ในสังคมปัจจุบัน การใช้ชีวิต ตั้งแต่วันเด็ก จนถึงวัยทำงานนั้น ล้วนไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย โจ้ ก็เหมือนคนทั่วๆไป ที่วัยเด็ก ที่เติบโตมาในครอบครัวที่พอกินพอใช้ ไม่ได้ร่ำรวย และไม่ได้ยากจน อยู่ในฐานะที่ปานกลาง การใช้ชีวิตของโจ้ ก็เหมือนเด็กทั่วๆไป ได้ของเล่น มีของเล่น แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร จนกระทั่งโจ้ จบมัธยมต้น ก็เลือกเข้าเรียนที่ วิทยาลัยเทคนิค สาขาอาชีพ ซึ่งโจ้ ก็คิดว่า หากวันใดขี้เกียจ ไม่อยากเรียนต่อ ก็จะได้มีอาชีพการงานไว้ติดตัว ซึ่งทางแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่พ่อ เขาอยากให้เรียนสายสามัญ แต่โจ้ก็ยังรั้นที่จะเรียนสายอาชีพ ซึ่งแม่ของโจ้ ก็บอกไว้ว่า หากโดนเชิญผุ้ปกครองเกิน 3 ครั้ง ก็จะไม่ให้เรียนแล้ว ซึ่งโจ้ก็ได้เข้ามาเรียนสายอาชีพ ก็ตั้งใจเรียน ซึ่งทุกๆคนก็รู้อยุ่ ว่าสายอาชีพ จะมีการโดดเรียนเป็นประจำอยุ่แล้ว แต่โจ้ เขาไม่ทำเช่นนั้น บางคาบบางวิชา ครูมาเข้าสอนสาย เพื่อนๆคนอื่น ก็เลือกที่จะโดดไปเลย แต่ผิดที่โจ้ เขาจะมีเบอร์คุณครูเกือบทุกคน เขาจะโทรไปถาม โทรไปหา ว่าวันนี้คุณครูมาสอนหรือเปล่า ซึ่งโจ้เขาจะคิดว่า ถ้าได้รับคำตอบว่า คุณครูไม่มาสอน จะได้ออกไปข้างนอก กลับบ้านอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวล โจ้ก็เรียนสายอาชีพมาเรื่อยๆ จนถึงฝึกงาน โจ้ก็ได้ไปฝึกงานกับบอล ที่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันในวิทยาลัย มาได้ฝึกงานร้านเครื่องเสียง ลืมบอกไปโจ้เขาเวลาไปเรียน เขาจะนั่งรถสองแถวไป-กลับ บ้าน ไม่เคยขับรถมาเอง ด้วยความที่วัยรุ่นอะเนาะ ตอนฝึกงานโจ้ก็ได้ขับรถมอไซด์มาฝึกงานจนจบ และแล้วโจ้ ก็ขึ้น ปวช ปี 3 ซึ่งจะต้องเลือกว่า จะเรียนต่อ ปวส หรือเรียนต่อมหาวิทยาลัย โจ้ ก็เลือกที่จะตามเพื่อนโดยสมัครสอบที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และสมัครเป็นโควต้าเรียนดี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ โจ้ก็ขึ้นมาสอบที่กรุงเทพ โดยที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องการสอบอะไรเลย ไม่ได้อ่านหนังสือ ผลที่ออกคือไม่ผ่าน ต่อมา โจ้ก็ไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัย ที่สมัครโควต้าเรียนดีไว้ ผลที่ออก คือสอบติด ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยอย่างสมใจ แต่ตอนนั้นโจ้ไม่รู้ ก็มีเพื่อนโทรมาบอกข่าวดี แต่โจ้ไม่เชื่อ เลยเปิด internet ดูในเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัย ผลที่ได้ ก็ตามที่เพื่อนบอก แต่ก็ลืมเล่าไป โจ้ ก็เป็นที่รักของอาจารย์ในวิทยาลัยแห่งนั้น ได้มีการเข้าไปพูดคุยว่า จะเรียนต่อ ปวส ซึ่งอาจารย์เขาก็เห็นว่าโจ้เรียนดี ก็เลยให้เขียนใบสมัครไว้ แต่โจ้ก็เลือกที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งต่อมาโจ้ก็เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย ได้มาอยู่หอ แต่ไม่ได้รู้จักใครเลย มีเพียงรุ่นพี่แถวๆบ้าน ทางแม่ของโจ้ ก็มีถามรุ่นพี่แถวบ้าน ว่าหอพักที่ไหนน่าอยู่ และก็ไปดูที่หน้างานจริง และก็ดำเนินต่อมา ได้เรียนปีหนึ่ง ซึ่งเรียนทั้งหนัก รับน้องหนัก โจ้มีท้อ อยากจะลาออกไปเลย แต่ทางแม่ก็ให้กำลังใจว่า อดทนหน่อยนะลูก เดี๋ยวก็ผ่านไป ซึ่งโจ้ก็อดทน ตามที่แม่บอก จนถึงตอนที่ฝึกงาน ตาม step เดิม โจ้ ก็ไม่ได้รู้จักใครเลย เลยเลือกที่จะมาฝึกงานที่กรุงเทพ โดยมีพ่อเป็นคนชี้แนะ และได้มาฝึกงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ตำแหน่ง NOC ทำงานเป็นกะ ซึ่งก็ฝึกงานจนจบ โจ้คิดว่า เรียนจบแล้ว อยากจะพักผ่อนสัก 4-5 เดือน แต่เมื่อผ่านไปครึ่งเดือน โจ้ก็รู้สึกเบื่อๆ ไม่มีไรทำ เลยลองฝากประวัติไว้ในเว็บหางาน ก็ได้รับการติดต่อมาหลากหลายบริษัท แต่มีบริษัทนึง แถวภาคใต้ ติดต่อมาให้ไปสมัภาษณ์ ซึ่งใน JD ก็บอกเรื่องเงินเดือนตามตกลง ตอนนั้นโจ้ยังไม่มีประสบการณ์ เพิ่งเรียนจบ เลยเรียกไป 15000 บาท แต่บริษัทนั้น คนสัมภาษณ์กลับดูดูโจ้ ว่าเพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีประสบการณ์ เรียกเงินเดือนตั้งสูง โจ้เลยรู้สึกเฟล เลยตั้งใจว่า ไม่หางานแถวต่างจังหวัดอีกต่อไป ทั้งที่ใจก็อยากอยู่ต่างจังหวัด และก็มาสัมภาษณ์งานที่กรุงเทพ ที่นัดสัมภาษณ์ไว้ ซึ่งตอนนั้นก็มี 3 บริษัท คือ 1 บริษัท Outsource ที่หาคนให้บริษัทอื่นๆ และ 2 บริษัท SI ที่รับพนักงานประจำไปทำงาน support บริษัทอื่นๆ และ 3 คือบริษัท Outsource ที่รับไปทำงานให้บริษัทโทรคมนาคม ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นโจ้ไปสัมภาษณ์ทั้ง 3 ที่ แต่ที่เป็นเรื่องตลก ปนดีใจ บริษัทที่ 3 นัดสัมภาษณ์วันที่ 4 โจ้เรียกเงินเดือนไป 15000 เหมือนเดิม แต่คนสัมภาษณ์พูดมาว่า พอหรอ โจ้ก็ยิ้ม ทีนี้คนสัมภาษณ์บอกว่า ให้ 18000 ผ่านโปร 20000 ละกัน แล้วถามโจ้ว่า เริ่มงานได้ตอนไหน โจ้บอกว่าทันที เนื่องจากตอนนั้นโจ้ยังไม่มีงาน ทีนี้เมื่อสัมภาษณ์จบ โจ้ก็ยกมือไหว้ลา พี่ที่สัมภาษณ์พูดแซวๆว่า เดี๋ยวโทรไป อาจจะโทรไปไม่เกินเที่ยง และเมื่อโจ้เดินออกขากบริษัทนั้นไปยังป้ายรถเมย์ โจ้ก็ได้รับข่าวดีว่า บริษัทที่ 3 ที่เพิ่งสัมภาษณ์ไป รับเข้าทำงาน โดยให้เริ่มงานพรุ่งนี้ แน่นอน โจ้ดีใจ ปนตกใจ แต่ก็ต้องรีบจัดแจง เพราะว่ายังไม่มีที่พัก และเสื้อผ้าก็ไม่มี โจ้เลยโทรหาแม่ ให้แม่เอาเสื้อผ้าขึ้นมาให้ และโจ้ก็เข้าไปทำงานราบรื่นตลอด การเป็น Outsource บริษัทนั้น ระยะเวลา 5 ปีกว่า และโจ้ก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญา Outsource เลยหางานใหม่ เป็นบริษัทอื่นที่เป็นประจำ ก็ทำงานอย่างมีความสุขตลอดมา
เรื่องเล่า ชีวิตกว่าจะมาทำงาน