เที่ยวนี้แกคงลาออกจริง ๆ แล้วล่ะ ต่อให้นายกสมาคมไปตามแกกลับมาก็คงไม่กลับแล้ว การตัดสินใจรับจ๊อบไปคุมทีมสโมสรในลีกอินโด 1 ฤดูกาลยืนยันได้ว่าแกตัดสินถอนตัวจากเฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่แน่นอนแล้ว ถึงเวลาที่แกต้องทำเพื่อตัวเองและคนในครอบครัว ลีกต่างประเทศคงจ่ายค่าจ้างดีกว่าอยู่ในไทย เป็นใคร ๆ ก็ไป อย่างโค้ชชำนาญเองที่เห็นไปคุมทีมสโมสรในลีกอินโดมาหลายรอบแล้ว ไม่ต้องเป็นเฮดโค้ชทีมชาติ ก็จะมีอิสระสามารถรับจ๊อบคุมทีมสโมสรในลีกอาเชี่ยนได้สบาย ตอนมาก็มาด้วยใจเพราะนายกสมาคมร้องขอ ดังนั้นตอนจะไป เขาก็สามารถไปได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้สมาคมหาโค้ชคนใหม่มาแทนให้ได้ก่อนค่อยไป และไม่ต้องกังวลว่าการไปของตัวเองจะส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการคุมทีมชาติหรือไม่อย่างไร อันนี้คือ ข้อเสียของการอยู่กันแบบครอบครัว ถ้าคนในครอบครัวคิดถึงตัวเองก่อนคนในครอบครัวเมื่อไหร่ก็จะเกิดการชิ่งกลางครันแบบนี้ให้เห็นได้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ผมไม่ตำหนิโค้ชด่วนที่ตัดสินใจปล่อยมือจากการคุมทีมชาติไทยแล้วเลือกไปคุมทีมในลีกอินโด เพราะมันคือวิถีทางที่โค้ชจะต้องเลือกเดินทางนี้อยู่แล้ว ขออวยพรให้โค้ชด่วน และโค้ชชำนาญ ประสบความสำเร็จกับการทำหน้าที่โค้ชคุมทีมในลีกอินโด มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมาเลี้ยงดูตนเองและคนในครอบครัว

ส่วนแกไปแล้ว ใครจะมาเป็นเฮดโค้ชแทน ก็เป็นหน้าที่ของนายกสมาคมที่ต้องไปเชิญโค้ชคนใหม่มารับหน้าที่เฮดโค้ชแทน อาจเป็นไปได้ที่นายกสมพรจะทาบทามโค้ชยะให้กลับมาช่วยคุมทีมคราวก่อนจะหาเฮดโค้ชคนใหม่ได้ เพราะเราอยู่กันแบบครอบครัว เมื่อสมาชิกในครอบครัวออกจากบ้านไป 1 คน เขาไปเผชิญโลกกว้างเพื่อแสวงหาความท้าทายให้กับชีวิต สมาชิกคนอื่นที่ยังเหลืออยู่ก็ต้องออกหน้าเข้ามาช่วยกันรับหน้าที่แทน ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายอยู่แล้ว