จากกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/42497619?sc=jzS9orK
หลังจากตั้งกระทู้เราตัดสินใจจะเลิกกับแฟนค่ะ แต่ยังไม่บอกเขา กะจะเคลียร์พวกเรื่องที่อยู่และหมาที่เลี้ยงด้วยกันก่อน พอถึงเวลาบอกเลิกอธิบายเหตุผลไปก็จะได้ไปเลย ไม่ต้องคาราคาซัง
และมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ตัดสินใจจะเลิก
เมื่อวานแม่แฟนมากินข้าวที่บ้านแฟนตอนเช้า(อยู่บ้านคนละหลังนะคะ) ตอนกินข้าวก็ปกติจนกระทั่งแฟนออกไปทำงานแล้วเราอยู่บ้านกับแม่เขา2คน(เราwfh) แม่เขาก็เกริ่นขึ้นมาว่าช่วงนี้เป็นยังไง เราก็ตอบว่าดีค่ะ ไม่แย่อะไร
อยู่ๆเขาก็เล่าว่า ก่อนหน้าที่ลูกชายเขาจะคบกับเรา ผญที่เข้ามาคือรวยๆทั้งนั้น คอยซัพพอร์ต คอยให้เงินหลักแสน ครึ่งล้านโดยไม่ขอคืน อย่างคนล่าสุดที่ลูกชายเขาทิ้งไปก็เป็นถึงด็อกเต้อ มีแค่เราที่ลูกชายเขาเปย์ นอกนั้นถูกเปย์ตลอด (ตั้งแต่คบกันมาเปย์ที่ว่าคือการพาไปกินของอร่อยๆ พวกค่าใช้จ่าย ช้อปปิ้ง ความงาม เงินเราเองทั้งนั้น) ก็งง ว่าจะเล่าทำไม ก็เลยอ๋อค่ะ แล้วเขาก็ถามว่ารู้ใช่ไหมว่าลูกเขาเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย เขาอะไม่สามารถช่วยอะไรลูกเขาได้นะเพราะเขาไม่มีรายได้ ถ้าลูกเขาล้มครอบครัวก็ล้มหมด เราก็ตอบว่าก็มีคุยๆคอยให้กำลังใจพี้เขาอยู่ค่ะ แม่เขาก็พูดประมาณว่า ต่อให้รักกันชอบกันให้กำลังใจแค่ไหนถ้าภาระยังแบกไว้ก็ไม่มีความสุขหรอก แล้วเขาก็เอาครอบครัวลูกอีกคนมาเชิงยกตัวอย่างว่า เนี้ย สามีลูกสาวเขาได้เงินเดือนมาก็เอาให้ลูกเขาหมดเพื่อผ่อนบ้าน เราเลยตอบว่า เพราะบ้านนั้นแต่งงานจดทะเบียน การช่วยกันลดภาระที่สร้างมาด้วยกันก็ถูกแล้วค่ะ แต่หนูกับแฟนคือเป็นแค่แฟน หนี้ภาระก็ไม่ได้มาสร้างเพราะคบกับหนู จะให้หนูหอบเงินไปปลดหนี้ช่วยคงไม่โอเคมั้งคะ
แม่เขาก็ตอบมาว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าหนูรักลูกเขามากกว่ารักตัวเองหรือป่าว (เราได้ยินคือแบบ อ่า) ลูกชายเขารักหนูมากเลยไม่เอาเรื่องเครียดไปให้หนู
เราก็ตอบประมาณว่า อะไรมันก็ไม่แน่นอนอะค่ะ ถ้าหนูช่วยแล้ววันนึงมันไปกันไม่รอดแล้วยังไงต่อ
แม่เขาพูดต่อว่า ด้วยสายตาคนนอกที่เขาไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังแบบเราๆ เขามองมาเขาคงคิดว่าคบกันมีแต่แย่ลงๆ เราก็ตอบไปว่า แต่ภาระที่เขามีตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับหนูเลยนะคะ จะให้หนูไปขอเงินพ่อแม่มาช่วยก็แย่ไปหน่อย
เขาก็แบบก็ไปคิดเอาว่ายังไง ถ้ารับได้ก็รับ แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมแบบนี้เป็นสิบยี่สิบปี ก็แล้วแต่เรา
บทสนทนาจริงๆเกือบชม แต่สรุปมาให้ประมาณนี้ พอคุยจบเขากลับไป เรารีบโทรหาแม่ตัวเองแล้วเราให้ฟังทันทีพร้อมบอกว่าจะเลิกกับแฟนนะ เพราะอะไร 1 2 3 4 จากที่ก่อนหน้าไม่ได้โกรธเพราะเข้าใจว่าหวังดีกับลูกชายตัวเอง แต่เมื่อวานเรารู้สึกโกรธมาก โกรธจนอยากด่าแต่ต้องคุมไว้เพราะเขายังเป็นแฟนของแม่เราอยู่ เราจี้ดจริงๆ แล้วเสียใจรู้สึกกับตัวเองและครอบครัวของตัวเองที่ปล่อยให้ตัวเองมาเจอคนแบบนี้ พ่อแม่เราแทบจะถนอมเราแบบไข่ในหิน โอเค ที่เราเป็นพนักงานเงินเดือนจบใหม่ไม่นาน แต่เราก็มีพ่อมีแม่ ครอบครัวเราไม่เคยให้เราลำบาก เพิ่งเริ่มสัมผัสคำว่าลำบากตอนทำงานเอง ไม่ได้ขอเงินใช้ และพ่อแม่เราไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่ากำลังถูกดูถูกแบบนี้มาก่อน แม่เรารักเราขนาดนั้นแล้วผญที่พูดแบบนี้ต่อหน้าเรามีสิทธิอะไร เราโกรธจริงๆ
เตือนใจทั้งตัวเองและคนที่เข้ามาอ่านค่ะ มีแฟนดูครอบครัวดูความคิดแม่เขาด่วน บางคนยิ่งกว่าละครช่องหลากสี ถ้าอนาคตเจอคนใหม่ต้องเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองเจออะไรแบบนี้อีก
ปล. ก่อนจากแฟนไป เราจะเล่าบทสนทนานี้ให้แฟนรับรู้ คือจริงๆแม่เขาบอกว่าอย่าบอกแฟนนะว่าแม่เล่าให้ฟัง ถ้าคนมันหวังดีจริงจะกลัวอะไร ก็คงรู้ว่าลูกชายคงไม่พอใจแน่นอน เราจะเล่าๆๆ แล้วปล่อยให้เขาเคลียร์กันเองโดยที่ไม่มีเราอยู่ในโคจรนั้นแล้ว ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ลูกจะโกรธแม่หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วแต่เลย ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายมากๆ
(ตั้งไว้เตือนใจ) ว่าถ้าอนาคตจะมีแฟนใหม่ ต้องดูแม่เขาด้วย
หลังจากตั้งกระทู้เราตัดสินใจจะเลิกกับแฟนค่ะ แต่ยังไม่บอกเขา กะจะเคลียร์พวกเรื่องที่อยู่และหมาที่เลี้ยงด้วยกันก่อน พอถึงเวลาบอกเลิกอธิบายเหตุผลไปก็จะได้ไปเลย ไม่ต้องคาราคาซัง
และมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ตัดสินใจจะเลิก
เมื่อวานแม่แฟนมากินข้าวที่บ้านแฟนตอนเช้า(อยู่บ้านคนละหลังนะคะ) ตอนกินข้าวก็ปกติจนกระทั่งแฟนออกไปทำงานแล้วเราอยู่บ้านกับแม่เขา2คน(เราwfh) แม่เขาก็เกริ่นขึ้นมาว่าช่วงนี้เป็นยังไง เราก็ตอบว่าดีค่ะ ไม่แย่อะไร
อยู่ๆเขาก็เล่าว่า ก่อนหน้าที่ลูกชายเขาจะคบกับเรา ผญที่เข้ามาคือรวยๆทั้งนั้น คอยซัพพอร์ต คอยให้เงินหลักแสน ครึ่งล้านโดยไม่ขอคืน อย่างคนล่าสุดที่ลูกชายเขาทิ้งไปก็เป็นถึงด็อกเต้อ มีแค่เราที่ลูกชายเขาเปย์ นอกนั้นถูกเปย์ตลอด (ตั้งแต่คบกันมาเปย์ที่ว่าคือการพาไปกินของอร่อยๆ พวกค่าใช้จ่าย ช้อปปิ้ง ความงาม เงินเราเองทั้งนั้น) ก็งง ว่าจะเล่าทำไม ก็เลยอ๋อค่ะ แล้วเขาก็ถามว่ารู้ใช่ไหมว่าลูกเขาเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย เขาอะไม่สามารถช่วยอะไรลูกเขาได้นะเพราะเขาไม่มีรายได้ ถ้าลูกเขาล้มครอบครัวก็ล้มหมด เราก็ตอบว่าก็มีคุยๆคอยให้กำลังใจพี้เขาอยู่ค่ะ แม่เขาก็พูดประมาณว่า ต่อให้รักกันชอบกันให้กำลังใจแค่ไหนถ้าภาระยังแบกไว้ก็ไม่มีความสุขหรอก แล้วเขาก็เอาครอบครัวลูกอีกคนมาเชิงยกตัวอย่างว่า เนี้ย สามีลูกสาวเขาได้เงินเดือนมาก็เอาให้ลูกเขาหมดเพื่อผ่อนบ้าน เราเลยตอบว่า เพราะบ้านนั้นแต่งงานจดทะเบียน การช่วยกันลดภาระที่สร้างมาด้วยกันก็ถูกแล้วค่ะ แต่หนูกับแฟนคือเป็นแค่แฟน หนี้ภาระก็ไม่ได้มาสร้างเพราะคบกับหนู จะให้หนูหอบเงินไปปลดหนี้ช่วยคงไม่โอเคมั้งคะ
แม่เขาก็ตอบมาว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าหนูรักลูกเขามากกว่ารักตัวเองหรือป่าว (เราได้ยินคือแบบ อ่า) ลูกชายเขารักหนูมากเลยไม่เอาเรื่องเครียดไปให้หนู
เราก็ตอบประมาณว่า อะไรมันก็ไม่แน่นอนอะค่ะ ถ้าหนูช่วยแล้ววันนึงมันไปกันไม่รอดแล้วยังไงต่อ
แม่เขาพูดต่อว่า ด้วยสายตาคนนอกที่เขาไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังแบบเราๆ เขามองมาเขาคงคิดว่าคบกันมีแต่แย่ลงๆ เราก็ตอบไปว่า แต่ภาระที่เขามีตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับหนูเลยนะคะ จะให้หนูไปขอเงินพ่อแม่มาช่วยก็แย่ไปหน่อย
เขาก็แบบก็ไปคิดเอาว่ายังไง ถ้ารับได้ก็รับ แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมแบบนี้เป็นสิบยี่สิบปี ก็แล้วแต่เรา
บทสนทนาจริงๆเกือบชม แต่สรุปมาให้ประมาณนี้ พอคุยจบเขากลับไป เรารีบโทรหาแม่ตัวเองแล้วเราให้ฟังทันทีพร้อมบอกว่าจะเลิกกับแฟนนะ เพราะอะไร 1 2 3 4 จากที่ก่อนหน้าไม่ได้โกรธเพราะเข้าใจว่าหวังดีกับลูกชายตัวเอง แต่เมื่อวานเรารู้สึกโกรธมาก โกรธจนอยากด่าแต่ต้องคุมไว้เพราะเขายังเป็นแฟนของแม่เราอยู่ เราจี้ดจริงๆ แล้วเสียใจรู้สึกกับตัวเองและครอบครัวของตัวเองที่ปล่อยให้ตัวเองมาเจอคนแบบนี้ พ่อแม่เราแทบจะถนอมเราแบบไข่ในหิน โอเค ที่เราเป็นพนักงานเงินเดือนจบใหม่ไม่นาน แต่เราก็มีพ่อมีแม่ ครอบครัวเราไม่เคยให้เราลำบาก เพิ่งเริ่มสัมผัสคำว่าลำบากตอนทำงานเอง ไม่ได้ขอเงินใช้ และพ่อแม่เราไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่ากำลังถูกดูถูกแบบนี้มาก่อน แม่เรารักเราขนาดนั้นแล้วผญที่พูดแบบนี้ต่อหน้าเรามีสิทธิอะไร เราโกรธจริงๆ
เตือนใจทั้งตัวเองและคนที่เข้ามาอ่านค่ะ มีแฟนดูครอบครัวดูความคิดแม่เขาด่วน บางคนยิ่งกว่าละครช่องหลากสี ถ้าอนาคตเจอคนใหม่ต้องเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองเจออะไรแบบนี้อีก
ปล. ก่อนจากแฟนไป เราจะเล่าบทสนทนานี้ให้แฟนรับรู้ คือจริงๆแม่เขาบอกว่าอย่าบอกแฟนนะว่าแม่เล่าให้ฟัง ถ้าคนมันหวังดีจริงจะกลัวอะไร ก็คงรู้ว่าลูกชายคงไม่พอใจแน่นอน เราจะเล่าๆๆ แล้วปล่อยให้เขาเคลียร์กันเองโดยที่ไม่มีเราอยู่ในโคจรนั้นแล้ว ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ลูกจะโกรธแม่หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วแต่เลย ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายมากๆ