ไปกันค่ะ... ชมทะเลหมอกปัง ๆ บน "ดอยผาตั้ง"  อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย   ส่วนตัวแล้วก็เคยมาเชียงรายอยู่หลายครั้ง

แต่สำหรับ ดอยผาตั้งครั้งนี้คือครั้งแรกเลย  ก็ได้เจอทะเลหมอกแบบปัง  ๆ ถือว่าความตั้งใจมาเชียงรายทริปนี้ ประสบความสำเร็จแล้ว  

การเดินทาง  จากตัวเมือง เชียงราย  ระยะทาง 100 กิโลนิด แต่ด้วยเส้นทางขึ้นเขาและทางชันจึงใช้เวลาพอสมควรประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ได้ 

เปิด Google Map ตั้งมายัง ดอยผาตั้งไม่มีหลงแน่นอน เส้นทางมาได้สองเส้นทางแต่ทั้งสองทางก็มีความชันที่ไม่ต่างกันเลย   

ช่วงที่เดินทาง  25-27 ธันวาคม 2566  ก่อนปีใหม่ที่ผ่านมาค่ะ  

***สภาพรถ ควรพร้อมนะคะ ** 

ตอนแรกวางแผนมาจะกางเต้นท์  แต่ด้วยคืนก่อน ก่อนจะมาผาตั้งเราก็กางเต้นท์มาแล้วเลยรู้สึกว่าจะเหนื่อยเกินไป  ลองโทรเช็คห้องพักดูว่าจะมีว่างไหมเพราะเราไม่ได้จองมาตั้งแต่แรก  โชคดียังมีว่างอยู่เลยได้นอนห้องแทนค่ะ 

ทำให้ไม่รีบมาก  มาถึงช่วงเย็นๆ  ประมาณ 5 โมงเย็นได้  และก็มีเวลาขึ้นไปสำรวจทางไปดอยผาตั้งช่วงเย็นก่อน  

มาสำรวจมุมไหน ตรงไหนนะ  ที่เป็นมุมยอดฮิดในการถ่ายรูปกัน 

ควรค้างคืนที่หมู่บ้านผาตั้งและถ้ามาไวมีเวลาจะได้ชมบรรยากาศช่วงเย็นด้วยก็จะดีมากๆ  เลยค่ะ       

**ที่ลานจอดรถของดอยผาตั้งก็เปิดให้กางเต้นท์นอนได้นะคะ  คนละ 50 บาทค่ะ**

ที่เห็นพระจันทร์ กำลังขึ้นอยู่นี้  คือทางฝั่งลาวช่วงเย็นค่ะ  

พระอาทิตย์กำลังตก  ก็เป็นทางฝั่งไทยของเราค่ะ  ฤดูหนาวก็มาพร้อมความแห้งแล้งนิดหนึ่ง ต้นไม้ ไม่เขียวชอุ่มเหมือนฤดูฝนค่ะ 

(แม่ค้าตรงนั้นบอก)  เป็นต้นซากุระญี่ปุ่น หรือจะ พญาเสือโคร่งนะ   เริ่มบานอยู่แถวลานจอดรถ ได้ 1-2 ต้นอยู่ค่ะ     ก่อนเดินขึ้นผาตั้งจะมีลานจอดรถและร้านค้าของฝาก ของกิน ค่ะ  เราสามารถเดินขึ้นไปได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  ไม่ต้องมีผู้นำทางใดๆ ค่ะ   มีป้ายบอก  ทางเดินง่ายค่ะ  (ขออภัยไม่ได้เก็บรูปลานจอดรถและทางเข้ามาให้ชมกัน)   

ฟ้ามืด อากาศเย็นลงอย่างเร็ว  กลับเข้าที่พักและก็เตรียมตัวมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้ากัน  (เผื่อเวลาเดินด้วยนะ)  ไม่ไกลแต่ก็ใช้เวลาทีเดียว

สวัสดียามเช้า ณ ดอยผาตั้ง   ออกมาจากที่พักมาประมาณตี 5 ครึ่ง  และเริ่มเดินมาจากลานจอดรถ  พอขึ้นเขามาประมาณหนึ่งก็เริ่มเห็นแสงแบบนี้แล้ว

ผาตั้ง พร้อมทะเลหมอกฝั่งลาว ค่ะ  (ภาพตรงผาตั้งตอนสายแล้วค่ะ ขาเดินลงกลับ) เลยไม่ได้แสงอาทิตย์เหลืองทอง 

จุดชมวิว  102   เห็นวิวแบบ 360 องศา  มาไวๆ ให้ทันแสงขึ้น ณ จุด 102 ค่ะ  ทะเลหมอกหนาๆ ฟูๆ รออยู่ค่ะทุกคน  

จากจุด 102  มายัง 103   ใช้เวลาพอสมควรค่ะ  ถ้าใครอยากได้แสงอาทิตย์แบบค่อยๆ ขึ้น ต้องอยู่ประจำทีค่ะ  เพราะช่วงที่เราเดินมาอีกจุดหนึ่งพระอาทิตย์ก็ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้ว แสงก็เปลี่ยนไปไวมากค่ะ   

มาถึงจุด  103  เราถ่ายรูปกับทะเลหมอกกันแบบยาวๆ  ยังไม่อยากเดินกลับเลยค่ะ บรรยากาศดีมากๆ  สวยๆ  สมกับความตั้งใจมา 

ถึงสายแล้วแต่ทะเลหมอกก็ยังหนาฟูเต็มพื้นที่อยู่เลยค่ะ   ไม่เห็นวิวข้างล่างของฝั่งลาวเลย 

ขอบอกว่ามีสัญญาณนะทุกคน  ทุกค่ายเลยจ้า   up ลงโซเชียลได้แบบเช้า ๆ กันเลยทีเดียว  

ไม่อยากกลับ  แต่ก็ต้องกลับล่ะ  เพราะเรายังต้องเดินทางกันต่อ   

ลงมาตรงชุมชนแถวที่พัก   มาทานมื้อเช้ากันที่  "ร้านบ้านดิน ขาหมู่ หมั่นโถ"  อิ่มและอร่อยกันไปกับมื้อนี่ค่ะ  

เก็บสัมภาระเช็คเอาท์กัน  ต้อง บาย บายๆ  ดอยผาตั้ง  ไปต่อกันที่ >>>>>> สามเหลี่ยมทองคำ>>>> ดอยสะโง้      

คืนนี้เราเลือกนอนที่ดอยสะโง้  ออกจากผาตั้งเราใช้เส้นทางวิ่งเลาะตามแม่น้ำโขงมา เรื่อยๆ  เพื่อมายังสามเหลียมทองคำค่ะ 

ระหว่างทางก็  มีจุดให้แวะถายรูป  ชมวิว   เช่นกัน

จอดรถไว้ที่ลานจอดรถ มีรถสองแถวให้บริการคนละ 30 บาท พาขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว sky walk ค่ะ  และท่านที่จะเข้าชมต้องใช้ถุงเท้าค่ะ คู่ละ 40 บาท

สามเหลี่ยมทองคำ  แวะมาถ่ายรูปและชมบรรยากาศ ก่อนขึ้นไปกางเต้นท์ บนดอยสะโง้  ค่ะ    ไทย  ลาว  เมียนม่าร์  กั้นโดยแม่น้ำโขง 

ดอยสะโง้  อยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 10 กม. ได้ค่ะ   ด้านบนเป็นลานกางเต้นท์  และมีที่พักให้เลือกหลายเจ้าค่ะ 

ด้านบนจะเห็นวิวตัวอำเมืองแม่สาย  เชียงราย  และก็วิวฝั่งลาวค่ะ  

บรรยากาศยามเช้า   "ดอยสะโง้" ดีๆ ค่ะ   ได้แต่เก็บรูปยามเช้ามาให้ชมนะคะ  ช่วงเย็นวุ่นๆ อยู่กับการกางเต้นท์เลยไม่ได้เก็บบรรยากาศมาฝากค่ะ

เชียงราย  ยังมีอีกหลายอำเภอ  หลายดอยให้ไปชมค่ะ  มีโอกาสไปได้ซ้ำๆ ค่ะ กับจังหวัดเชียงราย  3 วัน 2 คืน ยังไม่พอ ค่ะ

ความสุข = การเดินทาง  ไปกันค่ะ