เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/217075
ป้าคู่กรณียึดบ้านเพื่อนบ้าน ปรากฎตัวแล้ว งดจ้อสื่อขอความเป็นส่วนตัว ทนายยันทุกย่างเจอกันที่ศาล เจ้าของบ้านยังไม่กล้านอนค้างหวั่นความปลอดภัย
ความคืบหน้ากรณีเพื่อนบ้านยึดบ้านร้าง พร้อมฟ้องอ้างครอบครองปรปักษ์ หลังจากเมื่อวานนี้หลานชายเจ้าของบ้านตัวจริงบุกยึดบ้านคืนแล้วนั้น
วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้พบกับคุณศรีพรรณ หนึ่งในคู่กรณี ซึ่งตอนแรกจากการสังเกตพบว่า ใช้ชีวิตปกติอยู่ภายในบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านอากู๋ ก่อนจะเดินออกมาเพื่อเข้าไปที่สำนักงานของบริษัทรับเหมาที่อยู่ข้างบ้านอากู๋ โดยเข้าทางประตูด้านหลัง ขณะที่ในสำนักงานพบว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ด้านในด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามจะถามว่า หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป ยังยืนยันคำเดิมว่าวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้ไปเจอกันที่ศาลอย่างเดียวเหมือนเดิมใช่หรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมว่าจะคุยกันดีๆ ทั้งสองฝ่าย ซึ่งคุณศรีพรรณ ก็เลี่ยงตอบคำถามบอกเพียงว่า ขอความเป็นส่วนตัว
ส่วนบ้านของนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความฝั่งคนที่บุกรุก ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากบริษัทคู่กรณี ไม่ไกลนัก สอบถามคนในบ้านบอกว่าทนายฝากบอกว่าขอความเป็นส่วนตัว และหลังจากนี้ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน ทุกอย่างเจอกันที่ศาล
ส่วนกรณีที่เมื่อวานที่หลานชายเจ้าของบ้านที่มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้านที่ต้องการยึดครองและฟ้องครอบครองปรปักษ์ ที่บอกว่าจะนอนที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่คืนนี้ แต่ปรากฎว่าเมื่อทีมข่าวไปหาในช่วงเช้า พบว่า ประตูบ้านถูกปิดล็อก เมื่อโทรสอบถาม ได้ความว่า เมื่อคืนยังไม่ได้เข้ามานอน เพราะสภาพบ้านยังไม่พร้อม ห้องน้ำใช้ไม่ได้ น้ำ-ไฟยังไม่มี ครอบครัวเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงยังไม่ให้เข้ามาอยู่ แต่เบื้องต้นจะติดตั้งแผงโซลาเซลเพื่อติดกล้องวงจรปิดก่อน ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในบ้านยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน ข้าวของยังวางที่เดิม
ขณะที่เพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาททั้งสองฝ่าย มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกสงสารเจ้าของบ้าน ตอนแรกที่เห็นบ้านถูกปรับปรุงก็ดีใจคิดว่าติดต่อเจ้าของบ้านและทำการซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอมาทราบว่ายังไม่ได้มีการซื้อขายก็รู้สึกตกใจเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
แต่ก็เข้าใจฝั่งคู่กรณี เพราะทราบปัญหาของบ้านหลังนี้ดี คือปล่อยทิ้งร้างมีต้นไม้ไทรใหญ่ที่จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ มีสัตว์เลื้อยคลานเลื้อยมาตามหลังคา ตอนกลางคืนบ้านหลังนี้น่ากลัวมาก ทำให้คนในชุมชนคุยกันว่าจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนี้ เลยเป็นที่มาที่ทำให้ป้าเข้าไปปรับปรุง และคิดว่าถ้าเจ้าของตัวจริงมาก็จะขอซื้อ
เพื่อนบ้าน บอกอีกว่าเชื่อว่าในอนาคตถ้าเจ้าของบ้าน มีโอกาสได้มาอยู่ในหมู่บ้านนี้ จะมีความสุขและเข้ากันได้ดี เพราะจริงๆ แล้ว คุณป้าคู่กรณีเขาเป็นคนจิตใจดี คนในหมู่บ้านที่นี่อยู่กันอย่างสงบเป็นมิตร เวลาใครไม่อยู่บ้านเพื่อนบ้านก็ช่วยเป็นหูเป็นตา จึงอยากให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าคุยกันด้วยดี เชื่อว่ายังสามารถคุยกันได้
ป้าคู่กรณียึดบ้านปรากฎตัว งดจ้อสื่อขอทุกอย่างจบที่ศาล !
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/217075
ป้าคู่กรณียึดบ้านเพื่อนบ้าน ปรากฎตัวแล้ว งดจ้อสื่อขอความเป็นส่วนตัว ทนายยันทุกย่างเจอกันที่ศาล เจ้าของบ้านยังไม่กล้านอนค้างหวั่นความปลอดภัย
ความคืบหน้ากรณีเพื่อนบ้านยึดบ้านร้าง พร้อมฟ้องอ้างครอบครองปรปักษ์ หลังจากเมื่อวานนี้หลานชายเจ้าของบ้านตัวจริงบุกยึดบ้านคืนแล้วนั้น
วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้พบกับคุณศรีพรรณ หนึ่งในคู่กรณี ซึ่งตอนแรกจากการสังเกตพบว่า ใช้ชีวิตปกติอยู่ภายในบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านอากู๋ ก่อนจะเดินออกมาเพื่อเข้าไปที่สำนักงานของบริษัทรับเหมาที่อยู่ข้างบ้านอากู๋ โดยเข้าทางประตูด้านหลัง ขณะที่ในสำนักงานพบว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ด้านในด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามจะถามว่า หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป ยังยืนยันคำเดิมว่าวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้ไปเจอกันที่ศาลอย่างเดียวเหมือนเดิมใช่หรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมว่าจะคุยกันดีๆ ทั้งสองฝ่าย ซึ่งคุณศรีพรรณ ก็เลี่ยงตอบคำถามบอกเพียงว่า ขอความเป็นส่วนตัว
ส่วนบ้านของนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความฝั่งคนที่บุกรุก ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากบริษัทคู่กรณี ไม่ไกลนัก สอบถามคนในบ้านบอกว่าทนายฝากบอกว่าขอความเป็นส่วนตัว และหลังจากนี้ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน ทุกอย่างเจอกันที่ศาล
ส่วนกรณีที่เมื่อวานที่หลานชายเจ้าของบ้านที่มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้านที่ต้องการยึดครองและฟ้องครอบครองปรปักษ์ ที่บอกว่าจะนอนที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่คืนนี้ แต่ปรากฎว่าเมื่อทีมข่าวไปหาในช่วงเช้า พบว่า ประตูบ้านถูกปิดล็อก เมื่อโทรสอบถาม ได้ความว่า เมื่อคืนยังไม่ได้เข้ามานอน เพราะสภาพบ้านยังไม่พร้อม ห้องน้ำใช้ไม่ได้ น้ำ-ไฟยังไม่มี ครอบครัวเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงยังไม่ให้เข้ามาอยู่ แต่เบื้องต้นจะติดตั้งแผงโซลาเซลเพื่อติดกล้องวงจรปิดก่อน ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในบ้านยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน ข้าวของยังวางที่เดิม
ขณะที่เพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาททั้งสองฝ่าย มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกสงสารเจ้าของบ้าน ตอนแรกที่เห็นบ้านถูกปรับปรุงก็ดีใจคิดว่าติดต่อเจ้าของบ้านและทำการซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอมาทราบว่ายังไม่ได้มีการซื้อขายก็รู้สึกตกใจเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
แต่ก็เข้าใจฝั่งคู่กรณี เพราะทราบปัญหาของบ้านหลังนี้ดี คือปล่อยทิ้งร้างมีต้นไม้ไทรใหญ่ที่จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ มีสัตว์เลื้อยคลานเลื้อยมาตามหลังคา ตอนกลางคืนบ้านหลังนี้น่ากลัวมาก ทำให้คนในชุมชนคุยกันว่าจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนี้ เลยเป็นที่มาที่ทำให้ป้าเข้าไปปรับปรุง และคิดว่าถ้าเจ้าของตัวจริงมาก็จะขอซื้อ
เพื่อนบ้าน บอกอีกว่าเชื่อว่าในอนาคตถ้าเจ้าของบ้าน มีโอกาสได้มาอยู่ในหมู่บ้านนี้ จะมีความสุขและเข้ากันได้ดี เพราะจริงๆ แล้ว คุณป้าคู่กรณีเขาเป็นคนจิตใจดี คนในหมู่บ้านที่นี่อยู่กันอย่างสงบเป็นมิตร เวลาใครไม่อยู่บ้านเพื่อนบ้านก็ช่วยเป็นหูเป็นตา จึงอยากให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าคุยกันด้วยดี เชื่อว่ายังสามารถคุยกันได้