ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก! แนะนำแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ฝึกภาษาปี 2567

สวัสดีค่าทุกคนนน วันนี้เรามาแชร์เรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการฝึกภาษาอังกฤษกันค่ะ บอกเลยว่าปี 2567 นี้ การเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์มากมาย ที่ช่วยให้เราพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
เราเองก็กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่เหมือนกัน เลยอยากหาข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ค่ะ


1. ELSA Speak 
เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกพูดภาษาอังกฤษที่โด่งดังมาก เน้นการใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์และแก้ไขการออกเสียงของผู้ใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้งานพูดภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของแอป ELSA Speak
🌻เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การออกเสียง: ELSA Speak ใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การออกเสียงของผู้ใช้งาน บอกจุดผิดพลาด และแนะนำวิธีแก้ไข
🌻บทเรียนหลากหลาย: ELSA Speak มีบทเรียนหลากหลาย ครอบคลุมทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ สำนวน การสนทนา และวัฒนธรรม
🌻ฝึกพูดตามเจ้าของภาษา: ELSA Speak มีวิดีโอจากเจ้าของภาษา ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกฟังสำเนียงที่หลากหลาย
🌻ติดตามผลการเรียนรู้: ELSA Speak ช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามผลการเรียนรู้ เห็นพัฒนาการของตัวเอง
🌻ใช้งานง่าย: ELSA Speak ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

ข้อเสียของแอป ELSA Speak
🌼เนื้อหาบางส่วนต้องเสียเงิน
🌼บทเรียนบางบทเรียนสั้นเกินไป
🌼ระบบ AI วิเคราะห์การออกเสียงยังไม่แม่นยำ 100%

โดยสรุปแล้ว แอป ELSA Speak เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกพูดภาษาที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เป๊ะปัง

คะแนน: 4.5 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

2. Duolingo 
เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาที่โด่งดังมาก เน้นการเรียนรู้ผ่านบทเรียนและเกม มีเนื้อหาครอบคลุม เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ

จุดเด่นของแอป Duolingo
🌻เรียนรู้ผ่านบทเรียนและเกม: Duolingo นำเสนอบทเรียนในรูปแบบเกม ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสนุกสนานกับการเรียนรู้
🌻เนื้อหาครอบคลุม: Duolingo มีเนื้อหาครอบคลุมทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ สำนวน การสนทนา และวัฒนธรรม
🌻ติดตามผลการเรียนรู้: Duolingo ช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามผลการเรียนรู้ เห็นพัฒนาการของตัวเอง
🌻ใช้งานง่าย: Duolingo ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

ข้อเสียของแอป Duolingo
🌼เนื้อหาบางส่วนต้องเสียเงิน
🌼เน้นการเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ การฝึกพูดและฟังยังมีจำกัด
🌼บทเรียนบางบทเรียนง่ายเกินไป ไม่ท้าทาย

โดยสรุปแล้ว แอป Duolingo เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้ภาษา

คะแนน: 4 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

3. Cake
เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาอังกฤษที่โด่งดังมากในปัจจุบัน เน้นการเรียนรู้ผ่านวิดีโอสั้นๆ เนื้อหาครอบคลุม เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ

จุดเด่นของแอป Cake
🌻วิดีโอสั้น เนื้อหาครอบคลุม: วิดีโอบนแอป Cake มีความยาวประมาณ 1-3 นาที เนื้อหาครอบคลุมทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ สำนวน การสนทนา และวัฒนธรรม เหมาะกับการเรียนรู้ในยุคสมัยที่ผู้คนมีสมาธิสั้น
🌻เรียนรู้ผ่านสถานการณ์จริง: วิดีโอบนแอป Cake จำลองสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำความรู้ไปใช้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🌻ฝึกพูดตามเจ้าของภาษา: วิดีโอบนแอป Cake นำเสนอโดยเจ้าของภาษาจากหลายประเทศ ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ฝึกฟังสำเนียงที่หลากหลาย
🌻มีระบบ AI ตรวจสอบการออกเสียง: ผู้ใช้งานสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษและตรวจสอบการออกเสียงได้ด้วยระบบ AI
🌻เกมและบททดสอบ: แอป Cake มีเกมและบททดสอบเพื่อทบทวนความรู้ ช่วยให้ผู้ใช้งานจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น
🌻ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซของแอป Cake ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

ข้อเสียของแอป Cake
🌼เนื้อหาบางส่วนต้องเสียเงิน
🌼วิดีโอบางวิดีโอยาวเกินไป
🌼ระบบ AI ตรวจสอบการออกเสียงยังไม่แม่นยำ 100%

โดยสรุปแล้ว แอป Cake เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาอังกฤษที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ สนุกๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา

คะแนน: 4.5 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

4. Praktika 
เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว เน้นการใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์และแก้ไขการออกเสียง ช่วยให้ผู้ใช้งานพูดภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของแอป Praktika
🌻ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว: Praktika จำลองการสนทนากับเจ้าของภาษา ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
🌻เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การออกเสียง: Praktika ใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การออกเสียงของผู้ใช้งาน บอกจุดผิดพลาด และแนะนำวิธีแก้ไข
🌻บทเรียนหลากหลาย: Praktika มีบทเรียนหลากหลาย ครอบคลุมทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ สำนวน การสนทนา และวัฒนธรรม
🌻ติดตามผลการเรียนรู้: Praktika ช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามผลการเรียนรู้ เห็นพัฒนาการของตัวเอง
🌻ใช้งานง่าย: Praktika ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

ข้อเสียของแอป Praktika
🌼เนื้อหาบางส่วนต้องเสียเงิน
🌼บทเรียนบางบทเรียนสั้นเกินไป
🌼ระบบ AI วิเคราะห์การออกเสียงยังไม่แม่นยำ 100%

โดยสรุปแล้ว แอป Praktika เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกพูดภาษาที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เป๊ะปัง

คะแนน: 4.5 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

5. EWA 
แอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาอังกฤษ เน้นการใช้หนังสือและภาพยนตร์เป็นสื่อการสอน ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกฝนทักษะการอ่าน การฟัง การพูด และการเขียน

จุดเด่นของแอป EWA
🌻เนื้อหาหลากหลาย: EWA มีเนื้อหาหลากหลาย ทั้งหนังสือและภาพยนตร์ เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ
🌻ฝึกภาษาอังกฤษครบทุกทักษะ: EWA ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกฝนทักษะการอ่าน การฟัง การพูด และการเขียน
🌻เรียนรู้ผ่านหนังสือและภาพยนตร์: EWA ใช้หนังสือและภาพยนตร์เป็นสื่อการสอน ช่วยให้ผู้ใช้งานเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกสนาน
🌻ติดตามผลการเรียนรู้: EWA ช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามผลการเรียนรู้ เห็นพัฒนาการของตัวเอง
🌻ใช้งานง่าย: EWA ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

ข้อเสียของแอป EWA
🌼เนื้อหาบางส่วนต้องเสียเงิน
🌼ระบบการแปลภาษาไม่แม่นยำ 100%
🌼ฟีเจอร์บางฟีเจอร์ยังไม่สมบูรณ์

โดยสรุปแล้ว แอป EWA เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษผ่านหนังสือและภาพยนตร์

คะแนน: 4 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

6. BBC Learning English 
เว็บไซต์สำหรับฝึกภาษาอังกฤษจากสำนักข่าว BBC ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อหาคุณภาพ ครอบคลุมทุกทักษะ เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ

จุดเด่นของเว็บไซต์ BBC Learning English
🌻เนื้อหาคุณภาพ: เนื้อหาบนเว็บไซต์ BBC Learning English ผลิตโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก BBC มั่นใจได้ว่าเนื้อหานั้นถูกต้อง ทันสมัย และน่าสนใจ
🌻ครบคลุมทุกทักษะ: เว็บไซต์มีเนื้อหาสำหรับฝึกทุกทักษะ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน
🌻เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ: เว็บไซต์มีเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่ Beginner ไปจนถึง Advanced
🌻รูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย: เว็บไซต์มีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งบทความ วิดีโอ เกม บททดสอบ และอื่นๆ
🌻ใช้งานฟรี: เว็บไซต์ใช้งานฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ข้อเสียของเว็บไซต์ BBC Learning English
🌼เว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด อาจยากสำหรับผู้ใช้งานที่เริ่มต้น
🌼เนื้อหาบางส่วนอาจเก่าบ้าง
🌼เว็บไซต์โหลดช้าบ้าง

โดยสรุปแล้ว เว็บไซต์ BBC Learning English เป็นแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษชั้นนำ เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง

คะแนน: 4.5 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

7. EnglishClub 
เว็บไซต์สำหรับฝึกภาษาอังกฤษที่โด่งดัง มีเนื้อหาครอบคลุม เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ

จุดเด่นของเว็บไซต์ EnglishClub
🌻เนื้อหาครอบคลุม: เว็บไซต์มีเนื้อหาสำหรับฝึกทุกทักษะ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน
🌻เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ: เว็บไซต์มีเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่ Beginner ไปจนถึง Advanced
🌻รูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย: เว็บไซต์มีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งบทความ วิดีโอ เกม บททดสอบ และอื่นๆ
🌻ใช้งานฟรี: เว็บไซต์ใช้งานฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ข้อเสียของเว็บไซต์ EnglishClub
🌼เว็บไซต์ออกแบบมาให้อ่าน อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกการฟัง
🌼โฆษณาเยอะ
โดยสรุปแล้ว เว็บไซต์ EnglishClub เป็นแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษที่ครบวงจร เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

คะแนน: 4 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

8. HelloTalk 
เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาที่โด่งดัง เน้นการเรียนรู้ผ่านการแชทกับเจ้าของภาษา ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ฝึกฝนทักษะการพูดและการฟัง เรียนรู้วัฒนธรรม และหาเพื่อนใหม่จากทั่วโลก

จุดเด่นของแอป HelloTalk
🌻ฝึกภาษาผ่านการแชท: ผู้ใช้งานสามารถแชทกับเจ้าของภาษาจากทั่วโลก ฝึกฝนทักษะการพูดและการฟัง เรียนรู้วัฒนธรรม และหาเพื่อนใหม่
🌻ฟีเจอร์แปลภาษา: แอปมีฟีเจอร์แปลภาษา ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานที่พูดภาษาอื่นได้
🌻บทเรียนภาษา: แอปมีบทเรียนภาษาสำหรับฝึกฝนทักษะต่างๆ เช่น คำศัพท์ ไวยากรณ์ สำนวน
🌻ชุมชน: แอปมีชุมชนสำหรับผู้ใช้งาน สามารถแชร์ประสบการณ์ ถามคำถาม และหาเพื่อนใหม่

ข้อเสียของแอป HelloTalk
🌼ผู้ใช้งานบางคนอาจไม่จริงจังกับการเรียนภาษา
🌼มีโฆษณา
🌼ฟีเจอร์บางฟีเจอร์ต้องเสียเงิน

โดยสรุปแล้ว แอป HelloTalk เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการฝึกฝนทักษะการพูดและการฟัง เรียนรู้วัฒนธรรม และหาเพื่อนใหม่จากทั่วโลก

คะแนน: 4 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

9. TED-Ed 
ช่อง Youtube ที่นำเสนอบทเรียนน่าสนใจผ่านแอนิเมชั่น เนื้อหาครอบคลุม เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย

จุดเด่นของช่อง TED-Ed
🌻แอนิเมชั่นน่าสนใจ: TED-Ed นำเสนอบทเรียนผ่านแอนิเมชั่นที่มีสีสัน ดึงดูดความสนใจ ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาได้ง่าย
🌻เนื้อหาครอบคลุม: TED-Ed มีเนื้อหาครอบคลุมหลากหลายวิชา ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภาษา และอื่นๆ
🌻เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย: TED-Ed นำเสนอบทเรียนในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกวัย
🌻ฟรี: TED-Ed ใช้งานฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

โดยสรุปแล้ว ช่อง TED-Ed เป็นช่อง Youtube สำหรับการเรียนรู้ที่ดี เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ ผ่านแอนิเมชั่นสนุกๆ เข้าใจง่าย

คะแนน: 4.5 / 5 ⭐️⭐️⭐️⭐️

หมายเหตุ: รีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ประสบการณ์ของผู้ใช้งานแต่ละคนอาจแตกต่างกัน

เราเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษได้ สิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ หาแรงบันดาลใจ และสนุกกับการเรียนรู้ เราหวังว่าแอปและเว็บที่แนะนำจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ มาพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษไปด้วยกันค่ะ!

เพื่อนๆ มีแอปหรือเว็บฝึกภาษาอังกฤษเด็ดๆ อะไรอีก แนะนำกันหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ 👏🏻👏🏻👏🏻
พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่