JJNY : ประกันสังคมก้าวหน้า เผยก.แรงงานเสนอ│เหยื่อซ้อมทรมานยื่นหนังสือ│น้ำมันดิบโลกปรับตัวเพิ่ม│ตัดใจถอนทหาร‘อัฟดิอิฟกา’

ประกันสังคมก้าวหน้า เผย ก.แรงงาน เสนอร่างกม. ยกเลิกเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4429531
 
 
ประกันสังคมก้าวหน้า เผย กระทรวงแรงงาน เสนอร่างกม. ยกเลิกเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
 
ภายหลังจากที่ กระทรวงแรงงาน มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคมชุดใหม่ โดยมี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนที่มาจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก มีผลตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ ตามที่ได้รายงานมานั้น
 
ทวิตเตอร์ของ ประกันสังคมก้าวหน้า ได้โพสต์ว่า “ด่วน! หลังจากที่ฝ่ายอำนาจเก่าพ่ายแพ้อย่างหนักในการ #เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ที่ผ่านมาล่าสุด กระทรวงแรงงานได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ให้บอร์ดใช้ระบบแต่งตั้งเหมือนเดิม ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาบรรจุลงในวาระ ครม แล้วหาก ครม เห็นชอบจะเข้าสู่กระบวนการสภา
 
โดยได้ยกเอกสาร มาตรา 3 ที่ให้ยกเลิกความในวรรค 3 ของมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
 
หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายผู้ประกันตน หญิงและชาย คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
 
ขณะที่ รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว และว่า 
 
ไม่ทันได้หายใจ เตรียมยกเลิกการเลือกตั้งบอร์ด ปกส. หลังฝั่งอำนาจนิยมพ่ายแพ้หนัก?
 
ทำให้หลายคน เข้ามาร่วมวิพากษ์วิจารณ์จำนวนไม่น้อย

https://twitter.com/welfarestateTH/status/1758522262058369428
https://twitter.com/sustarumT/status/1758528877708906602


  
เหยื่อซ้อมทรมานยื่นหนังสือถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ
https://prachatai.com/journal/2024/02/108102

ผู้เสียหายจากการถูกซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปี 2564 ยื่นหนังสือถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการทรมานฯ ขอให้จับตาและติดตามการละเมิดสิทธิฯ ของเจ้าหน้าที่รัฐไทย
 
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 ก.พ 2567 ที่ผ่านมา อรรถสิทธิ์ นุสสะ ผู้เสียหายจากการถูกซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปี 2564  ได้ยื่นหนังสือถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (UN Special Rapporteur on torture and other cruel, inhuman or degrading treatment) เพื่อเรียกร้องให้ผู้รายงานพิเศษฯ รับทราบถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ร่วมจับตาและกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐไทยให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานระหว่างประเทศต่อไป
 
คดีนี้สืบเนื่องจากนายอรรถสิทธิ์ นุสสะ ผู้เสียหาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชุมนุม ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวในสน.ดินแดงเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 หลังอรรถสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมจุดเทียนไว้อาลัยและทวงถามความยุติธรรมให้แก่ วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าสน.ดินแดง โดยระหว่างที่เข้าร่วมกิจกรรมไว้อาลัยอรรถสิทธิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง จับกุมและควบคุมตัวไว้ใน สน.ดินแดง เป็นเวลาหนึ่งคืน และถูกซ้อมทำร้ายร่างกายบังคับให้สารภาพในคืนนั้น จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณดวงตาและร่างกาย ต่อมาอรรถสิทธิ์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ต.ค 2564
 
ก่อนหน้านี้อรรถสิทธิ์พร้อมด้วยทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในนามภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ดินแดง หลังเกิดเหตุเพียงหนึ่งวัน และเดินหน้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ช่วยสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกราย  อย่างไรก็ตามปัจจุบันคดีอาญายังคงไม่มีความคืบหน้าหลังสำนวนคดียังคงอยู่ที่สน.ดินแดง ในส่วนของคดีแพ่ง อรรถสิทธิ์ยังได้เดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิด ณ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 3,385,155 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี โดยคดีดังกล่าวศาลนัดสืบพยานในวันที่ 26-27 มิ.ย 2567 นี้
 
จากการดำเนินการที่ล่าช้าของภาครัฐสร้างความน่ากังกลใจให้กับอรรถสิทธิ์อย่างยิ่งจึงได้ยื่นหนังสือถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี เพื่อขอให้ช่วยจับตาและติดตามกรณีดังกล่าว
 
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชน ร่วมกันติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิดถึงความคืบหน้าของกรณีนายอรรถสิทธิ์ว่าจะได้รับความยุติธรรมและนำเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงมารับผิดได้หรือไม่ อีกทั้งจะสามารถยกระดับมาตราฐานแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานระหว่างประเทศอย่างแท้จริงได้หรือไม่


 
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวเพิ่ม 1.49 %
https://ch3plus.com/news/economy/morning/387499

ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 1.49% แตะ 79.19 ดอลลาร์ ปิดรอบสัปดาห์สูงสุดตั้งแต่พ.ย.66 เหตุตลาดกลับมากังวลปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดบวก 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.49% พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 79.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดบวก 61 เซนต์ อยู่ที่ 83.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางรอบใหม่ว่าอาจรุนแรง และบานปลายขึ้น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาอิสราเอลได้เข้าถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอนเพื่อตอบโต้ที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธเข้ามาโจมตี ทำให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านประกาศจะโจมตีกลับเพื่อล้างแค้น

ขณะที่สถานการณ์ในเมืองราฟาห์ ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของฉนวนกาซาที่มีประชากรชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่หนาแน่นมากกว่าล้านคน ก็ยังคงคุกรุ่น หลังจากอิสราเอลประกาศจะยังคงเดินหน้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮามาสในเมืองนี้ต่อไป ทำให้ความสัมพันธ์กับอียิปต์ที่มีพรมแดนติดกับเมืองนี้โดยตรงทวีความตึงเครียดไปด้วย

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดน้ำมัน WTI ปิดรอบสัปดาห์บวกไป 3% และเป็นการปิดรอบสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา ในขณะที่ตลาด Brent ปิดรอบสัปดาห์บวกไป 1.5% และเป็นการปิดรอบสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2567

ก่อนหน้านี้ภายในวันเดียวกันก่อนปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบเพิ่งเคลื่อนไหวในเชิงลบ ชหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัวที่อ่อนแอในปีนี้ โดยการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในช่วงหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เริ่มชะลอตัวลงแล้ว

ทั้งนี้ IEA เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนก.พ. โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัวเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ลดลงเกือบ 50% จากที่มีการขยายตัว 2.3 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566

นอกจากนี้ IEA คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันจะอยู่สูงกว่าอุปสงค์ โดยจะขยายตัว 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ จากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ บราซิล แคนาดา และกายอานา

"เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการที่ปริมาณน้ำมันคงคลังในระดับโลกอยู่ในระดับต่ำ การมีน้ำมันส่วนเกินจำนวนเล็กน้อยจะช่วยลดความผันผวนในตลาด" รายงานระบุ รายงานของ IEA ดังกล่าวสวนทางรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัว 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ขณะที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันถูกกดดัน หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาด

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมทั้งการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่