1.เท่าที่รู้ตอนนี้คือความโปรงใส ต้นทุนราคาที่เทรดของทุกคน วิ่งเข้าปลายทาง คือโปรแกรมเดียวกัน เป็นของตลาดซึ่งมีคนของโบรกเกอร์เจ้าใหญ่นั่งเป็นบอร์ดอยู่ เปิดโอกาสให้หาประโยชน์ได้
2.การไม่ออกกฎเกณฑ์ที่รัดกุมพอทำให้ บริษัทที่เอาเข้ามาในตลาดเป็นลู่ทางการขายบริษัททิ้งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (อันนี้เข้าใจได้ว่าแก้ยากแต่น่าจะคัดซักหน่อยไม่ใช่เอามาขายหนีเกลี้ยง free foat เหลือ90%อันนี้ก็ไม่ไหว)
3.ความล่าช้าการสกัดเงินไหลออกจากการโกงของเจ้าของหุ้น
4.หลักเกณฑ์การติด cash balance และเกณฑ์อื่นๆที่ไม่เท่าเทียมกัน ในหุ้นแต่ละตัว (ถึงจะมีวิธีคำนวณแล้ว) ก็ยังมีข้อที่บอก็แล้วแต่พิจารณามันคืออะไร
5.เกณฑ์เอาหุ้นเข้าออกมาคำนวณดัชนี โดยเฉพาะ SET50 SET100 ซื่งมีผลต่อผู้ที่จะลงทุนกองทุน มักเห็นหุ้นที่แปลกตางบการเงินขาดทุน หรือราคาขั้นมาแล้วจำนวนมากก่อนเข้าดัชนี อยู่บ่อยๆ
ปล.ที่พูดมาอาจจะมีหลักฐาน(เช่นเหตุการณ์ หุ้น STARK) และไม่มีหลักฐาน (เช่นโปรแกรามของตลาด ที่ไม่มีใครไปตรวจโค๊ดโปรแกรมก็ถือว่าไม่โปร่งใส ) แต่ก็เกิดจากข่าวที่เกิดขึ้นต่อนักลงทุนทุกคนรับรู้กันทั่วไปแล้ว ทำให้ไม่กล้าลงทุนกันยังไงก็ โปรดใช้วิจารณญาณ กัน
ปัญหาความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้นไทยตกต่ำที่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วคืออะไรบ้าง ใครมีช่วยแชร์กัน
2.การไม่ออกกฎเกณฑ์ที่รัดกุมพอทำให้ บริษัทที่เอาเข้ามาในตลาดเป็นลู่ทางการขายบริษัททิ้งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (อันนี้เข้าใจได้ว่าแก้ยากแต่น่าจะคัดซักหน่อยไม่ใช่เอามาขายหนีเกลี้ยง free foat เหลือ90%อันนี้ก็ไม่ไหว)
3.ความล่าช้าการสกัดเงินไหลออกจากการโกงของเจ้าของหุ้น
4.หลักเกณฑ์การติด cash balance และเกณฑ์อื่นๆที่ไม่เท่าเทียมกัน ในหุ้นแต่ละตัว (ถึงจะมีวิธีคำนวณแล้ว) ก็ยังมีข้อที่บอก็แล้วแต่พิจารณามันคืออะไร
5.เกณฑ์เอาหุ้นเข้าออกมาคำนวณดัชนี โดยเฉพาะ SET50 SET100 ซื่งมีผลต่อผู้ที่จะลงทุนกองทุน มักเห็นหุ้นที่แปลกตางบการเงินขาดทุน หรือราคาขั้นมาแล้วจำนวนมากก่อนเข้าดัชนี อยู่บ่อยๆ
ปล.ที่พูดมาอาจจะมีหลักฐาน(เช่นเหตุการณ์ หุ้น STARK) และไม่มีหลักฐาน (เช่นโปรแกรามของตลาด ที่ไม่มีใครไปตรวจโค๊ดโปรแกรมก็ถือว่าไม่โปร่งใส ) แต่ก็เกิดจากข่าวที่เกิดขึ้นต่อนักลงทุนทุกคนรับรู้กันทั่วไปแล้ว ทำให้ไม่กล้าลงทุนกันยังไงก็ โปรดใช้วิจารณญาณ กัน