จอร์เจียประเทศหนึ่งใน bucket list ของหลายๆคน อยู่ในเอเขียระหว่างทึอกเขาคอเคซัส คืนแรกเราเลือกพักในโซนเมืองเก่า Abanotubani ย่านโรงอาบน้ำกำมะถัน
“ พี่ไปซาวน่ากันถ้าไม่ได้ลองถือว่ามาไม่ถึงนะ”
“แล้วพี่จะติดใจ สบายตัวมาก”
“ยังไงใส่ผ้าหรือแก้ผ้าหมด?”
“โอ๊ย อายอะไรเขาก็แก้กันหมดน่ะ”
ในยุคสมัยของกษัตริย์ Vakhtang I แห่ง Iberia พบบ่อน้ำพุร้อนกำมะถันเป็นน้ำร้อนธรรมชาติจากใต้ดิน ทรงเลือกเป็นพื้นที่สร้างเมืองบนน้ำพุร้อนและให้ชื่อเมืองว่า Tbili ในภาษาจอเจียน หรือ Tbilisi ที่เรารู้จักซึ่งแปลว่า Warm Place หรือพื้นที่อุ่น เพื่อเอาน้ำร้อนจากน้ำพุนี้ไปใช้ตามบ้านเรือน โดยมีแม่แบบการอาบน้ำมาจากเปอร์เซีย
จากที่พักอพาร์ทเม้นท์ชั้น 2 3ห้องนอนระเบียงห้องรับแขกเรามองเห็นโรงอาบน้ำก่อ ด้วยอิฐหลังคาเป็นโดมโค้ง เดินจากที่พักไปประมาณ 100 เมตรถึงโรงอาบน้ำชื่อ No.5 เวลาที่ไปเกือบสองทุ่ม ป้ายเป็นหลอดไฟนีออนมีแสงไฟสลัวผู้คนเข้าออกไม่ขาดสาย
พอเดินผ่านซุ้มโค้งทางเข้ามีพนักงานผู้หญิงนั่งด้านหลังบนเก้าอี้สูงหลังเคาน์เตอร์ วัยกลางคนหน้าตาเรียบเฉย ฉันถามว่าราคาเท่าไหร่เธอกดเลข 6 บนเครื่องคิดเลข 6 เจล (78 บาท) ค่าน้ำเปล่า 1 เจล รองเท้าแตะ 2 เจล ไม่มีผ้าขนหนู
จ่ายเงินเสร็จจะเป็นบันไดทางลงไปอีกประมาณ 8-10 ขั้นห้องอาบน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับถนนด้านนอก มีทางแยกเดินไปทางซ้ายเป็นของชายฝั่งขวาเป็นของผู้หญิง ที่นั่งรอด้านหน้าของผู้ชายกว้างกว่าของผู้หญิง
พอฉันเลี้ยวขวาเข้าโซนของผู้หญิง เจอผู้หญิงอวบๆ นั่งอยู่ 2 คนจะคอยถามว่า “Massage ไหม” แล้วยกมือขวาซ้ายกางออกครบ 10 นิ้ว ราคา 10 Gel “ สครับมั้ย? “ พร้อมยกมือสองข้าง 10 นิ้วแล้วบวกรวมกันด้วยนิ้วมือชู 2 นิ้วเดาว่า 20 เจล
มาแล้วก็ต้องลอง งานนวดคือกิจกรรมโปรดของฉันอยู่แล้ว
เจ๊เดินพาเข้าไปอีกหน่อยติดกันมีผนังกระเบื้องเซรามิคสีขาวตุ่นกั้นแต่ไม่มีประตู ได้กลิ่นกำมะถันตั้งแต่ลงเดินลงมา เป็นโซนของล็อกเกอร์ที่เก็บของและกระเป๋า เจ๊แกชี้ให้เอากระเป๋าและเสื้อผ้าถอดเก็บ ฉันถอดเสื้อผ้าออกแล้วพันตัวด้วยผ้าขนหนูที่ติดมาด้วย สักพักก็เดินมาบอกให้ถอดผ้าขนหนูแล้วให้ใส่เข้าไปในตู้ล็อคเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องเปลือยต่อหน้าคนแปลกหน้า ยังไงนะถ้าอายให้หลับตาใช่ไหม
ฉันเดินตัวงอๆดึงประตูที่ปิดอยู่เขาหาตัว ข้างในเป็นห้องโล่งสี่เหลี่ยมหลังคาเป็นโดมของทรงกลม ด้านหน้าและขวามือเป็นผนังปูกระเบื้องขาวสูง 2 เมตรแบ่งเป็นล็อคประมาณ 6 ล็อค
ทางซ้ายมีผนังกั้นสั้นๆหลังผนังเป็นส้วมแบบนั่งยอง ด้านติดประตูทางเข้าทางซ้ายและขวามีแท่นหินอ่อนขนาดนอนได้ใหญ่กว่าตัวคนนิดหน่อย
เหนือที่อาบน้ำสูงขึ้นไปมีท่อ PVC สีฟ้าและท่อเหล็กวางขนานคู่กันมีก๊อกให้เปิดเป็นท่อน้ำร้อนและน้ำเย็น
ไหนล่ะซาวน่าและอ่างแช่ มารู้ภายหลังว่าห้องผู้ชายจะเป็นแบบซาวน่าและอ่างสปา ส่วนของผู้หญิงอาบแบบ shower เหนือหัว
ในห้องขณะนั้นมีผู้หญิงจอเจียกำลังอาบน้ำอยู่ 3 คน ไม่กล้ามองตรงๆแต่มองผ่านแว๊บๆ เป็นวัยผู้ใหญ่มีหุ่นเจ้าเนื้อออกตัวแดงความจากความร้อน ในห้องอบอวนไปด้วยกลิ่นกำมะถันและเสียงจากน้ำก๊อกที่ไหลลงพื้น แต่ละคนไม่สนใจกัน ฉันเลือกช่องอาบทางขวามือเงอะงะสักพัก ผู้หญิงข้างๆเดินมาเปิดก๊อกให้ดูว่ามีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น เราต้องเปิดผสมกันเอง พอจังหวะร้อนได้พอดีจะรู้สึกสบายตัวน้ำจะไหลจากหัวลงสู่เท้า ฉันลืมเอายาสระผมมา หันไปสบตากับผู้หญิงที่มาช่วยแล้วทำท่าขยี้หัว เธอเดินมาเอาขวดใส่แชมพูเล็กๆมาบีบใส่มือให้ มิตรภาพในห้องอาบน้ำเกิดขึ้นแบบเงียบๆ
สัก 5 นาที เจ๊เข้ามาในห้องในชุดกางเกงในและบรา (สงสัยเป็นยูนิฟอร์ม) เรียกให้ฉันมานอนบนแท่นหินติดผนังห้อง มือขวาถือสายยางที่เราใช้รดน้ำต้นไม้ฉีดน้ำลงบนแท่น “ SIT!” เรียกให้ฉันนั่งลงแล้วเอาสายยางฉีดน้ำบนตัวชั้นให้ทั่วอีกทีสั่งให้นอนหงายลงฉันหลับตาข่มความอาย
จากนั้นเอาสครับเหมือนใยบวบที่เราใช้ขัดตัวไปจุ่มในถังน้ำอะไรสักอย่างที่กลิ่นเหมือนน้ำหมักแอปเปิ้ลเวนิก้าแล้วเอามาขัดทั่วตัวทุกมุมจนรู้สึกได้ถึงความแสบหน่อยๆและขี้ไคลที่ออกมาเป็นปื้นจากนั้นก็ใช้สายยางฉีดทั่วตัวอีกที เจ๊ไปเอากระป๋องมาใหม่ใบใหม่มีสบู่น้ำยาเป็นฟองผ้าขนหนูผืนขนาดกลางส่งไปในนั้นแล้วจากนั้นก็บิดผ้าให้ฟองลงที่ตัวเหมือนอาบน้ำให้เด็กทั้งด้านหน้าด้านหลัง และใช้มือนวดส่วนที่เป็นคอบ่าประมาณ 2-3 นาทีแล้วล้างน้ำ เป็นอันเสร็จพิธีการสครับและนวดตัวภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที เธอเรียกให้ฉัน ลุกแล้วปไปอาบน้ำ ฉันอาบจนคิดว่าตัวเริ่มซีดเลยเลิกแล้วพอแค่นี้กลับออกไปแต่งตัวเป็นอันเสร็จพิธี
โรงอาบน้ำสาธารณะนี้ใช้สำหรับคนท้องถิ่นแถวๆนี้มีอีกหลายโรง ราคาก็สูงขึ้นไปตามสถานที่และบริการที่จัดให้ ตอนอาบไม่มีใครสนใจใครถือเป็นการผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพช่วยให้เลือดไหลเวียนดีถ้าอยู่ที่นี่คงมาเกือบทุกวัน การเปลือยเปล่าอาบน้ำร่วมกันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์เดินดินทั่วไปที่ไม่มีเครื่องห่อหุ้มมาแบ่งแยก คิดถึง Abanotubani จัง
[CR] อาบน้ำขัดขี้ไคลในโรงอาบน้ำกำมะถัน Abanotubani , ทบิลิซี จอเจีย
“ พี่ไปซาวน่ากันถ้าไม่ได้ลองถือว่ามาไม่ถึงนะ”
“แล้วพี่จะติดใจ สบายตัวมาก”
“ยังไงใส่ผ้าหรือแก้ผ้าหมด?”
“โอ๊ย อายอะไรเขาก็แก้กันหมดน่ะ”
ในยุคสมัยของกษัตริย์ Vakhtang I แห่ง Iberia พบบ่อน้ำพุร้อนกำมะถันเป็นน้ำร้อนธรรมชาติจากใต้ดิน ทรงเลือกเป็นพื้นที่สร้างเมืองบนน้ำพุร้อนและให้ชื่อเมืองว่า Tbili ในภาษาจอเจียน หรือ Tbilisi ที่เรารู้จักซึ่งแปลว่า Warm Place หรือพื้นที่อุ่น เพื่อเอาน้ำร้อนจากน้ำพุนี้ไปใช้ตามบ้านเรือน โดยมีแม่แบบการอาบน้ำมาจากเปอร์เซีย
จากที่พักอพาร์ทเม้นท์ชั้น 2 3ห้องนอนระเบียงห้องรับแขกเรามองเห็นโรงอาบน้ำก่อ ด้วยอิฐหลังคาเป็นโดมโค้ง เดินจากที่พักไปประมาณ 100 เมตรถึงโรงอาบน้ำชื่อ No.5 เวลาที่ไปเกือบสองทุ่ม ป้ายเป็นหลอดไฟนีออนมีแสงไฟสลัวผู้คนเข้าออกไม่ขาดสาย
พอเดินผ่านซุ้มโค้งทางเข้ามีพนักงานผู้หญิงนั่งด้านหลังบนเก้าอี้สูงหลังเคาน์เตอร์ วัยกลางคนหน้าตาเรียบเฉย ฉันถามว่าราคาเท่าไหร่เธอกดเลข 6 บนเครื่องคิดเลข 6 เจล (78 บาท) ค่าน้ำเปล่า 1 เจล รองเท้าแตะ 2 เจล ไม่มีผ้าขนหนู
จ่ายเงินเสร็จจะเป็นบันไดทางลงไปอีกประมาณ 8-10 ขั้นห้องอาบน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับถนนด้านนอก มีทางแยกเดินไปทางซ้ายเป็นของชายฝั่งขวาเป็นของผู้หญิง ที่นั่งรอด้านหน้าของผู้ชายกว้างกว่าของผู้หญิง
พอฉันเลี้ยวขวาเข้าโซนของผู้หญิง เจอผู้หญิงอวบๆ นั่งอยู่ 2 คนจะคอยถามว่า “Massage ไหม” แล้วยกมือขวาซ้ายกางออกครบ 10 นิ้ว ราคา 10 Gel “ สครับมั้ย? “ พร้อมยกมือสองข้าง 10 นิ้วแล้วบวกรวมกันด้วยนิ้วมือชู 2 นิ้วเดาว่า 20 เจล
มาแล้วก็ต้องลอง งานนวดคือกิจกรรมโปรดของฉันอยู่แล้ว
เจ๊เดินพาเข้าไปอีกหน่อยติดกันมีผนังกระเบื้องเซรามิคสีขาวตุ่นกั้นแต่ไม่มีประตู ได้กลิ่นกำมะถันตั้งแต่ลงเดินลงมา เป็นโซนของล็อกเกอร์ที่เก็บของและกระเป๋า เจ๊แกชี้ให้เอากระเป๋าและเสื้อผ้าถอดเก็บ ฉันถอดเสื้อผ้าออกแล้วพันตัวด้วยผ้าขนหนูที่ติดมาด้วย สักพักก็เดินมาบอกให้ถอดผ้าขนหนูแล้วให้ใส่เข้าไปในตู้ล็อคเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องเปลือยต่อหน้าคนแปลกหน้า ยังไงนะถ้าอายให้หลับตาใช่ไหม
ฉันเดินตัวงอๆดึงประตูที่ปิดอยู่เขาหาตัว ข้างในเป็นห้องโล่งสี่เหลี่ยมหลังคาเป็นโดมของทรงกลม ด้านหน้าและขวามือเป็นผนังปูกระเบื้องขาวสูง 2 เมตรแบ่งเป็นล็อคประมาณ 6 ล็อค
ทางซ้ายมีผนังกั้นสั้นๆหลังผนังเป็นส้วมแบบนั่งยอง ด้านติดประตูทางเข้าทางซ้ายและขวามีแท่นหินอ่อนขนาดนอนได้ใหญ่กว่าตัวคนนิดหน่อย
เหนือที่อาบน้ำสูงขึ้นไปมีท่อ PVC สีฟ้าและท่อเหล็กวางขนานคู่กันมีก๊อกให้เปิดเป็นท่อน้ำร้อนและน้ำเย็น
ไหนล่ะซาวน่าและอ่างแช่ มารู้ภายหลังว่าห้องผู้ชายจะเป็นแบบซาวน่าและอ่างสปา ส่วนของผู้หญิงอาบแบบ shower เหนือหัว
ในห้องขณะนั้นมีผู้หญิงจอเจียกำลังอาบน้ำอยู่ 3 คน ไม่กล้ามองตรงๆแต่มองผ่านแว๊บๆ เป็นวัยผู้ใหญ่มีหุ่นเจ้าเนื้อออกตัวแดงความจากความร้อน ในห้องอบอวนไปด้วยกลิ่นกำมะถันและเสียงจากน้ำก๊อกที่ไหลลงพื้น แต่ละคนไม่สนใจกัน ฉันเลือกช่องอาบทางขวามือเงอะงะสักพัก ผู้หญิงข้างๆเดินมาเปิดก๊อกให้ดูว่ามีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น เราต้องเปิดผสมกันเอง พอจังหวะร้อนได้พอดีจะรู้สึกสบายตัวน้ำจะไหลจากหัวลงสู่เท้า ฉันลืมเอายาสระผมมา หันไปสบตากับผู้หญิงที่มาช่วยแล้วทำท่าขยี้หัว เธอเดินมาเอาขวดใส่แชมพูเล็กๆมาบีบใส่มือให้ มิตรภาพในห้องอาบน้ำเกิดขึ้นแบบเงียบๆ
สัก 5 นาที เจ๊เข้ามาในห้องในชุดกางเกงในและบรา (สงสัยเป็นยูนิฟอร์ม) เรียกให้ฉันมานอนบนแท่นหินติดผนังห้อง มือขวาถือสายยางที่เราใช้รดน้ำต้นไม้ฉีดน้ำลงบนแท่น “ SIT!” เรียกให้ฉันนั่งลงแล้วเอาสายยางฉีดน้ำบนตัวชั้นให้ทั่วอีกทีสั่งให้นอนหงายลงฉันหลับตาข่มความอาย
จากนั้นเอาสครับเหมือนใยบวบที่เราใช้ขัดตัวไปจุ่มในถังน้ำอะไรสักอย่างที่กลิ่นเหมือนน้ำหมักแอปเปิ้ลเวนิก้าแล้วเอามาขัดทั่วตัวทุกมุมจนรู้สึกได้ถึงความแสบหน่อยๆและขี้ไคลที่ออกมาเป็นปื้นจากนั้นก็ใช้สายยางฉีดทั่วตัวอีกที เจ๊ไปเอากระป๋องมาใหม่ใบใหม่มีสบู่น้ำยาเป็นฟองผ้าขนหนูผืนขนาดกลางส่งไปในนั้นแล้วจากนั้นก็บิดผ้าให้ฟองลงที่ตัวเหมือนอาบน้ำให้เด็กทั้งด้านหน้าด้านหลัง และใช้มือนวดส่วนที่เป็นคอบ่าประมาณ 2-3 นาทีแล้วล้างน้ำ เป็นอันเสร็จพิธีการสครับและนวดตัวภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที เธอเรียกให้ฉัน ลุกแล้วปไปอาบน้ำ ฉันอาบจนคิดว่าตัวเริ่มซีดเลยเลิกแล้วพอแค่นี้กลับออกไปแต่งตัวเป็นอันเสร็จพิธี
โรงอาบน้ำสาธารณะนี้ใช้สำหรับคนท้องถิ่นแถวๆนี้มีอีกหลายโรง ราคาก็สูงขึ้นไปตามสถานที่และบริการที่จัดให้ ตอนอาบไม่มีใครสนใจใครถือเป็นการผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพช่วยให้เลือดไหลเวียนดีถ้าอยู่ที่นี่คงมาเกือบทุกวัน การเปลือยเปล่าอาบน้ำร่วมกันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์เดินดินทั่วไปที่ไม่มีเครื่องห่อหุ้มมาแบ่งแยก คิดถึง Abanotubani จัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น