เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเคยมีหมาตัวหนึ่งที่รับเลี้ยงต่อจากพี่ชายของแม่ หมาตัวนั้นชื่อ”แพนด้า” แพนด้าเป็นหมาพุดเดิ้ล มีขนสีขาวลายจุดมีนิสัยร่าเริง น่ารัก พอเห็นเราหรือใครก็จะกระโดดด๋องๆมาเลียหน้า เราชอบแพนด้ามาก เรารับเลี้ยงแพนด้าอยู่ได้ปีกว่าๆ ระหว่างที่รับเลี้ยง ในช่วงแรกๆเราเล่นกับแพนด้าตลอดเลย แต่ช่วงหลังเราติดโทรศัพท์ก็เลยให้ความสนใจแพนด้าน้อยลง แต่แพนด้าก็ยังเป็นหมาที่ร่าเริงอยู่เสมอ ทุกเย็นพอเรากลับจากโรงเรียนแพนด้าก็จะกระโดดมาต้อนรับตลอด(ทุกๆเย็นเลย) แต่มีวันหนึ่งเราต้องไปเที่ยวกับทะเลกับพ่อกับแม่ แม่เลยเอาแพนด้าไปฝากไว้กับพี่ชาย(คุณลุง) จากนั้นพอกลับมาจากเที่ยว แม่ก็ไม่เอาแพนด้ากลับมาเลี้ยง(เราจำเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมแม่ถึงไม่เลี้ยงแพนด้าต่อ แต่น่าจะเป็นเพราะแม่ไม่ให้มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เพราะพี่ชายป่วย และแม่ไม่อยากยุ่งยากหาอาหารให้) เราเสียใจมาก เราคิดถึงแพนด้า แต่เราก็ยังสามารถเจอหน้ากันได้อยู่เวลาไปบ้านคุณลุง เวลาแพนด้าเห็นรถเรา(แพนด้าจำรถที่ครอบครัวเราขับได้) แพนด้าก็จะส่ายหาง แววตาตื่นเต้น พอเราหรือใครลงมาจากรถก็จะกระโดดเลียหน้า เป็นอย่างงี้ตลอดเลยเวลาเราไปบ้านลุง จนผ่านไป 3-4 ปี แพนด้าก็ยังส่ายหางตื่นเต้นทุกครั้งที่เราหรือครอบครัวเราไปหา (เราคิดถึงแพนด้ามากๆเลย เราคิดว่าแพนด้าอาจจะอยากไปอยู่กับเรารึเปล่า?) ลืมบอกไปว่าตอนเราเอาแพนด้ามา คุณลุงเลี้ยงแพนด้ารวมกับพี่น้องของแพนด้าและแม่แพนด้า เราเอาแพนด้ามาเลี้ยงตัวเดียว พอเราเอาแพนด้ามาคืนคุณลุง แพนด้าก็ได้กลับมาอยู่กับพี่น้องกับแม่
เหตุการณ์การก็เป็นอย่างงี้มาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือเราไปบ้านคุณลุงน้อยลง เวลาแพนด้าเห็นเราก็ยังส่ายหาง เดินมาหาเรา และกระโดดใส่ แต่ความตื่นเต้นหรือกระตือรือร้นมีน้อยลง(เราไม่รู้ว่าแพนด้าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากที่จะมีพลังอ่านความคิดของแพนด้าได้) จนเวลาผ่านไป เราก็มาบ้านคุณลุงบ้างเป็นบางครั้ง แต่มาคราวนี้เราไม่ได้เห็นแพนด้าออกมาต้อนรับ แต่เราก็ไม่เอะใจอะไร คิดว่าแพนด้าน่าจะออกไปเล่นหรืออยู่ที่ไหนสักที่ เราก็มาบ้านคุณลุงเรื่อยๆแต่ไม่บ่อย(ที่ครอบครัวเรามาบ้านคุณลุง เพราะว่าครอบครัวเรามีสวนมะม่วงอยู่หน้าบ้านคุณลุง แม่และเราก็เลยต้องมาดูแลบ้างบางคราว)
เวลาล่วงเลยผ่านไป เราก็ไม่ได้คิดถึงแพนด้าแล้ว(…) จนเมื่อต้นปีก่อนเราพึ่งมารู้ว่าแพนด้าตายไปแล้ว แม่เล่าให้ฟังว่า แพนด้าโดนรถเหยียบ เราฟังแล้วก็ได้แต่เงียบ ใจหาย ในใจรู้สึกโหวงๆ คืนนั้นในห้องของตัวเองเราคิดทบทวนทวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เรารับแพนด้ามาเลี้ยง ได้เล่นด้วยกัน ได้เห็นความน่ารักของแพนด้า จู่ๆน้ำตาเราก็ไหล คืนนั้นเราร้องไห้หนักมาก จนหลายวันผ่านไปก็ยังเสียใจและร้องไห้กับเรื่องนี้ เราคิดมาตลอดว่าเราคงไม่ได้ผูกพันธ์กับแพนด้าขนาดนั้นแล้ว แต่ตรงกันข้าม ทำไมเราต้องรู้สึกเสียใจ เศร้า และร้องไห้ด้วยหล่ะ แค่หมาตัวหนึ่งตายไปไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วช่วงที่รับแพนด้ามาเลี้ยง เป็นช่วงที่เราเริ่มทะเลาะกับเพื่อนทำให้เครียด แพนด้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราก้าวผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้ แพนด้าทำให้เรามีความสุข ทำให้ถึงแม้จะทะเลาะกับเพื่อน ไม่มีเพื่อนยังไง พอกลับบ้านไปเจอแพนด้า เราก็ลืมความเศร้าที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้ว
มาตอนนี้แพนด้าตายไปแล้ว เราก็ต้องทำใจให้ได้ ผ่านมาหนึ่งปี อยู่มาวันหนึ่งแม่เราก็เอาลูกหมามาเลี้ยง เป็นลูกหมาของแม่หมาจรที่โรงเรียนแถวๆนั้น แม่หมามีลูก 8 ตัว แม่เราเลยเอาลูกแม่หมามา 1 ตัว โดยแม่ให้พี่เลือก ซึ่งพี่เลือกจากเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของลูกสุนัขตัวนั้น มาปีนี้เราและแม่อยู่กันคนละบ้าน แม่ย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน ส่วนเราอยู่บ้านที่เดิมซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนที่เราเรียนอยู่ บ้านที่แม่อยู่กับบ้านที่เราอยู่อยู่ไกลกันประมาณ 50-60 กิโลเมตร ซึ่งไกลมากๆ แม่จะกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ส่วนเราก็อยู่กับพ่อ จะมีบางครั้งที่เราไปบ้านที่แม่อยู่ เพราะมีธุระหรือไม่ก็มีงานบุญ และเราก็ได้รู้ว่าแม่เอาลูกหมามาเลี้ยง (ต่อไปนี้เราจะขอเรียกลูกหมา ว่า*หมา*เฉยๆ จริงๆหมามีชื่ออยู่ แต่อยากแทนว่าอย่างนี้) เรารู้มาว่าช่วงแรกๆที่เอาหมามาอยู่ หมาจะได้กินข้าวเช้าแล้วก็ข้าวเย็นแต่ส่วนใหญ่จะได้กินแค่ข้าวเย็นเพราะว่าช่วงเช้าแม่กับพี่ต้องรีบไปทำงาน แต่ช่วงหลังๆ หมาจะไม่ได้กินข้าวเช้าเลย กินแต่ข้าวเย็น บางวันลืมก็ไม่ได้ให้ จนมาช่วงเดือนนี้ แม่และพี่เอาหมามาที่บ้านที่เราอยู่เพราะทุกคนมาบ้านที่นี่กันหมดในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีใครดูแลหมาได้ เราและพ่อก็ได้ดูแลหมาในช่วงเสาร์อาทิตย์นั้น โดยเราจะให้ข่วหมาทุกเช้า-เย็น จนวันอาทิตย์ตอนเย็นมาถึง แม่ต้องกลับบ้านที่ใกล้ที่ทำงาน แม่ต้องเอาหมาและแมวกลับไปด้วย (จริงๆลืมบอกว่าแม่เราเลี้ยงแมวตัวนี้ก่อนที่จะเลี้ยงลูกหมาอีก เป็นลูกแมวที่เด็กนักเรียนเอามาที่โรงเรียน แต่ไม่ได้ดูแลต่อ จนกลายเป็นแมวโรงเรียนไป แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ไม่มีแม่ครัวมาทำอาหาร แมวเลยไม่มีอะไรกิน และหิวมากๆ แม่เราก็เลยเอาเลี้ยงที่บ้านก่อน เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงปิดเทอมไป ค่อยเอาแมวไปคืนโรงเรียน แต่จนเดี๊ยวนี้ก็ยังไม่ได้เอาไปคืน) แต่เราขอแม่ไว้ว่า เราอยากเอามาตัวนี้มาดูแลก่อน เพราะหมาผอมมากจนเห็นแต่กระดูก เราอยากเลี้ยงหมาให้อ้วนถ้วนสมบูรณ์ก่อน ค่อยเอากลับไป ซึ่งแม่ก็ตกลง(เราไม่ได้เอาแมวไว้เพราะว่าแมวปกติสมส่วนดี เพราะตอนที่อยู่บ้านใกล้โรงเรียน แมวก็จะโดนปล่อยไม่ได้ขังไว้ในบ้าน ทำให้แมวออกไปหากินข้างนอกได้ แต่หมาไม่สามารถออกนอกบ้านได้เหมือนแมว เลยไม่สามารถหาอาหารกินได้ จนตอนนี้หมาผอมกว่าแมว)
ผ่านมาสองอาทิตย์เราได้ให้อาหารหมา เช้า-เย็น จนหมาเริ่มมีเนื้อหนัง แต่ก็ยังผอมอยู่ นอกจากนั้น เราสังเกตกับพ่อว่า หมาเดินแปลกๆ ขาหลังของมันเหมือนอ่อนแรงและไม่ค่อยวิ่ง ถ้าวิ่งก็ล้มได้ง่าย เพราะเหมือนขาหลังที่ใช้วิ่งอ่อนแรง ทรงตัวไม่อยู่ และขาไขว้กัน ทำให้ล้ม จนตอนนี้หมาก็ใช้การเดินเป็นส่วนใหญ่ ในอาทิตย์นี้แม่ก็ได้กลับบ้านมาเสาร์- อาทิตย์ แม่ก็ได้สังเกตว่าขาหลังของหมาไม่ปกติ แม่ได้บ่นออกมาว่า เลี้ยงสัตว์อะไรก็มีแต่ไม่สมประกอบ ถ้ารักษาก็หมดเป็นหมื่น (จริงๆก่อนที่เราจะเลี้ยงแมวและหมาตัวนี้ พี่สาวเคยเอาแมวสองตัวมาเลี้ยงที่บ้าน ตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ ตัวหนึ่งเป็นตัวเมีย ซึ่งตัวเมียมีฝีบริเวณข้างท้อง พี่สาวให้แม่ออกค่าฉีดวัคซีน ทำหมัน และรักษาฝีให้ ซึ่งหมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 6000 ซึ่งแม่เครียดกับค่าใช้จ่ายตรงนี้มาก จนจำฝังใจมาถึงทุกวันนี้ [ปัจจุบัน แมวสองตัวนี้พี่สาวยกให้แฟนเก่าไปแล้ว]) แม่เลยบอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง เพราะเลี้ยงหมาที่ไม่สมประกอบมันไม่ดี แมวก็เหมือนกัน เป็นฝีเหมือนแมวตัวเก่าเลย (ตอนนี้ทั้งแมวทั้งหมาไม่ได้ฉีดวัคซีนทำหมันอะไรเลย เพราะค่าใช้จ่ายแพง[หมาเป็นตัวผู้ แมวเป็นตัวเมีย] การที่แม่บอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง มันทำให้เราเสียใจนิดนึง เพระถึงจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่สองอาทิตย์แต่เราก็รู้สึกผูกพันธ์กับหมาตัวนี้มากๆ หมาตัวนี้เป็นหมาที่ไม่เห่า ชอบอ้อนให้คนลูบ อยู่เงียบๆ เรานอนมันก็นอนด้วย
สรุปที่ตั้งกระทู้นี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากเล่าให้ใครสักคนฟังว่าเราคิดถึงแพนด้านะ และพอเลี้ยงหมาตัวใหม่ก็รู้สึกผูกพันธ์เหมือนกัน พอได้ยินแม่บอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง เลยคิดถึงแพนด้าขึ้นมา ตอนที่เขียนกระทู้นี้ นั่งเขียนไปร้องไห้ไป ความรู้สึกตอนนี้คือเศร้า เสียใจ อยากมีเงินเยอะๆ จะได้ดูและสัตว์ที่เราเลี้ยงให้ดีที่สุด
คิดถึงหมาตัวเก่าที่ตายไป+เสียใจถ้าหมาตัวใหม่ต้องยกให้คนอื่น
เหตุการณ์การก็เป็นอย่างงี้มาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือเราไปบ้านคุณลุงน้อยลง เวลาแพนด้าเห็นเราก็ยังส่ายหาง เดินมาหาเรา และกระโดดใส่ แต่ความตื่นเต้นหรือกระตือรือร้นมีน้อยลง(เราไม่รู้ว่าแพนด้าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากที่จะมีพลังอ่านความคิดของแพนด้าได้) จนเวลาผ่านไป เราก็มาบ้านคุณลุงบ้างเป็นบางครั้ง แต่มาคราวนี้เราไม่ได้เห็นแพนด้าออกมาต้อนรับ แต่เราก็ไม่เอะใจอะไร คิดว่าแพนด้าน่าจะออกไปเล่นหรืออยู่ที่ไหนสักที่ เราก็มาบ้านคุณลุงเรื่อยๆแต่ไม่บ่อย(ที่ครอบครัวเรามาบ้านคุณลุง เพราะว่าครอบครัวเรามีสวนมะม่วงอยู่หน้าบ้านคุณลุง แม่และเราก็เลยต้องมาดูแลบ้างบางคราว)
เวลาล่วงเลยผ่านไป เราก็ไม่ได้คิดถึงแพนด้าแล้ว(…) จนเมื่อต้นปีก่อนเราพึ่งมารู้ว่าแพนด้าตายไปแล้ว แม่เล่าให้ฟังว่า แพนด้าโดนรถเหยียบ เราฟังแล้วก็ได้แต่เงียบ ใจหาย ในใจรู้สึกโหวงๆ คืนนั้นในห้องของตัวเองเราคิดทบทวนทวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เรารับแพนด้ามาเลี้ยง ได้เล่นด้วยกัน ได้เห็นความน่ารักของแพนด้า จู่ๆน้ำตาเราก็ไหล คืนนั้นเราร้องไห้หนักมาก จนหลายวันผ่านไปก็ยังเสียใจและร้องไห้กับเรื่องนี้ เราคิดมาตลอดว่าเราคงไม่ได้ผูกพันธ์กับแพนด้าขนาดนั้นแล้ว แต่ตรงกันข้าม ทำไมเราต้องรู้สึกเสียใจ เศร้า และร้องไห้ด้วยหล่ะ แค่หมาตัวหนึ่งตายไปไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วช่วงที่รับแพนด้ามาเลี้ยง เป็นช่วงที่เราเริ่มทะเลาะกับเพื่อนทำให้เครียด แพนด้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราก้าวผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้ แพนด้าทำให้เรามีความสุข ทำให้ถึงแม้จะทะเลาะกับเพื่อน ไม่มีเพื่อนยังไง พอกลับบ้านไปเจอแพนด้า เราก็ลืมความเศร้าที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้ว
มาตอนนี้แพนด้าตายไปแล้ว เราก็ต้องทำใจให้ได้ ผ่านมาหนึ่งปี อยู่มาวันหนึ่งแม่เราก็เอาลูกหมามาเลี้ยง เป็นลูกหมาของแม่หมาจรที่โรงเรียนแถวๆนั้น แม่หมามีลูก 8 ตัว แม่เราเลยเอาลูกแม่หมามา 1 ตัว โดยแม่ให้พี่เลือก ซึ่งพี่เลือกจากเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของลูกสุนัขตัวนั้น มาปีนี้เราและแม่อยู่กันคนละบ้าน แม่ย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน ส่วนเราอยู่บ้านที่เดิมซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนที่เราเรียนอยู่ บ้านที่แม่อยู่กับบ้านที่เราอยู่อยู่ไกลกันประมาณ 50-60 กิโลเมตร ซึ่งไกลมากๆ แม่จะกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ส่วนเราก็อยู่กับพ่อ จะมีบางครั้งที่เราไปบ้านที่แม่อยู่ เพราะมีธุระหรือไม่ก็มีงานบุญ และเราก็ได้รู้ว่าแม่เอาลูกหมามาเลี้ยง (ต่อไปนี้เราจะขอเรียกลูกหมา ว่า*หมา*เฉยๆ จริงๆหมามีชื่ออยู่ แต่อยากแทนว่าอย่างนี้) เรารู้มาว่าช่วงแรกๆที่เอาหมามาอยู่ หมาจะได้กินข้าวเช้าแล้วก็ข้าวเย็นแต่ส่วนใหญ่จะได้กินแค่ข้าวเย็นเพราะว่าช่วงเช้าแม่กับพี่ต้องรีบไปทำงาน แต่ช่วงหลังๆ หมาจะไม่ได้กินข้าวเช้าเลย กินแต่ข้าวเย็น บางวันลืมก็ไม่ได้ให้ จนมาช่วงเดือนนี้ แม่และพี่เอาหมามาที่บ้านที่เราอยู่เพราะทุกคนมาบ้านที่นี่กันหมดในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีใครดูแลหมาได้ เราและพ่อก็ได้ดูแลหมาในช่วงเสาร์อาทิตย์นั้น โดยเราจะให้ข่วหมาทุกเช้า-เย็น จนวันอาทิตย์ตอนเย็นมาถึง แม่ต้องกลับบ้านที่ใกล้ที่ทำงาน แม่ต้องเอาหมาและแมวกลับไปด้วย (จริงๆลืมบอกว่าแม่เราเลี้ยงแมวตัวนี้ก่อนที่จะเลี้ยงลูกหมาอีก เป็นลูกแมวที่เด็กนักเรียนเอามาที่โรงเรียน แต่ไม่ได้ดูแลต่อ จนกลายเป็นแมวโรงเรียนไป แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ไม่มีแม่ครัวมาทำอาหาร แมวเลยไม่มีอะไรกิน และหิวมากๆ แม่เราก็เลยเอาเลี้ยงที่บ้านก่อน เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงปิดเทอมไป ค่อยเอาแมวไปคืนโรงเรียน แต่จนเดี๊ยวนี้ก็ยังไม่ได้เอาไปคืน) แต่เราขอแม่ไว้ว่า เราอยากเอามาตัวนี้มาดูแลก่อน เพราะหมาผอมมากจนเห็นแต่กระดูก เราอยากเลี้ยงหมาให้อ้วนถ้วนสมบูรณ์ก่อน ค่อยเอากลับไป ซึ่งแม่ก็ตกลง(เราไม่ได้เอาแมวไว้เพราะว่าแมวปกติสมส่วนดี เพราะตอนที่อยู่บ้านใกล้โรงเรียน แมวก็จะโดนปล่อยไม่ได้ขังไว้ในบ้าน ทำให้แมวออกไปหากินข้างนอกได้ แต่หมาไม่สามารถออกนอกบ้านได้เหมือนแมว เลยไม่สามารถหาอาหารกินได้ จนตอนนี้หมาผอมกว่าแมว)
ผ่านมาสองอาทิตย์เราได้ให้อาหารหมา เช้า-เย็น จนหมาเริ่มมีเนื้อหนัง แต่ก็ยังผอมอยู่ นอกจากนั้น เราสังเกตกับพ่อว่า หมาเดินแปลกๆ ขาหลังของมันเหมือนอ่อนแรงและไม่ค่อยวิ่ง ถ้าวิ่งก็ล้มได้ง่าย เพราะเหมือนขาหลังที่ใช้วิ่งอ่อนแรง ทรงตัวไม่อยู่ และขาไขว้กัน ทำให้ล้ม จนตอนนี้หมาก็ใช้การเดินเป็นส่วนใหญ่ ในอาทิตย์นี้แม่ก็ได้กลับบ้านมาเสาร์- อาทิตย์ แม่ก็ได้สังเกตว่าขาหลังของหมาไม่ปกติ แม่ได้บ่นออกมาว่า เลี้ยงสัตว์อะไรก็มีแต่ไม่สมประกอบ ถ้ารักษาก็หมดเป็นหมื่น (จริงๆก่อนที่เราจะเลี้ยงแมวและหมาตัวนี้ พี่สาวเคยเอาแมวสองตัวมาเลี้ยงที่บ้าน ตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ ตัวหนึ่งเป็นตัวเมีย ซึ่งตัวเมียมีฝีบริเวณข้างท้อง พี่สาวให้แม่ออกค่าฉีดวัคซีน ทำหมัน และรักษาฝีให้ ซึ่งหมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 6000 ซึ่งแม่เครียดกับค่าใช้จ่ายตรงนี้มาก จนจำฝังใจมาถึงทุกวันนี้ [ปัจจุบัน แมวสองตัวนี้พี่สาวยกให้แฟนเก่าไปแล้ว]) แม่เลยบอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง เพราะเลี้ยงหมาที่ไม่สมประกอบมันไม่ดี แมวก็เหมือนกัน เป็นฝีเหมือนแมวตัวเก่าเลย (ตอนนี้ทั้งแมวทั้งหมาไม่ได้ฉีดวัคซีนทำหมันอะไรเลย เพราะค่าใช้จ่ายแพง[หมาเป็นตัวผู้ แมวเป็นตัวเมีย] การที่แม่บอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง มันทำให้เราเสียใจนิดนึง เพระถึงจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่สองอาทิตย์แต่เราก็รู้สึกผูกพันธ์กับหมาตัวนี้มากๆ หมาตัวนี้เป็นหมาที่ไม่เห่า ชอบอ้อนให้คนลูบ อยู่เงียบๆ เรานอนมันก็นอนด้วย
สรุปที่ตั้งกระทู้นี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากเล่าให้ใครสักคนฟังว่าเราคิดถึงแพนด้านะ และพอเลี้ยงหมาตัวใหม่ก็รู้สึกผูกพันธ์เหมือนกัน พอได้ยินแม่บอกว่าจะเอาหมาไปให้คนอื่นเลี้ยง เลยคิดถึงแพนด้าขึ้นมา ตอนที่เขียนกระทู้นี้ นั่งเขียนไปร้องไห้ไป ความรู้สึกตอนนี้คือเศร้า เสียใจ อยากมีเงินเยอะๆ จะได้ดูและสัตว์ที่เราเลี้ยงให้ดีที่สุด