ดึกดำบรรพ์ Boy Band กำลังเตรียมกลับมาจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งในรอบ 5 ปี แต่บางคนอาจไม่ทราบว่า ดึกดำบรรพ์ Boy Band เป็นใคร หรือถึงทราบว่าใครเป็นสมาชิกก็อาจนึกไม่ออกถึงผลงาน หรือความเกี่ยวพันกับวงการเพลงบ้านเราเสียเท่าไหร่ หากไม่ได้ไล่ฟังอย่างละเอียดจริงจัง

จริง ๆ แล้ว "ดึกดำบรรพ์ Boy Band" คือวงที่มากกว่าวงดนตรี เพราะเป็นวงเพื่อนพ้อง ที่ประกอบด้วย ปั่น - ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว แต๋ม - ชรัส เฟื่องอารมย์ และ ตุ่น - พนเทพ สุวรรณะบุณย์ ซึ่งทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเรียนรามคำแหง จากนั้นต่างคนก็ต่างเข้าวงการเพลง เริ่มจากพี่แต๋มที่ไปออกอัลบั้มของตัวเอง โดยพาพี่ตุ่นไปทำงานเบื้องหลัง ช่วยเรียบเรียงเพลงทั้งหลายของพี่แต๋ม จากนั้นราว ๆ 4-5 ปี พี่ปั่นจึงถูกเพื่อน ๆ ทั้งสองดึงเข้าวงการด้วย และในงานเพลงของพี่ปั่นและของพี่แต๋ม อย่างน้อยก็จะมีชื่อของพี่ตุ่นอยู่เสมอ บางเพลงของพี่ปั่นก็มีพี่แต๋มมาร่วมเขียน ส่วนงานโปรดิวเซอร์ของพี่ตุ่นเอง ก็จะดึงพี่แต๋มไปช่วยในทีมเขียนเพลงบ้าง ผลลัพธ์ที่เกิดคือเพลงเพราะ ๆ ประด้บวงการมากมาย ไม่ว่าจะงานของชรัส งานของปั่น และงานของหลายศิลปินที่พี่ตุ่นไปช่วยเขียนและโปรดิวซ์ให้ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊ก วิยะดา กบ ทรงสิทธิ์ นีโน่ ฯลฯ

อย่างที่กล่าวในย่อหน้าข้างต้น ว่าในงานเพลงของสักคนใน ดึกดำบรรพ์ Boy Band ก็จะมีชื่อหนึ่งหรือสองคนที่อยู่เบื้องหลังหรือร่วมงานกันเสมอ แต่มีเพลงหนึ่ง ที่น่าจะนับว่าพิเศษ เพราะมีชื่อครบสามคนรวมอยู่ในเครดิต เพราะเพลงนี้แต่งทำนองโดยพี่ตุ่น เขียนคำร้องร่วมกันโดยพี่แต๋มและพี่ปั่น เพลงนั้นมีชื่อว่า "รักนิรันดร์" นอกจากนี้ยังเป็นงานคลาสสิก เพราะเป็นงานในอัลบั้มแรก "ปั่น" หรือเรียกอีกชื่อว่า "ฝันที่หลุดลอย" ราว ๆ ปี 2528 ได้ ซึ่งงานชุดนี้เกิดจากการที่คุณนินจา-ชนินทร์ โปสาภิวัฒน์ ได้ริเริ่มค่ายครีเอเทีย และได้มาปรึกษาพี่ตุ่นกับพี่แต๋มว่าจะหาศิลปินจากไหน ทั้งคู่เลยแนะนำพี่ปั่นที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนรามคำแหงด้วยกัน จนได้มีโอกาสออกอัลบั้มนี้ และมีเพลงนี้ที่จัดว่าเป็นเพลงฮิตที่สุดในอัลบั้ม

จึงเป็นจุดเริ่มต้นหลาย ๆ อย่างทั้งค่าย ครีเอเทีย หรือแม้แต่จุดเริ่มต้นของพี่ปั่นในการเป็นศิลปินออกอัลบั้ม เพราะว่าหลังจากนั้นพี่ปั่นก็มีงานตามออกมามากมาย และโด่งดังหลายชุดหลายเพลง ซึ่งแน่นอนว่า ข้างหลังบทเพลงเกินครึ่งของพี่ปั่น ก็จะเป็นฝีมือพี่ตุ่น รวมถึงทีมแต่งเพลงของพี่ตุ่น บางเพลงก็มีพี่แต๋มมาช่วย และสามคนนี้ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเรียน ก็ยังป้วนเปี้ยนในชีวิตกันและกันมาเรื่อย ๆ มารวมตัวกันในนาม ดึกดำบรรพ์ Boy Band เล่นคอนเสิร์ตที่มีเพลงเก่า ๆ ที่ผ่านฝีมือพวกเขาไม่ว่าจะร้องหรือจะแต่ง มีเพลงแต่งใหม่บ้างบางเวลา มีโชว์คอนเสิร์ตมากมายทั้งใหญ่เล็ก รวมถึงออกอัลบั้มมาหนึ่งชุด และยังส่งเสียงเพลงป้วนเปี้ยน(ในทางที่ดี)กับใจเราตลอดมา

และยังมีอีกหลายบทเพลง ที่เคยป้วนเปี้ยนในใจเราที่มาจากเสียงหรือฝีมือของทั้งสามคน ที่เราจะได้ฟังกันอีกครั้ง ในคอนเสิร์ต "ดึกดำบรรพ์ Boy Band : Est. Since 1980"
วันที่ 23-24 มี.ค. 2567 ที่ โรงละคร เคแบงก์ สยามพิฆเนศ บัตรเริ่มจำหน่ายในวันที่ 7 ก.พ. ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป
แล้วไปอิ่มเอมกับบทเพลงของพวกเขาทั้งสามคนด้วยกัน

ปล. ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความ "เพลงรักนิรันดร์ ดึกดำบรรพ์ Boy Band เพลงรักของคนรู้จักชีวิต" ของ The Cloud
https://readthecloud.co/thoughts-15/