สรุปก็ต้องหาข้อมูลเองอยู่ดี... เอาเป็นว่าปิดกระทู้พร้อมสรุปแผนการทั้งหมดและกันครับ
คำถามที่อยากรู้มีเพียงอย่างเดียวว่า งบ 5หมื่นบาท เพียงพอกับทริปแบบนี้หรือไม่
สรุปแล้ว งบ 5หมื่นตามที่คิดไว้คือเกือบไม่พอ เพราะตั๋วเครื่องบินแพง บวกกับต้องเผื่อๆเงินไว้สำรองฉุกเฉินอีก หมื่น-2หมื่น
-ผมเข้าใจครับที่แนะนำให้หา SUICA หรือ PASMO เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
แต่ผมไม่ได้อยากได้ความสะดวกครับ
ผมไม่อยากจะหลับหูหลับตาเดินขึ้นลงเข้าออกสถานีรถโดยยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าระบบของเขาทำงานยังไง
ถ้าผมใช้ระบบเขาเป็นแล้ว ผมถึงจะพิจารณา SUICA อันนี้คือสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว
-ส่วนที่พักแน่นอนว่ามันถูกกว่าหากนอนที่เดียวหลายคืน แต่ถ้าแลกกับเวลาเดินทางไปกลับวันเดย์ทริป
การไม่ต้องไปกลับวันเดย์ทริปประหยัดเวลาในการเดินทางของแต่ละวันได้มากกว่า
-รถบัสที่นั่งทั้งหมดที่หามาตามเส้นทางที่จะไปเป็น Localหมด ไม่ใช่รถบัสด่วน ต่อให้อยากจะจองก็คงจองไม่ได้อะครับ เขาไม่มีให้จอง
เนื่องจากว่าเป็นแผนที่คิดด่วนล่วงหน้าไม่เพียงกี่เดือน ตั๋วเครื่องบินจึงได้ในราคา 24000 บาทไป-กลับครับ
ที่การวางจุดการเดินทางเริ่มจาก และจุดแวะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคนที่เยอะ
ถ้านั่งชิลแต่คนเยอะคืออยู่ไม่นานครับ อึดอัด
ถ้างานวัดคนเยอะ อันนี้ยินดีอยู่นานครับ
ถ้านั่งชิล บรรยากาศสงบ คนไม่เยอะ อันนี้อาจจะอยู่นานหน่อยแต่คงไม่ถึงชั่วโมงเพราะไปคนเดียว
NARITA -> KAMAKURA -> ODAWARA -> HAKONE -> YAMANAKA-KO -> FUJIKAWAGUCHI-KO -> MT.TAKAO -> TOKYO -> NARITA
รูทที่วางไว้คือการไม่ใช้โตเกียวเป็น HUB สภาพเหมือนจะขับรถเที่ยว แต่ใช้รถสาธารณะอย่างเดียว
1日 วันแรกที่ไปถึงสนามบิน ผมวาง Kamakura ไว้ก็จริง แต่จริงๆแล้วตรงนี้คือวันฟรี เนื่องจาก Kamakura ดันอยู่ในเส้นทางจะไป Odawara พอดี ผมเลยถือโอกาสแวะแค่ Hase กับ Kamakura Enoshima แวะไม่แวะก็ได้ เนื่องจากวันนั้นคือวันอาทิตย์ เวลาจึงมีน้อยกว่าปกติ
Hi-light ของตรงนี้คือทางคู่ขนาน Komachi-dori ที่เขาปลูกซากุระ และผมคิดเอาเองว่าเขาน่าจะมีการยิงไฟในต้นซากุระตอนกลางคืน
กับที่ปราสาท Odawara ก็เช่นกัน
นอน Odawara ใกล้สถานีเพื่อที่ว่าตอนเช้าจะได้ไป Hakone ได้ในทันที โดยตัดเรื่องนั่งรถจากชินจูกุ 1-2ชม. ออกไปเลย
2日 วันเที่ยว Hakone เต็มวัน เที่ยวจนฟ้ามืด เช่นนั้นวิว ณ ที่พักจึงไม่มีความจำเป็น ทำให้จำกัดไปห้องพักราคาถูกที่ไม่มีหน้าต่าง และต้องไปรอรถแต่เช้า
เนื่องจากที่นี่เป็นที่เที่ยวทั่วไปจึงไม่ได้ Hi-light อะไรมากนัก เขาว่า Sakura ของโกระก็สวย แต่หารูปอ้างอิงไม่ได้เลย
3日 วันเดินทางไป Yamanaka-ko ทะเลสาบที่จะให้มีอะไรมันก็จะมี หรือจะให้มันไม่มีอะไรมันก็จะไม่มี ผมได้ข่าวว่าที่นี่หงส์เป็นมิตรไม่ต่างจากกวางนารา
จึงอยากลองไปสัมผัสหงส์พวกนี้สักครั้ง และก็จบที่ Oshino แหล่งเที่ยวยอดฮิตของทัวร์ไทย แต่เนื่องจากมันเป็นจุดพักพอดี เลยพักที่นั่น 1คืน
4日 วันเดินทางไป Kawaguchi-ko ถ้ามีเวลาในตอนเช้ามากอาจแวะศาลเจ้าคิตะกุจิ ไปคาวางุจิซื้อคูปองรถบัสฟรีสายแดง เขียว และเที่ยวตามสายแดง
เริ่มที่พาโนรามาวิว ซึ่งตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะเดินขึ้นเขาและค่อยลงกระเช้า คอร์สขึ้นเขาตามที่หาข้อมูลมาใช้เวลาประมาณ 1ครึ่ง-2ชม
ตอนลงเขาคิดว่า คนขึ้นกระเช้าน่าจะไม่ลำบากเท่าตอนขึ้น เพราะคงไม่แวะบนนั้นนานคิดว่า
ถ้าเวลาจัดงานชมดอกซากุระ ตั้งตามกำหนดการพอดี ก็อาจจะได้เจองานวัดแถวพิพิธภัณฑ์ดนตรี
ส่วน Oishi Park ผมเชื่อว่าที่เขาไปแวะกันเพราะของฝากกับถ่ายวิว จึงไม่ค่อยซีเรียสครับถ้าจะไปไม่ไป หรือไปแล้วแวะเพียงแป๊บเดียว
ฉะนั้น Hi-light หลักของวันนี้จะมีเพียงงานวัด 360พาโนรามา กับร่องเรืออัปปาเระ
5日 อีกวันที่อยู่ Kawaguchi-ko เดินจากที่พักไปศาลเจ้ามิมูโระ รอรถบัสสีเขียว ไปลงถ้ำค้างคาว หาข้อมูลไปมาปรากฏไปเจอเส้นทางเดินป่า
ที่เชื่อมถึงกันระหว่างถ้ำค้างคาว ถ้ำลม ถ้ำน้ำแข็ง และหอดูนก เลยว่าจะใช้เวลาทั้งวันนั้นในการเดินป่า เว้นแต่ว่าจะเห็นรถบัสพอดี
Hi-light ของวันนี้ที่ผมตั้งใจไว้เลยคือ นกกระจิบป่าเกาะบนมือครับ เห็นคนญี่ปุ่นทำกี่ทีก็ทึ่ง ที่นกป่าดูคุ้นชินกับคนได้ขนาดนั้น
ถ้ามีเวลาแวะเนมบะ อิยาชิโนะซะโตะ และกลับมาศาลเจ้า กลับที่พัก
ในย่าน Fuji-ko ทั้ง 5 Hi-light ของกินที่ผมตั้งไว้คือ โฮโตกับเนื้อม้าและผักป่าผักภูเขาครับ
6日 วันที่จะเดินทางไปเขาทาคาโอะ ซึ่งจะเป็นพวกศาลเจ้า Chureito กับทาง Shimoyoshida พร้อมอุด้งเนื้อม้าเลื่องชื่อของที่นั่น
ซึ่งมีเวลาทั้งวัน เพราะไปที่ทาคาโอะก็เข้าที่พักอย่างเดียว และสืบรู้มาว่าแถวนั้นก็มีออนเซ็นด้วยเช่นกัน คงอาจจะเข้าไปแช่ที่นั่นถ้าไปถึงไว
7日 วันขึ้นเขาทาคาโอะ โดยตั้งใจว่าจะขึ้นเขาไปให้ถึงยอดก่อนเขาเปิดกระเช้า โดยใช้เส้นทางที่ 6 ใช้เวลา 1ชมครึ่ง-2ชม.
และเดินต่อไปอีกถึง เขาชิโระ และกลับลงมาเขาทาคาโอะ แวะศาลเจ้า และลงเขานั่งกระเช้า ผมให้เวลาที่ทาคาโอะเต็มวัน
เพราะที่เหลือคือการเดินทางไปโตเกียวคงไม่ได้ทำอะไรมาก
8日 - 9日 -10日 ณ ขณะนี้วันที่ 22 มีนา เขายังไม่ฟันธงเวลาจัดเทศกาลชมดอกซากุระ ต้องรอวันอาทิตย์ 24 มีนา เนื่องจากที่ผ่านมามีอากาศเย็นเฉียบพลั่นและกระแสลมแรง จึงทำให้ฤดูใบไม้ผลิช้ากว่ากำหนด ซึ่งถ้าได้กำหนดที่แน่ชัด ช่วงสามวันนี้จะเป็นวันไปชิลตามเทศกาลดอกซากุระครับ
สถานที่บังคับตัวเองว่าต้องไปคือแม่น้ำเมงุโระ สวนชินจูกุเกียวเอ็นครับ
และจะมี 1วันที่ต้องไปแวะสึกิชิมะถนนมงจา และวันที่หาต้มปลาโดะโจ(ผมเรียกมันว่าต้มปลาหลดญี่ปุ่น)
ส่วนนอกนั้นคือฟรีสไตล์ผมเลย เน้นเทศกาลชมดอกซากุระ
แต่กรณีแผนเดิมถ้าไม่ทันงานชมดอกไม้ ก็จะไปแวะตามจุดท่องเที่ยวปกติครับ
11日 วันกลับจะทำการเดินทางไปที่วัดเขานาริตะ และใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นั่นก่อนกลับ ซึ่งกำลังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะแวะเขาซากุระที่เป็นจุดชมเครื่องบินสนามบินนาริตะดีไหม จุดนั้นเองก็ปลูกซากุระเช่นกัน แต่วันกลับผมจะไม่วางตารางแน่น
เป้าหมายถึง ซากุระ งานวัด ของท้องถิ่น ส่วนพวกที่เที่ยวได้ทั้งปีจะช่างหัวมันไปเลยถ้าจำเป็นครับ
ในเมื่อได้แผนมาเช่นนี้ ค่าใช้จ่ายเดินทางรวมทั้งหมด 11 วันเท่ากับ 22000เยน หรือเท่ากับ 5200บาทครับ (รวมทุกพาสทุกตั๋วที่ใช้หมดทุกเส้น)
ส่วนที่พัก ด้วยความที่อยากเปิดหูเปิดตา ฉะนั้นจึงไม่เลือกที่พักยอดฮิตของคนไทย และเน้นที่พักที่ไม่ซ้ำกันสักคืน ไปให้รู้ นอนให้รู้
ไม่ใช่ว่าอีโก้หรืออะไรหรอกที่พักที่คนไทยไปพักกันราคาหารคือดีกว่า แต่ราคาสำหรับคนเดียวคือแพงครับ
หมดค่าที่พักไปคิดกลมๆ 14000บาท จริงๆแล้วค่าที่พักนอนคนเดียวที่หาได้สู้ราคาห้องหารสองไม่ได้เลย
แต่เนื่องจากไปคนเดียวจึงไม่มีทางเลือกเพราะอย่างน้อยกว่าถูกกว่าจ่ายห้องเตียงคู่ราคาเต็ม
ย้อนกลับที่เอาโตเกียวเป็นฮับ ถึงแม้พาสมันจะแพงกว่าถ้าคิดแค่ส่วนของเดินทาง แต่ถ้ารวมที่พักในแต่ละจุดไปด้วย
พาสจะราคาถูกกว่า และค่าที่พักจะลดลง แต่ผมไม่เสียใจหรอกนะที่ไม่เลือกโตเกียวเป็นฮับ ถือเป็นการจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับเวลา 2-4ชม ต่อวันครับ
และจะมีเวลาในส่วนอื่นมาก รวมถึงเวลาหลงด้วยเช่นกัน
ส่วนค่ากินผมกลมๆไว้มื้อละ 2000เยน รวม 3มื้อ งบต่อวันคือ 6000เยน 10วันเท่ากับ 60000เยน หรือ 14400บาท
ค่าชมสถานที่คิดแบบรวมๆซึ่งหน้างานอาจไม่ถึง 25000เยน หรือ 6000บาท
ค่าฝากกระเป๋ากลมๆแต่ละที่ 1000บาท
รวมทั้งหมดเป็น 64600บาท
หากตัดตั๋วเครื่องบินออกงบทั้งหมดจะเท่ากับ 40600บาท
เงินสำรองอีก 100000เยน เท่ากับ 24000 ณ เรทปัจจุบัน
รวมทุนเที่ยวรวมทุกอย่าง 88600บาท
ไม่มีงบชอปปิ้งเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร ไม่รู้จะซื้ออะไรไปฝากใคร ไม่มีใครให้ซื้อไปฝาก
รู้สึกเฉยๆกับขนมญี่ปุ่นของฝาก สู้ซื้อกินหน้าร้านไม่ได้เลย
ส่วนกิจกรรมส่งโปสการ์ดที่วางไว้ก็ในงบที่ตั้งไว้น่าจะพอจึงไม่น่าจะตั้งงบเพิ่มครับ
ทีนี้ก็มาดูกันว่า งบที่ใช้ไปจริงจะใช้ไปทั้งหมดเท่าไร
พาสที่จะซื้อ
Norioriku ขึ้นลงไม่อั้นสาย Enoden ว่ากันตามตรงอาจลงไม่คุ้มพาส แต่วันอาทิตย์ จะไปซื้อตั๋วน่าจะลำบากเลยตัดปัญหาโดยซื้อพาส
Hakone Free Pass ซื้อที่ Odawara ซื้อแบบสองวัน จากที่คำนวณพบว่า นั่งกระเช้า นั่งรถเคเบิล รถไฟขึ้นเขา นั่งเรือไปกลับ นั่งรถบัส วันเดียวก็คุ้มแล้ว
Free Coupon รถบัสฟูจิคิว แดงน้ำเงินเขียว 2วัน ตัดสินใจจะซื้อแยกจากตั๋วเข้าถ้ำ เพราะไม่แน่ใจเรื่องเวลาว่าจะมีพอมั้ย
Tokyo Metro 72 hr. เนื่องจากป้ายที่จะลงคิดดีแล้วว่ามีมากกว่า 6ป้ายภายใน 3วัน จึงเลือกพาสดังกล่าว
พาสที่จะไม่ซื้อ
-พาสที่เกี่ยวกับ Kamakura เนื่องจากเป็นวันแรกที่ถึงญี่ปุ่น จึงทำให้เสียเวลาในช่วงเช้าไป กล่าวคือผมมีเวลาเพียง 6ชม. ในการเที่ยวคามาคุระ
ซึ่งพาสดังกล่าวควรใช้เวลาเต็มที่ 12ชม. ในเที่ยว
-JR Wide Pass เนื่องจากระยะเวลาไม่ตรงกับแผน และส่วนใหญ่ไม่ได้นั่งรถไฟ
-Free Coupon รถบัสฟูจิคิวทางไป Yamanaka-ko รวมป้ายขึ้นลงรถแล้วไม่คุ้มค่าพาส เลยไม่ซื้อครับ
-Narita Express Round Trip ขากลับตั้งใจจะแวะกลางทางเลยไม่ซื้อครับ
-Keio Pass พาสนี้จะคุ้มเมื่อนั่งทั้งขาไปและกับทาคาโอะ ชินจูกุ และต้องนั่งกระเช้าไปกลับ จึงไม่ซื้อครับ ไม่ตรงแผน
-JR RAIL PASS พาสนี้โดยส่วนตัวมองว่ามีไว้สำหรับนั่งชินคังเซ็น และได้แถมเป็นรวมรถไฟด่วนกับท้องถิ่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องนั่งชินคังเซ็นจึงไม่ซื้อ
ตั๋วทั้งหมดคือซื้อหน้างานทั้งหมด ไม่มีจอง จองมันง่ายไปหน่อย
แต่ถ้าอันไหนต้องจองก่อนจริงๆอันนั้นค่อยจองอย่างนั่งเรือชมแม่น้ำดังที่มีวันละสองรอบ ซึ่งยังไม่มีความคิดนั้นในหัว
ที่ไม่จองไว้เพราะโมเมนต์หนึ่งที่อยากได้จากทริปนี้เลยคือ ตู้ขายตั๋วพูดภาษาญี่ปุ่นใส่ ครับ
หรือโมเมนต์ที่ซื้อตั๋วกับนายสถานีโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น
ขอบคุณสำหรับ Bullet Idea หรือ Mind set ที่พอจะชี้ได้ว่าต้องคำนวณหรือทำการบ้านเรื่องไหนไว้บ้าง
ไว้ไปเที่ยวแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังและกันครับ(ถ้าตม./กงศุลยอมให้ผ่านwww)
ขอคำชี้แนะช่วยดูแผนเที่ยวญี่ปุ่นให้หน่อยครับ
คำถามที่อยากรู้มีเพียงอย่างเดียวว่า งบ 5หมื่นบาท เพียงพอกับทริปแบบนี้หรือไม่
สรุปแล้ว งบ 5หมื่นตามที่คิดไว้คือเกือบไม่พอ เพราะตั๋วเครื่องบินแพง บวกกับต้องเผื่อๆเงินไว้สำรองฉุกเฉินอีก หมื่น-2หมื่น
-ผมเข้าใจครับที่แนะนำให้หา SUICA หรือ PASMO เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
แต่ผมไม่ได้อยากได้ความสะดวกครับ
ผมไม่อยากจะหลับหูหลับตาเดินขึ้นลงเข้าออกสถานีรถโดยยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าระบบของเขาทำงานยังไง
ถ้าผมใช้ระบบเขาเป็นแล้ว ผมถึงจะพิจารณา SUICA อันนี้คือสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว
-ส่วนที่พักแน่นอนว่ามันถูกกว่าหากนอนที่เดียวหลายคืน แต่ถ้าแลกกับเวลาเดินทางไปกลับวันเดย์ทริป
การไม่ต้องไปกลับวันเดย์ทริปประหยัดเวลาในการเดินทางของแต่ละวันได้มากกว่า
-รถบัสที่นั่งทั้งหมดที่หามาตามเส้นทางที่จะไปเป็น Localหมด ไม่ใช่รถบัสด่วน ต่อให้อยากจะจองก็คงจองไม่ได้อะครับ เขาไม่มีให้จอง
เนื่องจากว่าเป็นแผนที่คิดด่วนล่วงหน้าไม่เพียงกี่เดือน ตั๋วเครื่องบินจึงได้ในราคา 24000 บาทไป-กลับครับ
ที่การวางจุดการเดินทางเริ่มจาก และจุดแวะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคนที่เยอะ
ถ้านั่งชิลแต่คนเยอะคืออยู่ไม่นานครับ อึดอัด
ถ้างานวัดคนเยอะ อันนี้ยินดีอยู่นานครับ
ถ้านั่งชิล บรรยากาศสงบ คนไม่เยอะ อันนี้อาจจะอยู่นานหน่อยแต่คงไม่ถึงชั่วโมงเพราะไปคนเดียว
NARITA -> KAMAKURA -> ODAWARA -> HAKONE -> YAMANAKA-KO -> FUJIKAWAGUCHI-KO -> MT.TAKAO -> TOKYO -> NARITA
รูทที่วางไว้คือการไม่ใช้โตเกียวเป็น HUB สภาพเหมือนจะขับรถเที่ยว แต่ใช้รถสาธารณะอย่างเดียว
1日 วันแรกที่ไปถึงสนามบิน ผมวาง Kamakura ไว้ก็จริง แต่จริงๆแล้วตรงนี้คือวันฟรี เนื่องจาก Kamakura ดันอยู่ในเส้นทางจะไป Odawara พอดี ผมเลยถือโอกาสแวะแค่ Hase กับ Kamakura Enoshima แวะไม่แวะก็ได้ เนื่องจากวันนั้นคือวันอาทิตย์ เวลาจึงมีน้อยกว่าปกติ
Hi-light ของตรงนี้คือทางคู่ขนาน Komachi-dori ที่เขาปลูกซากุระ และผมคิดเอาเองว่าเขาน่าจะมีการยิงไฟในต้นซากุระตอนกลางคืน
กับที่ปราสาท Odawara ก็เช่นกัน
นอน Odawara ใกล้สถานีเพื่อที่ว่าตอนเช้าจะได้ไป Hakone ได้ในทันที โดยตัดเรื่องนั่งรถจากชินจูกุ 1-2ชม. ออกไปเลย
2日 วันเที่ยว Hakone เต็มวัน เที่ยวจนฟ้ามืด เช่นนั้นวิว ณ ที่พักจึงไม่มีความจำเป็น ทำให้จำกัดไปห้องพักราคาถูกที่ไม่มีหน้าต่าง และต้องไปรอรถแต่เช้า
เนื่องจากที่นี่เป็นที่เที่ยวทั่วไปจึงไม่ได้ Hi-light อะไรมากนัก เขาว่า Sakura ของโกระก็สวย แต่หารูปอ้างอิงไม่ได้เลย
3日 วันเดินทางไป Yamanaka-ko ทะเลสาบที่จะให้มีอะไรมันก็จะมี หรือจะให้มันไม่มีอะไรมันก็จะไม่มี ผมได้ข่าวว่าที่นี่หงส์เป็นมิตรไม่ต่างจากกวางนารา
จึงอยากลองไปสัมผัสหงส์พวกนี้สักครั้ง และก็จบที่ Oshino แหล่งเที่ยวยอดฮิตของทัวร์ไทย แต่เนื่องจากมันเป็นจุดพักพอดี เลยพักที่นั่น 1คืน
4日 วันเดินทางไป Kawaguchi-ko ถ้ามีเวลาในตอนเช้ามากอาจแวะศาลเจ้าคิตะกุจิ ไปคาวางุจิซื้อคูปองรถบัสฟรีสายแดง เขียว และเที่ยวตามสายแดง
เริ่มที่พาโนรามาวิว ซึ่งตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะเดินขึ้นเขาและค่อยลงกระเช้า คอร์สขึ้นเขาตามที่หาข้อมูลมาใช้เวลาประมาณ 1ครึ่ง-2ชม
ตอนลงเขาคิดว่า คนขึ้นกระเช้าน่าจะไม่ลำบากเท่าตอนขึ้น เพราะคงไม่แวะบนนั้นนานคิดว่า
ถ้าเวลาจัดงานชมดอกซากุระ ตั้งตามกำหนดการพอดี ก็อาจจะได้เจองานวัดแถวพิพิธภัณฑ์ดนตรี
ส่วน Oishi Park ผมเชื่อว่าที่เขาไปแวะกันเพราะของฝากกับถ่ายวิว จึงไม่ค่อยซีเรียสครับถ้าจะไปไม่ไป หรือไปแล้วแวะเพียงแป๊บเดียว
ฉะนั้น Hi-light หลักของวันนี้จะมีเพียงงานวัด 360พาโนรามา กับร่องเรืออัปปาเระ
5日 อีกวันที่อยู่ Kawaguchi-ko เดินจากที่พักไปศาลเจ้ามิมูโระ รอรถบัสสีเขียว ไปลงถ้ำค้างคาว หาข้อมูลไปมาปรากฏไปเจอเส้นทางเดินป่า
ที่เชื่อมถึงกันระหว่างถ้ำค้างคาว ถ้ำลม ถ้ำน้ำแข็ง และหอดูนก เลยว่าจะใช้เวลาทั้งวันนั้นในการเดินป่า เว้นแต่ว่าจะเห็นรถบัสพอดี
Hi-light ของวันนี้ที่ผมตั้งใจไว้เลยคือ นกกระจิบป่าเกาะบนมือครับ เห็นคนญี่ปุ่นทำกี่ทีก็ทึ่ง ที่นกป่าดูคุ้นชินกับคนได้ขนาดนั้น
ถ้ามีเวลาแวะเนมบะ อิยาชิโนะซะโตะ และกลับมาศาลเจ้า กลับที่พัก
ในย่าน Fuji-ko ทั้ง 5 Hi-light ของกินที่ผมตั้งไว้คือ โฮโตกับเนื้อม้าและผักป่าผักภูเขาครับ
6日 วันที่จะเดินทางไปเขาทาคาโอะ ซึ่งจะเป็นพวกศาลเจ้า Chureito กับทาง Shimoyoshida พร้อมอุด้งเนื้อม้าเลื่องชื่อของที่นั่น
ซึ่งมีเวลาทั้งวัน เพราะไปที่ทาคาโอะก็เข้าที่พักอย่างเดียว และสืบรู้มาว่าแถวนั้นก็มีออนเซ็นด้วยเช่นกัน คงอาจจะเข้าไปแช่ที่นั่นถ้าไปถึงไว
7日 วันขึ้นเขาทาคาโอะ โดยตั้งใจว่าจะขึ้นเขาไปให้ถึงยอดก่อนเขาเปิดกระเช้า โดยใช้เส้นทางที่ 6 ใช้เวลา 1ชมครึ่ง-2ชม.
และเดินต่อไปอีกถึง เขาชิโระ และกลับลงมาเขาทาคาโอะ แวะศาลเจ้า และลงเขานั่งกระเช้า ผมให้เวลาที่ทาคาโอะเต็มวัน
เพราะที่เหลือคือการเดินทางไปโตเกียวคงไม่ได้ทำอะไรมาก
8日 - 9日 -10日 ณ ขณะนี้วันที่ 22 มีนา เขายังไม่ฟันธงเวลาจัดเทศกาลชมดอกซากุระ ต้องรอวันอาทิตย์ 24 มีนา เนื่องจากที่ผ่านมามีอากาศเย็นเฉียบพลั่นและกระแสลมแรง จึงทำให้ฤดูใบไม้ผลิช้ากว่ากำหนด ซึ่งถ้าได้กำหนดที่แน่ชัด ช่วงสามวันนี้จะเป็นวันไปชิลตามเทศกาลดอกซากุระครับ
สถานที่บังคับตัวเองว่าต้องไปคือแม่น้ำเมงุโระ สวนชินจูกุเกียวเอ็นครับ
และจะมี 1วันที่ต้องไปแวะสึกิชิมะถนนมงจา และวันที่หาต้มปลาโดะโจ(ผมเรียกมันว่าต้มปลาหลดญี่ปุ่น)
ส่วนนอกนั้นคือฟรีสไตล์ผมเลย เน้นเทศกาลชมดอกซากุระ
แต่กรณีแผนเดิมถ้าไม่ทันงานชมดอกไม้ ก็จะไปแวะตามจุดท่องเที่ยวปกติครับ
11日 วันกลับจะทำการเดินทางไปที่วัดเขานาริตะ และใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นั่นก่อนกลับ ซึ่งกำลังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะแวะเขาซากุระที่เป็นจุดชมเครื่องบินสนามบินนาริตะดีไหม จุดนั้นเองก็ปลูกซากุระเช่นกัน แต่วันกลับผมจะไม่วางตารางแน่น
เป้าหมายถึง ซากุระ งานวัด ของท้องถิ่น ส่วนพวกที่เที่ยวได้ทั้งปีจะช่างหัวมันไปเลยถ้าจำเป็นครับ
ในเมื่อได้แผนมาเช่นนี้ ค่าใช้จ่ายเดินทางรวมทั้งหมด 11 วันเท่ากับ 22000เยน หรือเท่ากับ 5200บาทครับ (รวมทุกพาสทุกตั๋วที่ใช้หมดทุกเส้น)
ส่วนที่พัก ด้วยความที่อยากเปิดหูเปิดตา ฉะนั้นจึงไม่เลือกที่พักยอดฮิตของคนไทย และเน้นที่พักที่ไม่ซ้ำกันสักคืน ไปให้รู้ นอนให้รู้
ไม่ใช่ว่าอีโก้หรืออะไรหรอกที่พักที่คนไทยไปพักกันราคาหารคือดีกว่า แต่ราคาสำหรับคนเดียวคือแพงครับ
หมดค่าที่พักไปคิดกลมๆ 14000บาท จริงๆแล้วค่าที่พักนอนคนเดียวที่หาได้สู้ราคาห้องหารสองไม่ได้เลย
แต่เนื่องจากไปคนเดียวจึงไม่มีทางเลือกเพราะอย่างน้อยกว่าถูกกว่าจ่ายห้องเตียงคู่ราคาเต็ม
ย้อนกลับที่เอาโตเกียวเป็นฮับ ถึงแม้พาสมันจะแพงกว่าถ้าคิดแค่ส่วนของเดินทาง แต่ถ้ารวมที่พักในแต่ละจุดไปด้วย
พาสจะราคาถูกกว่า และค่าที่พักจะลดลง แต่ผมไม่เสียใจหรอกนะที่ไม่เลือกโตเกียวเป็นฮับ ถือเป็นการจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับเวลา 2-4ชม ต่อวันครับ
และจะมีเวลาในส่วนอื่นมาก รวมถึงเวลาหลงด้วยเช่นกัน
ส่วนค่ากินผมกลมๆไว้มื้อละ 2000เยน รวม 3มื้อ งบต่อวันคือ 6000เยน 10วันเท่ากับ 60000เยน หรือ 14400บาท
ค่าชมสถานที่คิดแบบรวมๆซึ่งหน้างานอาจไม่ถึง 25000เยน หรือ 6000บาท
ค่าฝากกระเป๋ากลมๆแต่ละที่ 1000บาท
รวมทั้งหมดเป็น 64600บาท
หากตัดตั๋วเครื่องบินออกงบทั้งหมดจะเท่ากับ 40600บาท
เงินสำรองอีก 100000เยน เท่ากับ 24000 ณ เรทปัจจุบัน
รวมทุนเที่ยวรวมทุกอย่าง 88600บาท
ไม่มีงบชอปปิ้งเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร ไม่รู้จะซื้ออะไรไปฝากใคร ไม่มีใครให้ซื้อไปฝาก
รู้สึกเฉยๆกับขนมญี่ปุ่นของฝาก สู้ซื้อกินหน้าร้านไม่ได้เลย
ส่วนกิจกรรมส่งโปสการ์ดที่วางไว้ก็ในงบที่ตั้งไว้น่าจะพอจึงไม่น่าจะตั้งงบเพิ่มครับ
ทีนี้ก็มาดูกันว่า งบที่ใช้ไปจริงจะใช้ไปทั้งหมดเท่าไร
พาสที่จะซื้อ
Norioriku ขึ้นลงไม่อั้นสาย Enoden ว่ากันตามตรงอาจลงไม่คุ้มพาส แต่วันอาทิตย์ จะไปซื้อตั๋วน่าจะลำบากเลยตัดปัญหาโดยซื้อพาส
Hakone Free Pass ซื้อที่ Odawara ซื้อแบบสองวัน จากที่คำนวณพบว่า นั่งกระเช้า นั่งรถเคเบิล รถไฟขึ้นเขา นั่งเรือไปกลับ นั่งรถบัส วันเดียวก็คุ้มแล้ว
Free Coupon รถบัสฟูจิคิว แดงน้ำเงินเขียว 2วัน ตัดสินใจจะซื้อแยกจากตั๋วเข้าถ้ำ เพราะไม่แน่ใจเรื่องเวลาว่าจะมีพอมั้ย
Tokyo Metro 72 hr. เนื่องจากป้ายที่จะลงคิดดีแล้วว่ามีมากกว่า 6ป้ายภายใน 3วัน จึงเลือกพาสดังกล่าว
พาสที่จะไม่ซื้อ
-พาสที่เกี่ยวกับ Kamakura เนื่องจากเป็นวันแรกที่ถึงญี่ปุ่น จึงทำให้เสียเวลาในช่วงเช้าไป กล่าวคือผมมีเวลาเพียง 6ชม. ในการเที่ยวคามาคุระ
ซึ่งพาสดังกล่าวควรใช้เวลาเต็มที่ 12ชม. ในเที่ยว
-JR Wide Pass เนื่องจากระยะเวลาไม่ตรงกับแผน และส่วนใหญ่ไม่ได้นั่งรถไฟ
-Free Coupon รถบัสฟูจิคิวทางไป Yamanaka-ko รวมป้ายขึ้นลงรถแล้วไม่คุ้มค่าพาส เลยไม่ซื้อครับ
-Narita Express Round Trip ขากลับตั้งใจจะแวะกลางทางเลยไม่ซื้อครับ
-Keio Pass พาสนี้จะคุ้มเมื่อนั่งทั้งขาไปและกับทาคาโอะ ชินจูกุ และต้องนั่งกระเช้าไปกลับ จึงไม่ซื้อครับ ไม่ตรงแผน
-JR RAIL PASS พาสนี้โดยส่วนตัวมองว่ามีไว้สำหรับนั่งชินคังเซ็น และได้แถมเป็นรวมรถไฟด่วนกับท้องถิ่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องนั่งชินคังเซ็นจึงไม่ซื้อ
ตั๋วทั้งหมดคือซื้อหน้างานทั้งหมด ไม่มีจอง จองมันง่ายไปหน่อย
แต่ถ้าอันไหนต้องจองก่อนจริงๆอันนั้นค่อยจองอย่างนั่งเรือชมแม่น้ำดังที่มีวันละสองรอบ ซึ่งยังไม่มีความคิดนั้นในหัว
ที่ไม่จองไว้เพราะโมเมนต์หนึ่งที่อยากได้จากทริปนี้เลยคือ ตู้ขายตั๋วพูดภาษาญี่ปุ่นใส่ ครับ
หรือโมเมนต์ที่ซื้อตั๋วกับนายสถานีโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น
ขอบคุณสำหรับ Bullet Idea หรือ Mind set ที่พอจะชี้ได้ว่าต้องคำนวณหรือทำการบ้านเรื่องไหนไว้บ้าง
ไว้ไปเที่ยวแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังและกันครับ(ถ้าตม./กงศุลยอมให้ผ่านwww)