[CR] บิดไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก : ชะอำ-เจ้าสำราญ-เขาวัง ในวันที่อะไร ๆ ไม่เหมือนเดิม

. . . . เวลา คือตัวแปรที่จับต้องไม่ได้ แต่ส่งผลกระทบต่อทุกสิ่ง เป็นทั้งผู้ฟูมฟัก ผู้บ่อนทำลาย และเครื่องพิสูจน์ความจริงในหนึ่งเดียว . . . .

    สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเจ้าเก่านี่เอง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผมหาเรื่องขับมอเตอร์ไซค์คันเก่า ๆ ไปเที่ยวที่เก่า ๆ เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่แสนประทับใจ แต่อย่างที่ผมได้เกริ่นไปครับ เวลาไม่เคยเมตตาต่อสิ่งใด เมื่อเวลาผ่านไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งดีขึ้นและแย่ลง ชะอำ ชายหาดอันดับหนึ่งในใจผมก็เช่นกัน แล้วทริปนี้มันจะเป็นยังไงกันแน่ ตามมาชมกันเลยครับ



    ช่วงต้นปีของทุก ๆ ปี ผมจะต้องหาเรื่องออกทริปไปเช้าเย็นกลับสักทริป ซึ่งก็ไม่พ้นชะอำนี่แหละครับ โดยในทริปนี้ผมใช้กล้อง Canon EOS 1300D เป็นกล้องหลัก Canon FTBn QL พร้อมฟิล์ม KODAK Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์์ท และมี Canon Ixus 185 เป็นกล้องสแน็ปเหมือนเดิม



    เด้งจากเตียงตอนตี 4 ครึ่ง ออกจากบ้านขับมาเรื่อย ๆ พอมาถึงปากซอยบ้าน เอ้ะ เราจะไปทางสาย 4 นี่หว่า แล้วเรามาปากซอยทำไม ไม่เป็นไร ไปทางแสมดำก็ได้ เช้า ๆ รถคงยังไม่ติดมาก ซึ่งก็จริงตามนั้นครับ ช่วงคอขวดตรงแสมดำรถแน่ก็จริง แต่พอหลุดออกมาแล้วก็โล่งขึ้นเยอะเพราะตอนนี้ทางด่วนธนบุรี-ปากท่อเขาเก็บงานข้างล่างเสร็จแล้วครับ จะมาแน่นอีกทีก็คือช่วงทางเข้าตัวเมืองสมุทรสาครเพราะตั้งแต่ตรงนั้นเป็นต้นไปทางด่วนเพิ่งเริ่มสร้างตอหม้อเองครับ ก็คงจะอีกพักใหญ่ ๆ ล่ะกว่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทีแรกนึกว่าเขาจะทำให้เสร็จพร้อม ๆ กับทางด่วนบางใหญ่-กาญฯ ซะอีก และเมื่อผมบิดมาสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง อากาศเย็นฉ่ำก็เข้าปะทะตัวผผม ทำเอาแอบหนาวอยู่เหมือนกันนะ จากร้อน ๆ เมื่อกี้อยู่ดี ๆ เย็นวูบเลย เป็นสัญญาณว่าเราได้ออกจากตัวเมืองมาโดยสมบูรณ์แล้ว ก่อนที่ผมจะหักเข้าปตท. คลองโคน เพื่อเติมเต็มถัง ธรรมดาแล้วผมมักจะเลี้ยวเข้าเส้นคลองโคนแล้วขับเลาะลงไปเรื่อย ๆ จนถึงชะอำใช่ไหมครับ ทว่าในทริปนี้ผมจะรีเวิสมัน ผมจะลงไปชะอำก่อน แล้วค่อยย้อนขึ้นมาหาดเจ้าสำราญเ แล้วก็จะเลี้ยวออกเข้าตัวเมืองเพชรบุรีเพื่อไปเขาวัง ลองรูทเส้นใหม่ดูบ้างเผื่อจะได้เจออะไรเจ๋ง ๆ



    มาถึงหาดชะอำแล้ว แสงกำลังสวย แสงแบบนี้ งัดกล้องฟิล์มขึ้นมา ขึ้นฟิล์ม แล้วก่ะว่าช่วงไหนของฟิล์มที่โดนแสงไปแล้วบ้าง เพื่อที่จะได้ไล่เฉดแบบนี้



    แสงแบบนี้ ย้อนแสงยังไงก็สวย ผมละชอบจริง ๆ จากนั้นก็สะพายกล้องให้แนบกับลำตัว แล้วบิดต่อไปที่สะพานหิน ซิกเนเจอร์ของหาดชะอำ



    สะพานหิวพุพังลงไปเยอะตามลมตามคลื่น ก็นะ เจอทั้งลมทะเล ทั้งไอเกลือที่กร่อนได้ทุกสิ่งอย่าง จะไม่ผุไม่พังเลยก็ใช่ที่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมสลดก็คือ ขยะ ครับ ขยะเยอะแบบ เยอะไปไหน ขยะเยอะมากจริง ๆ รูปนี้คือผมพยายามถ่ายให้ติดขยะน้อยที่สุดแล้วนะครับ



    ขยะเยอะมากจริง ๆ มีอยู่ทุกหย่อยหญ้า ทั้งเศษถุงขนม ทิชชู่ และที่เยอะที่สุดคคือสาระพัดขวด ขวดนาน ๆ ชนิดทั้งแก้วและพลาสติก 



    นี่คือรูปจากเมื่อตอนปี 2019 ครับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีถังขยะตั้งอยู่ซึ่งอย่างน้อยมันก็ทำให้ขยะถูกทิ้งเป็นที่เป็นทาง ไม่เกลื่อนกลาดไปทั่ว 



    ส่วนนี่คือรูปจากเมื่อปี 2022 ทริปที่ผมใช้กล้องฟิล์์มลุยทั้งทริป ถังขยะไม่อยู่แล้วก็จริงแต่ก็ยังไม่เละเท่านี้ 



    นึกถึงเมื่อก่อนตอนที่ผมได้ขับมอไซคค์มาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้ตอนนี้แต่ละคนในรูปเป็นยังไงกันบ้าง ก็คงจะแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเองแหละนะ



    เอาเถอะ ถึงมันจะเป็นอย่างที่เห็น แต่ในเมื่อมาถึงแล้วก็เอาให้คุ้ม สูดหายใจเข้าลึกกกก ๆ เฮ้อ อย่างน้อยก็ยังสดชื่น



    เช็กอินซะหน่อย เลือกมุมที่ไม่มีขยะ จะนั่งชิลก็นั่งไม่ได้ครับ มดคันไฟเป็นรังเลย มันก็มาตามกินเศษอาหารในขยะนั่นแหละ



    ช่างมัน เดินถ่ายรูปเล่นก็ได้



    ถือซะว่าพาเจ้าเพี้ยนมาเที่ยว



    มีฝูงปลาอยู่ในน้ำที่ปากคลอง เจ้าตัวนี้เขาก็บินวนไปวนมา เขาไม่ใช่นกนางนวลแกลบตัวเล็ก ๆ ปลายปีกเทา ตัวนี้ใหญ่กว่าเยอะเลย ไม่รู้เป็นนกนางนวลพันธุ์อะไร



    ปากคลองชะอำ นี่คือผมพยายามเลือกมุมที่ไม่มีขยะนะครับ ถ้าแพนผิดมุมออกไปแค่นิดเดียว ขยะตรึม



    ข้อดีของ SLR ก็คือเห็นมุมไหนได้มุมนั้น แถมสปีดชัตเตอร์มารฐานที่ SLR ส่วนใหญ่ต้องทำได้ก็คือ 1/1000 วินาที ทำให้แสงเงาในภาพฟิล์มเข้มขึ้น 



    ก้มมาดูในน้ำ ลูกปลากระบอกตัวจ้อย



    ปลาเล็กปลาน้อยเต็มเลยครับ มีสลิดหินกับเสือพ่นน้ำด้วย เสือพ่นน้ำพันธุ์ที่อยู่น้ำกร่อยนั่นแหละ



    และนี่ หมอคางดำ หน้าตาคล้ายปลานิล แต่อยู่ในน้ำเค็มจัดแบบน้ำทะเลได้ หากินเป็นฝูง และใต้คางมีสีดำ เขาล่ะ แขกไม่ได้รับเชิญที่กำลังเป็นภัยคุกคามของระบบนิเวศชายฝั่ง ปลาที่ดีสำหรับเกษตรกรรมการเลี้ยงปลาเพื่อบริโภคนั้น ปลาจะต้องอึด เลี้ยงง่าย โตวัย ทนโรค กินได้ทุกอย่าง ซึ่งหมอคางดำมีทุกอย่างที่ว่ามาครับ แต่เห็นเขาว่าเนื้อเขามันไม่อร่อย ในเมื่อเป็นแบบนั้นผมนึกออกวิธีเดียวจริง ๆ ครับ ลงอวนลงข่ายดักให้หมด หรือในพื้นที่ปิดอย่างวังกุ้ง วังหอย ก็โรยกากชาให้มันตายให้หมด แล้วกวาดไปทำปลาป่นหรือไม่ก็หมักปุ๋ยชีวภาพ หรือที่รู้มาก็คือมีชาวบ้านในเพชรบุรีเอาไปหมักทำน้ำปลา อันนี้เข้าท่า  ไม่งั้นมันก็จะแพร่กระจายไปเรื่อย ๆ จนคุมไม่อยู่ ซึ่งแบบนี้ผมว่าก็ไม่อยู่แล้วแหละ



    แดดเริ่มระอุแล้ว จะนั่งชิลก็ไม่ได้ งั้นไปต่อดีกว่า จุดหมายต่อไปเขานางพันธุรัตน์



    เหล่าหมู่เรือประมงทั้งที่ยังใช้ได้และกลายเป็นอดีตไปแล้ว เคยอ่านเจอจากที่ไหนสักที่นึง เรือไม่เหมือนรถ เขาต้องเจอแรงกระแทกแรงเค้นหนักกว่า ทำให้พุกร่อนไวกว่า แต่ต่างกันตรงที่ รถเมื่อเก่าเราก็เอาไปเทรินออกใหม่ได้ แต่เรือทำแบบนั้นไม่ได้ ก็พังก็มี 2 อย่างคือซ่อมกับทิ้ง ซึ่งเขาว่ามันค่อนข้างเป็นภาระที่หนักหนาพอตัว เพราะถึงจะทิ้งไปทะเบียนของเรือก็ยังอยู่ ทำให้ยังงต้องเสียภาษีอยู่ อันนี้คือที่ผมอ่านมานะครับ จริงเท็จยังไงไม่รู้ แต่คิดว่านั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ปากน้ำท่าจีนก่อนถึงวัดช่องลมมันมีสุสานเรือประมงอยู่ตรงนั้น



    ก่อนถึงเขานางพันธุรัตน์เราก็ต้องผ่านคลองในตำนาน ซึ่งทีแรกผมนึกว่ารูปนี้เคลียร์ดีแล้วนะครับ แต่พอสังเกตุดี ๆ มันก็ยังมีขยะลอยอยู่นี่หว่า หนีไม่พ้นจริง ๆ



    และแล้วเราก็มาถึงเขานางพันธุรัตน์ แต่เมื่อขับเข้าไป ปรากฏว่าเขาให้เราจอดแล้วเดินขึ้นไปครับ เจอแบบนี้ถอยดีกว่า ไกลด้วย ร้อนตับแลบเลยด้วย



    ผมวนมาถ่ายรูปจากด้านนอกแทน 

    

    เช็กอินสักเล็กน้อย



    ขับออกมากสักพัก ก่ะว่าจะแวะถ่ายรูปบนสะพานข้ามทางรถไฟ ระหว่างทางผมเจอเจ้าตัวนี้ครับ เขาเป็นนกนักล่าแน่นอน แต่ไม่รู้ว่านกอะไร ตัวเขาใหญ่นะ แต่มันเหมือนเป็นอาถรรพ์อะไรสักอย่าง เมื่อใดก็ตามที่ผมหยิบกล้อง เหล่าวิหกนกกาจะหนีหาย ก็เลยใช้เลนซ์ซูมได้มาเท่านี้ เท่าที่สักเกตุดู เขาตัวใหญ่พอ ๆ กับนกปากห่าง และท่าทางการบินก็คล้าย ๆ กับพวกนกปากห่างหรือนกกระยาง แต่คอสั้นแบบนี้ไม่ใช่นกกินปลาแน่นอน คงจะเป็นเหยี่ยวอะไรสักอย่างแน่นอน ดูเขาตัวใหญ่กว่าเหยี่ยวแดงที่เจอบ่อย ๆ 



    แล้วเราก็มาถึงมุมที่เราสามารถมองเห็นเขานางพันธุรัตน์ได้อย่างเต็ม ๆ ตา เป็นมุมที่สวยมากจริง ๆ มุมนี้ ฟ้าใสดีด้วยวันนี้



    อีกมุมหนึ่ง ไปกันต่อดีกว่า จุดหมายต่อไปหาดเจ้าสำราญ



    ระหว่างทาง สายตาผมหันไปเห็นปากคลองปึกเตียน แวะสิครับ



    มีเรือกำลังกลับเข้ามาพอดี



    เรือประมง เรือวางลอบ เรือหาปลาบ้านเราสีสวยนะ สีเรือมันตัดกับสีของน้ำสีของฟ้าได้เป็นอย่างดี



    มาดูภาพฟิล์มกันหน่อย หนำใจแล้วไปกันต่อดีกว่า เริ่มหิวแล้ว เดี๋ยวไปหามื้อเที่ยงที่หาดเจ้าฯ 



    มาหาดเจ้าสำราญ นี่คือร้านที่ผมต้องแวะ ทริปที่แล้วก็แวะ ทริปนี้ก็ต้องแวะอีกเช่นกัน ครัวปรียานนทร์ อาหารทะเลสไตล์พื้นบ้าน ราคาสมเหตุสมผล บางทีเวลาไปเที่ยวทะเลนะครับ โดยเฉพาะตามเกาะ ผมจะรู้สึกเบ้ะปากมองบนมาก ๆ เลยแหละถ้าเจอแต่ร้านอาหารแนวบาร์บีคิว ปลากระพงเผาเกลือทั้งตัว บาร์บีคิวซีฟู้ด อะไรแบบนั้น มันอาจจะอร่อย แต่ผมไม่ค่อยชอบ ผมชอบแบบนี้ โลคอลจริง ๆ ไม่ต้องเว่อวังอลังการ เรียบง่ายและอร่อย



    เช่นจานนี้ ยำชะคราม เป็นเมนูที่ผมต้องสั่งทุกครั้ง ชะครามเป็นผักที่รสชาติในตัว พอเอามายำแบบนี้ อร่อยเหาะไปเลย



    อิ่มแล้วก็ได่เวลาลงหาด หาดเจ้าสำราญนี่เอง



    ข้อเสียนิด ๆ หน่อย ๆ ของหาดเจ้าสำราญคือเป็นหาดที่ไม่ค่อยมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ แต่ก็แปลก ผมเดินถ่ายรูปริมหาดมาสักพักแล้ว ขยะแทบไม่มีเลยครับ 



    คงเป็นเพราะว่าคนก็น้อยกว่าชะอำมาก ขยะก็เลยน้อยตาม



    เดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ 



    ดูรูปฟิล์มกันบ้าง



    เช็กอินซะหน่อย
ชื่อสินค้า:   ครัวปรียานนทร์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่