะ เราหลอกตัวเองอยู่หรือป่าว เหตุการณ์พึ่งเกิดสดๆร้อนๆวันนี้ เราเลยคิดว่าหรือเราจะกลับไปทำงานประจำเพื่อเติมจุดโหว่ที่เรามองเห็นข้อบกพร่องที่เรานั่งมองตัวเองว ณ วันนี้ ก่อนดีไหม ซึ่งก็คือบริษัท Supplier ที่ติดต่อมา ส่วนเรื่องรายได้เราตกลงกับหุ้นส่วนตั้งแต่ก่อนตั้งบริษัทว่า ได้งานก็แบ่งเท่ากัน คือจ่ายเงินเดือนตัวเองเท่ากัน ซึ่งมันยังไม่พอค่าใช้จ่ายส่วนตัวเรา เราก็เลยเอาเงินเก็บออกมาใช้บ้างเพราะ ณ ตอนนี้รายได้เข้าบริษัทยังไม่เยอะด้วย ส่วนหุ้นส่วนเราเค้ามีธุรกิจของเค้าเองด้วยต่างหากทำให้เค้าไม่เดือดร้อน

เราควรจะทำไงต่อไปดีคือเราจะฮึดสู้ ขยันมากขึ้น ในการหาลูกค้า กับธุรกิจส่วนตัว สู้กับมันอีกสักตั้ง หรือ เราควรกลับไปทำงานประจำที่ supplier ติดต่อมา

ไม่รู้ว่าเราเขียนรู้เรื่องไหม ถ้าไม่รู้เรื่องต้องขอโทษด้วยนะคะ 
ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะsmile
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่