แม่พ่อมีเราตอนอายุ35กับ39 มีน้องแบบไม่ได้ตั้งใจตอน41กับ45 น้องชายห่างกับเรา6ปี ตั้งแต่ป.1ถึงป.6 น้องเราได้ไปเรียนโรงเรียนตชด.กินนอนที่โรงเรียน กลับบ้านเย็นวันศุกร์ เช้าวันจันทร์พ่อไปส่งไปรร. เพราะพ่อแม่ขายของตลาดนัดไม่มีเวลาไปรับไปส่ง และเรียนที่นี่ค่าใช้จ่ายน้อย (ครอบครัวเราค่อนข้างจนค่ะ)
จนตอนที่น้องอยู่ป.4 เราตัดสินใจออกเรียนมาอยู่กับแฟนช่วยกันทำงาน ทำให้ห่างกับครอบครัว ห่างกับน้อง ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่สนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ เราวุ่นกับงานจนไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านด้วย แต่ก็เป็นข้ออ้างแหละ เพราะพอมีวันหยุดเราก็อยากไปเที่ยว ไม่ได้อยากกลับบ้าน
จนปีที่น้องอยู่ป.5 โควิดหนักมาก จนครูไม่ให้เด็กหอกลับบ้าน คือให้อยู่รร.ทุกวัน ให้พ่อแม่ไปหาได้แต่ไม่ให้กลับเลย ป.5 น้องอยู่โรงเรียนทุกวันทั้งปี
พอปีที่น้องอยู่ป.6 แม่เสียด้วยโรคมะเร็ง พ่อเลยตัดสินใจกลับไปอยู้บ้านเกิด ส่วนน้องเราเสนอเองให้อยู่กับเรา เพราะเราไม่อยากให้พ่อเหนื่อยดูน้อง เรารับน้องมาอยู่ด้วยจนจบป.6 ไม่มีปัญหาอะไรเพราะน้องนอนหอ
จนน้องขึ้นม.1 มันเริ่มมีปัญหา เพราะน้องเรานิสัยแปลกๆ ไม่ค่อยคุยกับเรา ไม่ค่อยคุยกับแฟนเรา อยู่แต่ในห้อง ลงจากห้องแค่ตอนกินข้าว และมีนิสัยไม่ดีคือขี้เกียจมาก จานถ้าไม่ใช้มันไม่ล้างเลย บ้านก็ไม่คิดจะช่วยกวาดถ้าไม่บอก ขยะไม่เคยคิดจะเอาไปทิ้งถ้าเราไม่ใช้ ห้องนอนมันมันยังไม่กวาดเลยถ้าเราไม่ใช้ ก้องน้ำห้องมันก็ไม่เคยล้างแทบจะเน่าอยู่แล้ว มันแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้าน(เรากับแฟน) แรกๆเราก็บอกก็สอนมัน แต่มันก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ไม้คยปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เห็นใครทำอะไรมันไม่เคยคิดจะช่วย หรือมันไม่เห็นไม่รู้เพราะมันไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างเลย ติดโทรศัพท์มาก มันทำให้แฟนเราไม่ชอบน้อง ซึ่งเราก็เข้าใจ เพราะเราก็ไม่ชอบน้องเหมือนกัน มันทำให้เราเครียดมาก ทั้งกลัวว่ามันจะอยู่กับเราไม่ได้เพราะแฟนเราไม่ชอบ เราเกรงใจแฟน เพราะค่าเทอม ค่าขนมไปรร.ของน้อง เป็นเงินแฟนเราหมดเลย (เราเปิดอู่ซ่อมรถด้วยกันนะคะ แฟนเป็นคนทำงาน เราดูแลอะไหล่สั่งของ เช็คของ และรับผิดชอบงรนบ้าน) ซึ่งเงินก็คือแฟนเราเป็นคนหานั่นแหละ และเราก็เครียดอีกว่าโตไปมันจะใช้ชีวิตยังไงที่มันเป็นคนแบบนี้ เราเครียดมากๆ ร้องไห้ คิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ
ตอนนี้เราไม่อยากเลี้ยงมันเลย แต่เราไม่รู้จะทำยังไง จะส่งไปอยู่กับพ่อ พ่อก็จะ60แล้ว หรือจะส่งให้ไปอยู่กับพ่อแล้วเราส่งค่าเล่าเรียนให้ดีคะ ให้พ่อไปสอนมันเอาเอง และอีกอย่างเรากลัวทั้งพ่อและน้องสุขภาพจิตเสีย เพราะน้องมันนิสัยไม่ได้เรื่องเลย พ่อเป็นคนหงุดหงิดโมโหง่าย กลัวจะด่าจะตีน้อง สุขภาพจิตเสียทั้งคู่ หรือจะดูไปก่อนจนจบม.3 พอให้มันโตมาอีกนิดค่อยให้ย้ายไปอยู่กับพ่อแล้วส่งค่าเรียนให้ดี เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราเลย ลูกก็ลูกพ่อแม่ ไม่ใช่ลูกเรา ถ้าพ่อแม่เลี้ยงไม่ได้จะทำให้เกิดมาทำไม ทำไมไม่คุมกำเนิด ไม่ได้คิดจะมีคนที่2ทำไมไม่ทำหมันหลังจากเราเกิด อายุก็เยอะแล้วแทนที่จะทำหมันไปเลย สุดท้ายกรรมก็มาตกที่พี่ ที่ต้องเป็นคนเลี้ยง
ไม่อยากเลี้ยงน้องแล้ว ทำยังไงดี?
จนตอนที่น้องอยู่ป.4 เราตัดสินใจออกเรียนมาอยู่กับแฟนช่วยกันทำงาน ทำให้ห่างกับครอบครัว ห่างกับน้อง ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่สนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ เราวุ่นกับงานจนไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านด้วย แต่ก็เป็นข้ออ้างแหละ เพราะพอมีวันหยุดเราก็อยากไปเที่ยว ไม่ได้อยากกลับบ้าน
จนปีที่น้องอยู่ป.5 โควิดหนักมาก จนครูไม่ให้เด็กหอกลับบ้าน คือให้อยู่รร.ทุกวัน ให้พ่อแม่ไปหาได้แต่ไม่ให้กลับเลย ป.5 น้องอยู่โรงเรียนทุกวันทั้งปี
พอปีที่น้องอยู่ป.6 แม่เสียด้วยโรคมะเร็ง พ่อเลยตัดสินใจกลับไปอยู้บ้านเกิด ส่วนน้องเราเสนอเองให้อยู่กับเรา เพราะเราไม่อยากให้พ่อเหนื่อยดูน้อง เรารับน้องมาอยู่ด้วยจนจบป.6 ไม่มีปัญหาอะไรเพราะน้องนอนหอ
จนน้องขึ้นม.1 มันเริ่มมีปัญหา เพราะน้องเรานิสัยแปลกๆ ไม่ค่อยคุยกับเรา ไม่ค่อยคุยกับแฟนเรา อยู่แต่ในห้อง ลงจากห้องแค่ตอนกินข้าว และมีนิสัยไม่ดีคือขี้เกียจมาก จานถ้าไม่ใช้มันไม่ล้างเลย บ้านก็ไม่คิดจะช่วยกวาดถ้าไม่บอก ขยะไม่เคยคิดจะเอาไปทิ้งถ้าเราไม่ใช้ ห้องนอนมันมันยังไม่กวาดเลยถ้าเราไม่ใช้ ก้องน้ำห้องมันก็ไม่เคยล้างแทบจะเน่าอยู่แล้ว มันแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้าน(เรากับแฟน) แรกๆเราก็บอกก็สอนมัน แต่มันก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ไม้คยปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เห็นใครทำอะไรมันไม่เคยคิดจะช่วย หรือมันไม่เห็นไม่รู้เพราะมันไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างเลย ติดโทรศัพท์มาก มันทำให้แฟนเราไม่ชอบน้อง ซึ่งเราก็เข้าใจ เพราะเราก็ไม่ชอบน้องเหมือนกัน มันทำให้เราเครียดมาก ทั้งกลัวว่ามันจะอยู่กับเราไม่ได้เพราะแฟนเราไม่ชอบ เราเกรงใจแฟน เพราะค่าเทอม ค่าขนมไปรร.ของน้อง เป็นเงินแฟนเราหมดเลย (เราเปิดอู่ซ่อมรถด้วยกันนะคะ แฟนเป็นคนทำงาน เราดูแลอะไหล่สั่งของ เช็คของ และรับผิดชอบงรนบ้าน) ซึ่งเงินก็คือแฟนเราเป็นคนหานั่นแหละ และเราก็เครียดอีกว่าโตไปมันจะใช้ชีวิตยังไงที่มันเป็นคนแบบนี้ เราเครียดมากๆ ร้องไห้ คิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ
ตอนนี้เราไม่อยากเลี้ยงมันเลย แต่เราไม่รู้จะทำยังไง จะส่งไปอยู่กับพ่อ พ่อก็จะ60แล้ว หรือจะส่งให้ไปอยู่กับพ่อแล้วเราส่งค่าเล่าเรียนให้ดีคะ ให้พ่อไปสอนมันเอาเอง และอีกอย่างเรากลัวทั้งพ่อและน้องสุขภาพจิตเสีย เพราะน้องมันนิสัยไม่ได้เรื่องเลย พ่อเป็นคนหงุดหงิดโมโหง่าย กลัวจะด่าจะตีน้อง สุขภาพจิตเสียทั้งคู่ หรือจะดูไปก่อนจนจบม.3 พอให้มันโตมาอีกนิดค่อยให้ย้ายไปอยู่กับพ่อแล้วส่งค่าเรียนให้ดี เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราเลย ลูกก็ลูกพ่อแม่ ไม่ใช่ลูกเรา ถ้าพ่อแม่เลี้ยงไม่ได้จะทำให้เกิดมาทำไม ทำไมไม่คุมกำเนิด ไม่ได้คิดจะมีคนที่2ทำไมไม่ทำหมันหลังจากเราเกิด อายุก็เยอะแล้วแทนที่จะทำหมันไปเลย สุดท้ายกรรมก็มาตกที่พี่ ที่ต้องเป็นคนเลี้ยง