ข่าวแนวหน้า
https://www.naewna.com/likesara/785508#google_vignette
วันอังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 17.29 น.
อึ้ง! พระระดับมหาทำฉาวหลอกพระเอกหมอลำคณะดังชาวอุดรขึ้นกุฏิ ชวนฉันบวบเซ็กส์หมู่กับเพื่อนพระอีกรูป พระเอกหมอลำสู้สุดชีวิตหนีเอาตัวรอดออกมาได้หวุดหวิด ก่อนโพสต์ลงเฟสบุ๊ค "อย่าดูถูกหมอลำ ถ้าชอบเรื่องอย่างว่าก็อย่าบวช...เล่นผิดคนบอกเลยมารศาสนา" ขณะที่พระหื่นหนีออกจากวัดเข้ากบดานวัดดังในกรุงเทพฯ พร้อมโทรอ้อนวอนขอให้ลบโพสต์ หรืออยากให้เอาขันธ์ห้ามาขอขมาก็ยอม
วันที่ 6 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตรีกวินท์ อายุ 34 ปี ชาว ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เป็นพระเอกหมอลำชื่อดังคณะหนึ่ง ได้เข้าให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงพฤติกรรมของพระมหารูปหนึ่งและเพื่อนสนิทอีกรูปหนึ่งหลอกให้ขึ้นกุฏิที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.นาข่า แล้วบังคับจะขอมีเซ็กส์หมู่กับตน แต่ตนร้องและ
โมโหด่าคืนจนรอดออกมาได้ หวิดตกเป็นเหยื่อกามอารมณ์ของพระทั้ง 2 รูปดังกล่าว และก่อนหน้านี้พระเอกหมอลำรายนี้ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คของตนเอง ระบุว่า "อย่าดูถูกหมอลำ ถ้าชอบเรื่องอย่างว่าก็อย่าบวช หมอลำไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อมาลัยทุกคน คนอื่นอาจจะยอมแต่ไม่ใช่ผม เล่นผิดคนบอกเลย มารศาสนา" ก่อนจะมาร้องเรียนและให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพื่อตีแผ่เรื่องของพระ 2 รูปนี้และไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเพียงเอาผ้าเหลืองมาบังหน้า
พระเอกหมอลำคณะดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ตนกำลังขนของเพื่อจะเตรียมงานการแสดงในงานของวัด ระหว่างขนของอยู่เจอพระรูปนี้ซึ่งเคยรู้จักเนื่องจากเคยซื้อชุดการแสดงกันเมื่อปีที่ผ่านมา ตอนนั้นพระรูปนี้ทราบชื่อต่อมาพระมหา ก็เชิญตนไปที่กุฏิ โดยบอกว่าอากาศร้อนตนก็บ่ายเบี่ยงว่ายังขนของไม่เสร็จ แต่พระรูปดังกล่าวก็คะยั้นคะยอบอกว่า มีพระรุ่นพี่อยู่ในกุฏิด้วย ตอนนั้นความรู้สึกตนก็คิดว่าพระคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้ และบอกว่า ต้นซึ่งเป็นหมอลำอีกคนในคณะก็จะไปที่กุฏิด้วย
จากนั้นพระก็ทำการชักชวนพูดคุย โดยบอกว่าหากมีงานจะติดต่อมาทำการแสดงตนก็เลยไปและไม่คิดว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เมื่อเข้าไปที่บริเวณชั้นล่างของกุฏิก็เห็นพระรูปนึงนอนอยู่ จากนั้นพระมหาก็พูดคุยสอบถามประวัติคุยเล่นคุยหัวกันปกติ พระรูปที่นอนอยู่ก็ลุกออกไป สักพักพระรูปนั้นก็เข้ามาใหม่ จากนั้น
พระก็เดินมาข้างหลังและจูบที่ซอกคอตน พยายามอยากจะมีอะไรด้วย ตนก็ปกป้องตัวเองพยายามดิ้นรนออกมา แต่ก็คะยั้นคะยอขอพูดคุยด้วย ขอมีอะไรด้วย แล้วพาตนขึ้นไปที่ชั้น 2 โดยบอกว่าขอได้ไหมจะให้มาลัย จากนั้นพระอีกรูปก็งัดของลับตัวเองออกมาพยายามจะให้เอาใส่ปากตน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกไม่โอเค สมมุติถามเรื่องนี้เกิดกับบุคคลอื่นที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือเด็ก ก็คงตกเป็นเหยื่อแน่
ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวช้าเนื่องจากตนติดงานการแสดงในพื้นที่อื่น แต่หลังจากเกิดเรื่องตนได้เอาเรื่องราวไปบอกให้กับเจ้าของวงรับทราบและมีการเอาเรื่องราวไปโพสต์ในเฟสบุ๊คตัวเองตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ พระทั้ง 2 รูปก็พยายามติดต่อมาไกล่เกลี่ยขอให้ลบโพสต์
ส่วนจากกรณีเหตุไฟไหม้พระธาตุ ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้นั้นตนก็ไม่อยากจะเชื่อมโยงว่าเป็นอาเพศเพราะพระทั้ง 2 รูปกระทำแบบนี้ในวัด แต่ฝากถึงพระทั้ง 2 รูปว่าถ้าคิดอยากจะทำอะไรแบบนี้อย่าใช้ผ้าเหลืองหรือศาสนาเป็นตัวล่อ อย่าใช้ความศรัทธาของคนมาสนองกิเลสตัวเอง เรื่องนี้ไม่ได้อยากเอาเรื่องอะไรแต่อยากให้หยุด และสึกออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกไม่โอเค
พระเอกหมอลำคณะคนดังกล่าว เปิดเผยต่อว่า หลังจากมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงเฟสบุ๊ค ปรากฎว่า ทางพระมหาได้ติดต่อมาทั้งโทรและแมสเซนเจอร์มาหา พยายามติดต่อมาไกล่เกลี่ย ขอให้ลบโพสต์ ซึ่งตนก็ได้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหลักฐานเป็นข้อความและเสียงโทร
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเสียงของพระมหารูปดังกล่าวที่พระเอกหมอลำผู้เสียหายนำมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวฟัง โดยพระมหารูปดังกล่าวพูดเสียงอ่อยกับพระเอกหมอลำว่า "คุยกันดีๆ ไม่ใช่จะไปโพสต์อย่างนี้ พี่ขอโทษแล้วนะ จะให้พี่ทำอย่างไร" พระเอกหมอลำก็ตอบโต้ว่า "ทำแบบนี้ทำไมไม่คิด ผมเคารพหลวงพี่ที่ไปกุฏิด้วย แต่ไม่คิดว่าว่าจะกล้าทำแบบนี้" พระมหาก็บอกว่า "พี่จะไม่ทำกับใครอีก พี่สัญญานะครับ เรื่องวันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อยากให้พี่ยกขันธ์ห้าไปขอขอมาพ่อแม่ก็ได้ ทำอะไรก็ยอม"
ขณะที่พระเอกหมอลำ ก็บอกว่า "เห็นครั้งแรกมองเป็นพระที่สำรวม ดูน่าเลื่อมใส มันใช่เหรอ พี่ขอนะ อมให้พี่หน่อย อย่ามองกันแบบนี้ ผมไม่ใช่คนเห็นแก่เงินหรือพวงมาลัยและไม่ขายศักดิ์ศรีตัวเอง พี่ไม่กลัวบาปหรือ ไม่กลัวเป็นเปรตหรือ เป็นพระมาทำแบบนี้" ขณะที่พระมหาก็ถอนหายใจและเสียงอ่อยบอกว่า "ลบโพสต์นะ... แค่อยากลองใจเท่านั้น ให้เอาขันธ์ห้าไปขอขมาก็ยอม พี่ขอโทษแล้วกัน"
ต่อมาพระเอกหมอลำคนดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดที่เกิดเหตุ พร้อมพาเดินไปดูกุฏิที่พระมหาและเพื่อนอีกรูปพาเข้าไปในกุฏิและหลอกขึ้นไปบนชั้นสองของกุฏิบังคับและพยายามจะขืนใจเพื่อเซ็กส์หมู่
ด้านเจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับพระทั้ง 2 รูปไม่ใช่พระของวัดนี้ เท่าที่รู้เป็นพระจากอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ มาเที่ยวงานของวัดที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6-14 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งวัดมีพิธีบูชาพระแม่โพสพและทำพระธาตุรวงข้าว ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นตนก็เพิ่งรู้วันนี้เอง เท่าที่รู้ตอนนี้พระทั้ง 2 รูปอยู่อำเภอเซกา ไม่รู้ว่าวัดอะไร
ล่าสุดผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปหาพระมหารูปดังกล่าวเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นและจะขอฟังอีกมุม แต่ไม่มีใครรับสายและทราบว่าพระมหาย้ายไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว ขณะที่พระเอกหมอลำ ได้เดินทางไปที่ สภ.นาข่า เพื่อลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.หน.สถานี สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ช็อค!พระเอกหมอลำแฉ ถูกพระมหา หลอกขึ้นกุฏิ บังคับฉันบวบ เซ็กส์หมู่ สู้สุดชีวิตรอด
https://www.naewna.com/likesara/785508#google_vignette
วันอังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 17.29 น.
อึ้ง! พระระดับมหาทำฉาวหลอกพระเอกหมอลำคณะดังชาวอุดรขึ้นกุฏิ ชวนฉันบวบเซ็กส์หมู่กับเพื่อนพระอีกรูป พระเอกหมอลำสู้สุดชีวิตหนีเอาตัวรอดออกมาได้หวุดหวิด ก่อนโพสต์ลงเฟสบุ๊ค "อย่าดูถูกหมอลำ ถ้าชอบเรื่องอย่างว่าก็อย่าบวช...เล่นผิดคนบอกเลยมารศาสนา" ขณะที่พระหื่นหนีออกจากวัดเข้ากบดานวัดดังในกรุงเทพฯ พร้อมโทรอ้อนวอนขอให้ลบโพสต์ หรืออยากให้เอาขันธ์ห้ามาขอขมาก็ยอม
วันที่ 6 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตรีกวินท์ อายุ 34 ปี ชาว ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เป็นพระเอกหมอลำชื่อดังคณะหนึ่ง ได้เข้าให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงพฤติกรรมของพระมหารูปหนึ่งและเพื่อนสนิทอีกรูปหนึ่งหลอกให้ขึ้นกุฏิที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.นาข่า แล้วบังคับจะขอมีเซ็กส์หมู่กับตน แต่ตนร้องและ
โมโหด่าคืนจนรอดออกมาได้ หวิดตกเป็นเหยื่อกามอารมณ์ของพระทั้ง 2 รูปดังกล่าว และก่อนหน้านี้พระเอกหมอลำรายนี้ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คของตนเอง ระบุว่า "อย่าดูถูกหมอลำ ถ้าชอบเรื่องอย่างว่าก็อย่าบวช หมอลำไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อมาลัยทุกคน คนอื่นอาจจะยอมแต่ไม่ใช่ผม เล่นผิดคนบอกเลย มารศาสนา" ก่อนจะมาร้องเรียนและให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพื่อตีแผ่เรื่องของพระ 2 รูปนี้และไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเพียงเอาผ้าเหลืองมาบังหน้า
พระเอกหมอลำคณะดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ตนกำลังขนของเพื่อจะเตรียมงานการแสดงในงานของวัด ระหว่างขนของอยู่เจอพระรูปนี้ซึ่งเคยรู้จักเนื่องจากเคยซื้อชุดการแสดงกันเมื่อปีที่ผ่านมา ตอนนั้นพระรูปนี้ทราบชื่อต่อมาพระมหา ก็เชิญตนไปที่กุฏิ โดยบอกว่าอากาศร้อนตนก็บ่ายเบี่ยงว่ายังขนของไม่เสร็จ แต่พระรูปดังกล่าวก็คะยั้นคะยอบอกว่า มีพระรุ่นพี่อยู่ในกุฏิด้วย ตอนนั้นความรู้สึกตนก็คิดว่าพระคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้ และบอกว่า ต้นซึ่งเป็นหมอลำอีกคนในคณะก็จะไปที่กุฏิด้วย
จากนั้นพระก็ทำการชักชวนพูดคุย โดยบอกว่าหากมีงานจะติดต่อมาทำการแสดงตนก็เลยไปและไม่คิดว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เมื่อเข้าไปที่บริเวณชั้นล่างของกุฏิก็เห็นพระรูปนึงนอนอยู่ จากนั้นพระมหาก็พูดคุยสอบถามประวัติคุยเล่นคุยหัวกันปกติ พระรูปที่นอนอยู่ก็ลุกออกไป สักพักพระรูปนั้นก็เข้ามาใหม่ จากนั้น
พระก็เดินมาข้างหลังและจูบที่ซอกคอตน พยายามอยากจะมีอะไรด้วย ตนก็ปกป้องตัวเองพยายามดิ้นรนออกมา แต่ก็คะยั้นคะยอขอพูดคุยด้วย ขอมีอะไรด้วย แล้วพาตนขึ้นไปที่ชั้น 2 โดยบอกว่าขอได้ไหมจะให้มาลัย จากนั้นพระอีกรูปก็งัดของลับตัวเองออกมาพยายามจะให้เอาใส่ปากตน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกไม่โอเค สมมุติถามเรื่องนี้เกิดกับบุคคลอื่นที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือเด็ก ก็คงตกเป็นเหยื่อแน่
ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวช้าเนื่องจากตนติดงานการแสดงในพื้นที่อื่น แต่หลังจากเกิดเรื่องตนได้เอาเรื่องราวไปบอกให้กับเจ้าของวงรับทราบและมีการเอาเรื่องราวไปโพสต์ในเฟสบุ๊คตัวเองตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ พระทั้ง 2 รูปก็พยายามติดต่อมาไกล่เกลี่ยขอให้ลบโพสต์
ส่วนจากกรณีเหตุไฟไหม้พระธาตุ ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้นั้นตนก็ไม่อยากจะเชื่อมโยงว่าเป็นอาเพศเพราะพระทั้ง 2 รูปกระทำแบบนี้ในวัด แต่ฝากถึงพระทั้ง 2 รูปว่าถ้าคิดอยากจะทำอะไรแบบนี้อย่าใช้ผ้าเหลืองหรือศาสนาเป็นตัวล่อ อย่าใช้ความศรัทธาของคนมาสนองกิเลสตัวเอง เรื่องนี้ไม่ได้อยากเอาเรื่องอะไรแต่อยากให้หยุด และสึกออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกไม่โอเค
พระเอกหมอลำคณะคนดังกล่าว เปิดเผยต่อว่า หลังจากมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงเฟสบุ๊ค ปรากฎว่า ทางพระมหาได้ติดต่อมาทั้งโทรและแมสเซนเจอร์มาหา พยายามติดต่อมาไกล่เกลี่ย ขอให้ลบโพสต์ ซึ่งตนก็ได้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหลักฐานเป็นข้อความและเสียงโทร
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเสียงของพระมหารูปดังกล่าวที่พระเอกหมอลำผู้เสียหายนำมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวฟัง โดยพระมหารูปดังกล่าวพูดเสียงอ่อยกับพระเอกหมอลำว่า "คุยกันดีๆ ไม่ใช่จะไปโพสต์อย่างนี้ พี่ขอโทษแล้วนะ จะให้พี่ทำอย่างไร" พระเอกหมอลำก็ตอบโต้ว่า "ทำแบบนี้ทำไมไม่คิด ผมเคารพหลวงพี่ที่ไปกุฏิด้วย แต่ไม่คิดว่าว่าจะกล้าทำแบบนี้" พระมหาก็บอกว่า "พี่จะไม่ทำกับใครอีก พี่สัญญานะครับ เรื่องวันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อยากให้พี่ยกขันธ์ห้าไปขอขอมาพ่อแม่ก็ได้ ทำอะไรก็ยอม"
ขณะที่พระเอกหมอลำ ก็บอกว่า "เห็นครั้งแรกมองเป็นพระที่สำรวม ดูน่าเลื่อมใส มันใช่เหรอ พี่ขอนะ อมให้พี่หน่อย อย่ามองกันแบบนี้ ผมไม่ใช่คนเห็นแก่เงินหรือพวงมาลัยและไม่ขายศักดิ์ศรีตัวเอง พี่ไม่กลัวบาปหรือ ไม่กลัวเป็นเปรตหรือ เป็นพระมาทำแบบนี้" ขณะที่พระมหาก็ถอนหายใจและเสียงอ่อยบอกว่า "ลบโพสต์นะ... แค่อยากลองใจเท่านั้น ให้เอาขันธ์ห้าไปขอขมาก็ยอม พี่ขอโทษแล้วกัน"
ต่อมาพระเอกหมอลำคนดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดที่เกิดเหตุ พร้อมพาเดินไปดูกุฏิที่พระมหาและเพื่อนอีกรูปพาเข้าไปในกุฏิและหลอกขึ้นไปบนชั้นสองของกุฏิบังคับและพยายามจะขืนใจเพื่อเซ็กส์หมู่
ด้านเจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับพระทั้ง 2 รูปไม่ใช่พระของวัดนี้ เท่าที่รู้เป็นพระจากอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ มาเที่ยวงานของวัดที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6-14 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งวัดมีพิธีบูชาพระแม่โพสพและทำพระธาตุรวงข้าว ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นตนก็เพิ่งรู้วันนี้เอง เท่าที่รู้ตอนนี้พระทั้ง 2 รูปอยู่อำเภอเซกา ไม่รู้ว่าวัดอะไร
ล่าสุดผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปหาพระมหารูปดังกล่าวเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นและจะขอฟังอีกมุม แต่ไม่มีใครรับสายและทราบว่าพระมหาย้ายไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว ขณะที่พระเอกหมอลำ ได้เดินทางไปที่ สภ.นาข่า เพื่อลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.หน.สถานี สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ไว้เป็นหลักฐานแล้ว